244 เฮฮาศาสตร์ 3 AAR 1


พยายามสรุปการปรึกษาหารือกัน ถือว่าเป็นร่างรวมความคิดเห็นเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 50 ช่วงที่ลุงเอกแสดงความคิดเห็นว่า เราเป็นองค์กรชีวิต ซึ่งต่อมาขยายความไปโดยครูบา พยายามหยิบความเป็นตัวตนของคนแซ่เฮว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมก็หยิบสาระที่เฮฮาศาสตร์มักจะทำร่วมกัน แลกเปลี่ยนกัน การแสดงออกซึ่งกันและกัน ฯลฯ แล้วพยายามประมวลมาเป็นแผนภูมิดังที่เห็นนี่ครับ    

 

หลายคนถามหา ควานหา สอบถาม ฯลฯ ว่า เหล่าคนเฮฮาศาสตร์เป็นแบบไหน อย่างไร ผมเก็บปรากฏการณ์นี้มาจากคำกล่าวของครูบา และเพื่อนๆ สิ่งดังกล่าวนี้เป็นเพียงกระจกสะท้อนเท่านั้น ใช่หรือไม่ใช่ ตรงมากตรงน้อย เพื่อนๆช่วยกันแสดงความคิดเห็นต่อเนื่องได้เลยครับ 

อย่างไรก็ตามมีประเด็นต่อเนื่องว่า แผนภูมิของคนแซ่เฮเป็นเช่นนี้แล้ว จะมีภูมิคุ้นกันอย่างไรบ้าง ผมเชื่อว่าเรามีอะไรในใจกันบ้างแล้ว ก็อยากที่จะเปิดให้สาธารณะแห่งนี้ ได้ช่วยกันแสดงความเห็นได้เลยครับ 

นอกจากนี้แล้ว มีประเด็นที่ว่า อนาคตของคนแซ่เฮคืออะไร 

ประมวลความดูแล้วก็ร่ายมนต์แสดงผลเป็นแผนภูมิออกมาว่า   

อนาคตคืออะไรนั้น เป็นประเด็นให้เพื่อนทุกท่านแสดงความเห็นต่อเนื่อง ผู้บันทึกเลยนำแผนภูมิสรุปมาให้เป็นตุ๊กตาเช่นกัน เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบางส่วน ไม่ได้ประมวลกิจกรรมทั้งหมดที่ได้ทำมาแล้วว่ามีอะไรบ้าง ผลเป็นอย่างไร  การสรุปภาพคร่าวๆนี้อาจจะช่วยให้เป็นฐานเบื้องต้นในการคิด แสดงความคิดเห็นต่อเนื่องได้ครับ 

ข้อคิดเห็นเหล่านี้ จะค่อยๆต่อเติมความเป็นตัวตนให้ชัดเจนมากขึ้น แล้วคำตอบ ต่อคำถามต่างๆก็จะค่อยๆพิสูจน์ตัวมันเองมากขึ้น จนในที่สุดเป็นผลึกแห่งตัวตนคนแซ่เฮ ครับ 

หมายเลขบันทึก: 147720เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2007 20:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

สวัสดีครับพี่บางทราย

ผมเห็นการถอดบทเรียนออกมาส่วนนี้ ทำให้ผมคิดถึงหลังที่จะมาผลักดันเคลื่อนงานที่ครอบคลุมทุกพื้นของสังคมเรา

เฮฮาศาสตร์ ณ ปาย นั้น เป็นกลุ่ม Blogger กลุ่มหนึ่ง ที่เขียนบันทึก เป็นกลุ่มไม่ใหญ่มาก แต่เราก็เชื่อว่า ไม่น้อยหน้าอำเภอใดในประเทศไทยที่เทียบกับจำนวนประชากร และ ความเข้มแข็งของกลุ่ม

Blogger @ Pai เรามียุทธศาสตร์ที่เป็น ธรรมชาติ และ สิ่งที่เราจะเคลื่อนต่อไปนั้น เรียกว่าทำด้วยใจครับ

ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ "เฮฮาศาสตร์"

-------------

ช่วงสิ้นปีจะมีการทำบุญร่วมกันของเหล่าเฮฮาศาสตร์เมืองปายครับ

ตอนนี้เรากำลังรอรวบรวมของบริจาคอยู่ครับ

ท่านไม่ยอมเหนื่อย ทำการบ้านให้พวกเราอย่างยอดเยี่ยม อยากให้ทุกคนได้อ่าน

  • ผมเข้ามาตามกระแสจิตของพ่อที่ส่งมาตามสายลมแล้วครับ
  • เกินกว่าคำว่า " ดีที่สุด " คำนี้ยังน้อยไปครับ

กำลังตั้งสมาธิ  ให้มีสติ  เกิดปัญญา  เพื่อวาดอนาคต g2k  และเฮฮาศาสตร์ว่าจะมีเป้าหมาย  ทิศทางไปทางใด  กรอบแนวทางทำกิจกรรมมีอะไรบ้าง  ปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นว่ามีอะไร  พร้อมทั้งมีภูมิคุ้มกันต่อแรงต่างๆที่มากระทบ

พอดีช่วงนี้มีงานแทรกมาสามงาน  คือเตรียมพิธีเบิกพระเนตรพระฝาง  ในพระบรมมหาราชวัง  และเคลื่อนย้ายพระไปอุตรดิตถ์  งานที่สองช่วยจัดตั้งสถาบันพัฒนา ปปช.  และงานสามพรุ่งนี้ ลปรร กับอธิการบดีและผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  เรื่องการสร้างสังคมสันติสุข

การบ้าน g2k ครั้งนี้ยิ่งใหญ่นัก  ผมกำลังใช้ยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมือง  ช่วยหลานๆที่เพิ่งเข้ามาใช้ชีวิตใน g2k  ไม่ให้หายตายจากไป 

ตัวนี้สำคัญยิ่งของ g2k  เพราะตัวเลข  75 % ของผู้ที่เข้ามาได้หายจากไปจากบล็อก  เฮฮาศาสตร์คือกลุ่มคน เพียง 0.5 % g2k  สิ่งนี้ท้าทายนัก  เพราะเฮฮาศาสตร์จุดไฟติดแล้วต้องให้ลาม  แบบคืบคลานที่ทุกคนมีเป้าหมาย  ทั้งปริมาณ  คุณภาพ  พื้นที่  ความรู้

ขอกลั่นความคิดอีกพังจะเสนอผ่านบล็อกครับ

สวัสดีค่ะพี่บางทราย

มาบอกว่าชอบเป้าหมายที่เขียนไว้มากเลยค่ะ

"อนาคตคืออะไรก็ตาม แต่ก็เพื่อสังคม"

อนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนจริงๆ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้สายสัมพันธ์ของคนแซ่เฮได้เกิดขึ้นแล้ว ... 

น้องเอกครับ P 1. จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

  • สิ่งที่คิดน่ะ ดีแล้ว ชอบแล้ว
  • ต้องทำกันต่อไปครับ นอกจากภารกิจที่เป็นส่วนตัวแล้ว ภารกิจเพื่อสังคมในรูปของ G2K ก็เป็นสิ่งที่ต้องร่วมกัน สนับสนุนกัน
  • พี่ว่าสังคมเล็กๆที่เมืองปายน่ะ เหมาะมากที่จะเริ่ม ขยาย เพราะไม่ซับซ้อนเท่าเมืองใหญ่ และหากรวมกันติด พลังมหาศาลเลยหละต่อสังคมขนาดเล็กเช่นปายครับน้องเอก
  • อย่าเร่งทำ ค่อยๆเป็นไปนะครับ

 

 

ครูบาครับ P 2. ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

  • เมื่อมีแรงก็อย่าหยุดทำงาน ผมคิดอย่างนั้นครับ ครูบาเสียอีกทำงานหนักกว่าผม หลายเท่านัก
  • ทำไปจนกว่าจะหมดแรงทำครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ น้องP  3. นายสายลม อักษรสุนทรีย์ 

  • ขอบคุณมากครับน้องสายลม
สวัสดีครับ P   ลุงเอก                                                                                              

การบ้าน g2k ครั้งนี้ยิ่งใหญ่นัก  ผมกำลังใช้ยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมือง  ช่วยหลานๆที่เพิ่งเข้ามาใช้ชีวิตใน g2k  ไม่ให้หายตายจากไป 

ตัวนี้สำคัญยิ่งของ g2k  เพราะตัวเลข  75 % ของผู้ที่เข้ามาได้หายจากไปจากบล็อก  เฮฮาศาสตร์คือกลุ่มคน เพียง 0.5 % g2k  สิ่งนี้ท้าทายนัก  เพราะเฮฮาศาสตร์จุดไฟติดแล้วต้องให้ลาม  แบบคืบคลานที่ทุกคนมีเป้าหมาย  ทั้งปริมาณ  คุณภาพ  พื้นที่  ความรู้

ผมรับทราบข้อมูลครับ หากจะสร้างจำนวนที่เหลือของคนแซ่เฮจาก G2K ก็ต้องใช้เวลามาก แต่ก็ต้องทำหละครับ เพิ่งทราบว่าลุงเอกมีงานล้นมือเลยนะครับ

ขอบคุณมากครับ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้จักกันครับ 

สวัสดีครับอาจารย์ครับ  P 5. กมลวัลย์

  • ขอบคุณครับอาจารย์ครับ
  • ช้าไปไฟก็มอด
  • เร็วไปก็อาจเจอปัญหา
  • พอดีอยู่ตรงไหน ?
  • แต่ยังไงก็ต้องทำ ( อะไรสักอย่างหรือหลายๆอย่าง )
  • ขอบพระคุณสำหรับการต้อนรับที่ดงหลวงค่ะพี่
  • ประทับใจจริงๆ สำหรับก๊วนเฮฮาศาสตร์ค่ะ

คุณหมอชอบวิ่งครับ

  • ผมเห็นด้วยครับ ช้าไปไฟมอด เร็วไปก็อาจมีปัญหา  แล้วอยู่ตรงไหนถึงพอดี ?
  • ผมถึงลากเส้นจากคนแซ่เฮไปถึงอนาคตเป็นเส้นคดๆ ที่ไม่เป็นเส้นตรง
  • เส้นคดๆ หมายถึงระหว่างทางเดินของคนแซ่เฮย่อมมีอุปสรรค ย่อมมีปัญหาน้อยใหญ่ เป็นปกติของการเคลื่อนตัวของสิ่งมีชีวิต และเป็น chaos
  • แต่เนื่องจาก คนแซ่เฮมีมี "ภูมิคุ้มกัน" ที่ผมสรุปเอาเองนะครับว่าคือ "พลังรักและศรัทธา" สิ่งนี้คือภูมิคุ้มกันครับ จะช่วยให้ ปัญหาและอุปสรรคคลี่คลายไปในทางที่ดี หรือมีปัญหาก็หมดปัญหา หรือลดลง มีอุปสรรคก็หมดอุปสรรค หรือลดลงไป
  • "พลังรักและศรัทธา" จะเป็นเกราะป้องกันที่เป็นนามธรรม 
  • ความเป็นจริงของโลกเรานี้สิ่งที่แข็งที่สุด ก็คือนามธรรม เช่นศีลธรรม คุณธรรม ความเชื่อ ศรัทธา  สิ่งเหล่านี้คงอยู่ คนต่างหากที่เสื่อมสลายไป วัตถุต่างหากที่เสื่อมสลายไป
  • หากคนแซ่เฮทนุถนอม "พลักรักและศรัทธา" ได้ เมื่อเวลาเคลื่อนตัวไป กิจกรรมที่ทำขึ้นมาจะเป็นสื่อที่เชิญชวนให้เพื่อนใหม่ๆเข้ามาเป็นคนแซ่เฮ โดยไม่ได้เชิญ ไม่ได้บังคับ ไม่ได้สั่งให้มา ไม่ได้รับสมัคร แต่เกิดการยอมรับเองและเข้ามาเองโดยใจสั่ง
  • ผมเห็นกรณี paleeyon ครับ ผมไม่ได้เชิญ ผมไม่ได้ชวน ผมไม่ได้มีอิทธิพลใดๆกับ paleeyon เลย ตรงข้ามเขาเป็นตัวของเขาเอง  และมีโลกส่วนตัวของเขาเองด้วยซ้ำไป  แต่เมื่อเขาเข้ามาสัมผัส blog ครูบา กลุ่มคนแซ่เฮ พักเดียวเท่านั้น เขาก็กลายมาเป็นคนแซ่เฮโดยอัตโนมัติ โดยเจ้าตัวก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป
  • ยิ่งครูบาโอบกอด paleeyon ผมเดาความรู้สึกได้เลยว่า หัวใจทั้งหมดของเขาเกิดพลังรักและศรัทธาพุ่งปรี๊ด จนปรอทแตกไปแล้ว น้ำตาของพลังรักและศรัทธาไหลหลั่งออกมาอย่างไม่รู้ตัว หัวใจมันเต้น พองโต สาร อะดรีนาลีน หลั่งออกมามากมาย
  • ดังนั้นผมสัมผัส ผมเห็น ผมรับรู้ ได้ด้วยใจจึง บันทึกสิ่งนี้ออกมาครับ

น้องลูกหว้าครับ P 12. อ.ลูกหว้า

  • น้องลูกหว้าน่ารักมาก
  • พี่ยังเขินๆกับน้องเลย (เด็ก..ใหม่ครับ)
  • สวัสดีครับพี่บางทราย
  • ต้องขอขอบพระคุณและชื่นชมงานที่ดงหลวงมากครับ
  • แม้เวลาจะไม่มากแต่ได้เรียนรู้อย่างมากมาย
  • คนแซ่เฮนั้นก็คงต้องปรับตัว และพัฒนาอย่างเหมาะสม
  • ไม่ช้าในบางประเด็น หรือเร็วไปในบางเรื่อง และมีวิธีต่อยอดขยายวงที่หลากหลาย-หลายมิติ
  • มีประเด็นหนึ่งที่ได้เรียนรู้ในส่วนของการขยายวง หรือการให้ชาว G2K ได้กล้าที่จะก้าวมาเป็นคนแซ่เฮได้อย่างดี ก็คือตัวอย่างของพี่เปลี่ยนที่พี่บางทรายได้เล่าไว้
  • เพราะเป็นการปรับเปลี่ยนและขยายวงที่เป็นการเข้าไปเปลี่ยนมาจากข้างใน
  • ขอคิดต่อนะครับแล้วจะนำมาแลกเปลี่ยนในโอกาสต่อไป
  • ขอบพระคุณมากครับ

น้องสิงห์ครับ

  • พี่เห็นกรณีของ paleeyon แล้วนึกออกว่านี่แหละคือใจสั่งมา การขยายวง ป่าล้อมเมืองของคุณลุงเอก
  • ก็เพราะอะไรเล่า  ถ้าไม่ใช่ ท่านครูบา เฮฮาศาสตร์ สมาชิกทุกคน กิจกรรมที่ทำ บรรยากาศและสาระที่เฮฮาศาสตร์สร้างขึ้นมา เหล่านี้คือองค์ประกอบแวดล้อมเป็นพลังมหาศาลขึ้นมาครับ
  • โชคดีที่เฮฮาศาสตร์เป็นธรรชาติ ไม่มีกฏ ระเบียบ ข้อบังคับ ไม่มีเจ้านาย ลูกน้อง ไม่มีเส้นสาย ไม่มีชั้นขั้นตอน เอาแบบดิบๆที่คนพึงกระทำกับคนแบบที่สร้างสรรค์ นี่แหละคือ "วิถีเฮฮาศาสตร์"
  • อิ่มใจเมื่อได้เห็นชาวเฮฮาศาสตร์มีความมุ่งมั่นที่จะใช้ป่าล้อมเมือง
  • ดีใจที่เห็นคนตระกูลเฮ มีจิตตระหนักต่อสังคมส่วนรวม
  •  Lin Hui เต็มใจ ร่วมมือร่วมใจ ร่วมสร้างฝันของชาวเฮฮาศาสตร์ให้เป็นจริงค่ะ
  • THINK BIG START SMALL
  • สนับสนุนทุกประเด็นของพี่บางทรายค่ะ
  • นกตัวเล็ก ๆ คนนี้ยินดีรับใช้และร่วมมือทุกกรณีค่ะ ไงก็บอกมาได้เลย
  • คิดถึงพี่บางทรายค่ะ
  • คิดถึงพี่ ๆ ทุกคนที่ดงหลวงค่ะ

วิถีของผม ยิ่งทำยิ่งชัด การได้พบเครือข่ายเป็นการสร้างพลังให้ผมยิ่งขึ้นทวีคูณ

http://gotoknow.org/blog/thawesin/142220

และทางสายนี้ทำให้เราเห็นความมุ่งมั่นที่จะทำให้กับสังคมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะสังคมในองค์กร และนอกองค์กร จนผมไม่แยกแยะมันแล้ว

ผมพยายามขยายเผ่าพันธุ์ทั้งในองค์กรและนอกองค์กรเช่นกัน

ตอนนี้พยายามพัฒนาตนให้พร้อม เรียนรู้ให้มาก เชื่อว่าเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีสำหรับตนเอง และแบ่งปันให้กับคนอื่นด้วย เพื่อก่อให้เกิดทั้งเป็น การหล่อเลี้ยงให้เจริญเติบโต และ เพิ่มพูนทักษะ แผ่กระจายสู่ผู้คนรอบข้าง 

"คนแซ่เฮ" เรามีความเชื่อในความไม่เป็นทางการ สบายๆ สนุกสนาน เคารพในความหลากหลาย แต่เปี่ยมไปด้วยพลังกายพลังใจ ในการขับเคลื่อน ก่อให้เกิดปัญญา และสร้างสรรสิ่งที่ดีสู่สังคม

ความมุ่งมั่นของพวกเราถึงยังเป็นส่วนน้อย แต่มันแรง ชัด  ไม่แพ้GSM  และภูมิคุ้มกันที่มีกัน สร้างความเปลี่ยนแปลงได้แน่

ผมมีความเชื่อในความมุ่งมั่น ตั้งใจ พลังความรักและศรัทธา มันจะก่อให้ปัญญา แล้วจะพร้อมรับสิ่งที่ถาโถมเข้ามาได้

ดูเหมือนเป็นเรื่องนามธรรม แต่สิ่งที่เป็นนามธรรม ส่วนใหญ่เป็นการลงทุน ต้องอาศัยการบ่มเพาะ ดูเหมือนช้า แต่ยั่งยืน มันต้องพิสูจน์โดยปัญญาปฏิบัติ ทำถึงจะรู้

 

สวัสดีพี่สาวที่น่ารัก P 17. Lin Hui

  • ลุงเอก ตั้งประเด็นไว้ หมอชอบวิ่งกระตุกให้คิด ผมมาลองวาดภาพให้เห็นลางๆ เป็นเค้าเบื้องต้นครับ
  • แล้วยกขึ้นเวทีสาธารณะแห่งนี้ เห็นกันชัดๆ แล้วก็คิดพิจารณา เติมแต่งด้วยทัศนะ ประสบการณ์ ตัวอย่าง การผ่านพบมา ผมเชื่อเรื่อง "การปรับตัว" ยิ่งคนแซ่เฮไม่อยู่ภายใต้วางครอบของอำนาจใดๆ หรือกล่าวได้ว่าอิสระ ยิ่งปรับตัวง่ายพอกับยาก ง่ายเพราะไม่มีอะไรมาครอบ ยากเพราะสมาชิกหลากหลาย แต่เวลาและความสัมพันธ์ที่เป็น "ความรักและศรัทธา" จะเป็นพลังเชื่อมให้ความหลากหลายลดรูปลงมา ให้ความแตกต่างสลายตัวลงมา กลมกลื่นกัน เมื่อถึงอีกขั้นหนึ่งก็ปรับลงไปอีก  จากหยาบสู่ละเอียด จากละเอียดจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
  • พลังรักและศรัทธาแบบไร้รูปแบบนี่แหละครับ ผมเห็นองค์กรแบบ community organization ปรับตัวมาแล้วมากต่อมาก นั่นภายใต้กฏ ระเบียบ ข้อบังคับ ยังปรับเข้าหากัน ใครที่ไม่ปรับก็หลุดออกไป ใครที่ขวางการเคลื่อนตัวก็จากจรออกไปโดยธรรมชาติ อาจจะเรียกว่า Natural selection ก็ได้ครับ ผมเห็นผมจึงกล้าสรุป
  • ขอบคุณพี่มากครับที่เข้ามาแลกเปลี่ยนกันครับ

สวัสดีครับน้องนกตัวเล็กๆ P 18. เพ็ญศรี(นก)

 

  • พี่หละประทับใจน้องนกที่เฝ้าส่งข่าวไปถึงบ้านด้วยโทรศัพท์ทุกวัน ทุกวัน นี่แหละ แม่บ้านที่รักของครอบครัว
  • โชคดีครับที่ TOT มาติดตั้งตู้โทรศัพท์ไว้ แม้ว่าจะไม่สดวกสบายเท่าการใช้มือถือ  แต่ก็พอแก้คิดถึงไปได้นะครับ
  • กลางป่ากลางดอยพี่ยังนึกว่า เอ เราจะแก้ไขอย่างไรเรื่องระบบการสื่อสาร ดีที่ทาง TOT ก็สนับสนุนเต็มที่ ยอดเยี่ยมเลย ต้องขอบคุณ TOT พี่ละเบาใจไปเป็นกองที่สามารถเล่น เน็ตได้  ไม่งั้น ลงแดงตายเหมือนคุณ conductor กล่าว เกือบไปเหมือนกันวันแรกๆ
สวัสดีครับน้อง P 19. คนดอย
เมื่อ อ. 20 พ.ย. 2550 @ 16:32 463849 [ลบ]

วิถีของผม ยิ่งทำยิ่งชัด การได้พบเครือข่ายเป็นการสร้างพลังให้ผมยิ่งขึ้นทวีคูณ

http://gotoknow.org/blog/thawesin/142220

และทางสายนี้ทำให้เราเห็นความมุ่งมั่นที่จะทำให้กับสังคมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะสังคมในองค์กร และนอกองค์กร จนผมไม่แยกแยะมันแล้ว

ผมพยายามขยายเผ่าพันธุ์ทั้งในองค์กรและนอกองค์กรเช่นกัน

 

อ่านแล้วก็ปิติเป็นอย่างยิ่งที่คนคนหนึ่งเกิดความรู้สึกเช่นนั้นขึ้นมา ในสมัย 14 ตุลาเราเรียกภาวะแบบนี้ว่า  "การเกิดใหม่" คือเกิดทางสติปัญญา ครับ

ตอนนี้พยายามพัฒนาตนให้พร้อม เรียนรู้ให้มาก เชื่อว่าเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีสำหรับตนเอง และแบ่งปันให้กับคนอื่นด้วย เพื่อก่อให้เกิดทั้งเป็น การหล่อเลี้ยงให้เจริญเติบโต และ เพิ่มพูนทักษะ แผ่กระจายสู่ผู้คนรอบข้าง 

 

การพัฒนาสังคมเล็กหรือใหญ่ ต้องเกิดความรู้สึกดังกล่าว เพราะเราดันสังคมเพียงคนเดียวทำไม่ได้ ต้องคนรอบข้างและกว้างออกไป นั่นคือการสร้างคน ต้องสร้างคน

"คนแซ่เฮ" เรามีความเชื่อในความไม่เป็นทางการ สบายๆ สนุกสนาน เคารพในความหลากหลาย แต่เปี่ยมไปด้วยพลังกายพลังใจ ในการขับเคลื่อน ก่อให้เกิดปัญญา และสร้างสรรสิ่งที่ดีสู่สังคม

 

เราเห็นสังคมในระบบมาแล้ว และมีข้อสรุปมากมายถึงข้อจำกัดการพัฒนาคนภายใต้ระบบ ซึ่งเรามิอาจหลุดออกมาได้ตราบใดที่ยังสังกัดองค์กร เมื่อ คนแซ่เฮเกิดขึ้น กลายเป็นแบบให้ขบคิดต่อไปอย่างน้องคนดอยกล่าว

ความมุ่งมั่นของพวกเราถึงยังเป็นส่วนน้อย แต่มันแรง ชัด  ไม่แพ้GSM  และภูมิคุ้มกันที่มีกัน สร้างความเปลี่ยนแปลงได้แน่

ผมมีความเชื่อในความมุ่งมั่น ตั้งใจ พลังความรักและศรัทธา มันจะก่อให้ปัญญา แล้วจะพร้อมรับสิ่งที่ถาโถมเข้ามาได้

การเปลี่ยนแปลงต้องมีจุดเริ่ม แรงผลักและความต่อเนื่องภายใต้ เป้าหมายเชิงบวก  จุดเริ่มคือ การมาพบปะแลกเปลี่ยนกัน แรงผลักคือ ความรักความศรัทธา ความต่อเนื่องคือกิจกรรมต่างๆที่ก่อประโยชน์ต่อสังคมและตนเอง

ดูเหมือนเป็นเรื่องนามธรรม แต่สิ่งที่เป็นนามธรรม ส่วนใหญ่เป็นการลงทุน ต้องอาศัยการบ่มเพาะ ดูเหมือนช้า แต่ยั่งยืน มันต้องพิสูจน์โดยปัญญาปฏิบัติ ทำถึงจะรู้

 

การที่เรากล่าวถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมและพยายามเข้าใกล้สิ่งนั้น เป็นเครื่องบ่งชี้ถึง การพัฒนาจิตลงสู่ภาวะอันแท้จริงของสรรพสิ่ง ที่เกี่ยวเนื่องกันและกัน ส่วนใหญ่แตะเพียงรูปธรรม แต่ไม่เห็นนามธรรม เมื่อเราสัมผัสนามธรรม เมื่อนั้นจิตของเราพัฒนาสู่การหยั่งรู้ครับ

สาธุๆๆๆๆ

รู้แจ้งเห็น...ธรรม เลยครับ

ขอบคุณครับ ที่ช่วยต่อยอด

น้องคนดอยครับ

  • แต่เราก็ยังสังกัดองค์กร  นี่คือโจทย์ที่เราต้องทำงานพัฒนาคนภายใต้สถานการณ์นี้ อย่างเลี่ยงไม่ได้
  • โชคดีที่มี มหาชีวาลัย เอาคนในระบบออกมานอกระบบ ให้บรรลุแจ้งไปเลย แล้วกลับเข้าสู่ระบบ เขาก็จะปรับตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายใต้ระบบได้เช่นกันครับ
  • อย่างที่น้องคนดอยทำนั่นแหละถูกต้องแล้ว ครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท