ในหนังจีนเรื่องหนึ่ง ตัวเอกเป็นยอดซามูไรเดินทางมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาท้ารบจอมยุทธ์ในแผ่นดินใหญ่... ก่อนจะถึงวันประลองยุทธ์นั้น ภรรยาของยอดซามูไรก็มาตามกลับบ้านบอกกล่าวทำนองว่า...
- กลับบ้านเถิดพี่ ! ลูกๆ ก็คิดถึงพ่อ นาไร่และโรงสีก็ขาดคนดูแล...
จากคำปรารภข้างต้น ทำให้เกิดวิวาทะขึ้น ระหว่างยอดซามูไรและภรรยาว่า..
- แล้ว... อยู่ไปวันๆ ไม่ดีตรงไหน ?
นั่นคือ ความเห็นต่างที่หนังจีนสะท้อนออกมา ซึ่งเมื่อก่อนผู้เขียนก็คิดว่า ไม่อยากจะอยู่ไปวันๆ ... แต่หลายปีมานี้ คำถามว่า อยู่ไปวันๆ ไม่ดีตรงไหน ? ... กลับมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
...............
เทอมนี้ ผู้เขียนไม่ได้สอนหนังสือ และหรือ อาจเลิกสอนตลอดไป... ผู้เขียนสอนหนังสือมานาน กล่าวได้ว่าเริ่มหัดสอนหนังสือโดยช่วยติวให้เพื่อนตั้งแต่เริ่มเป็นวัยรุ่น ชีวิตของความเป็นครูนั้น เริ่มแรกมีความภูมิใจในตัวเองที่สามารถช่วยติวคณิตศาสตร์และกลศาสตร์ต่อเพื่อนๆ ได้... และเมื่อเข้ามาบวช ผ่านการเป็นครูมามานานปีและหลายรูปแบบ ความภูมิใจในความเป็นครูเลือนหายไป มองไปถึงสิ่งที่ควรจัดการสูงขึ้นไป....
คนๆ หนึ่งนั้น เป็นสมาชิกของเซ็ตหลากหลาย เช่น ในฐานะลูกของพ่อแม่ สมาชิกของตระกูลในฝ่ายต่างๆ ศิษย์เก่าของสถานศึกษาหรือสำนักนั้นๆ ภิกษุในบวรพุทธศาสนา หรือพลเมืองของรัฐ เป็นต้น... เมื่อคำนึงถึงความเป็นสมาชิกของเซ็ตนั้นๆ แล้ว ความเป็นตัวกูของกูก็ย่อมเกิดขึ้น นั่นคือ ต้องการที่จะจัดการแต่ละเซ็ตที่สังกัดอยู่ให้ดีขึ้นตามความเห็นส่วนตัว (ซึ่งก็ยืนยันไม่ได้ว่า ความเห็นส่วนตัวนั้นจะถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ ?)... แต่โอกาสในการเข้าไปจัดการนั้นมีน้อยเหลือเกิน บางกรณีก็แทบจะไม่มีโอกาสเลย...
การอยู่ไปวันๆ ก็สุขสบายดี... เพียงแต่ว่าบางอย่างที่คุกรุ่นอยู่ภายใน แม้สามารถอาจทำให้สงบลงได้โดยใช้หลักธรรมที่เป็นฝ่ายตรงข้ามเข้าไปข่มไว้ หรือด้วยการหาสิ่งทดแทนเพื่อความเพลิดเพลินอื่นๆ... แต่ ความคุกรุ่นภายใน จะฟุ้งขึ้นมาอีกครั้ง (และอีกครั้งๆ ) เมื่อมีอารมณ์บางอย่างมากระทบ...
การอยู่ไปวันๆ ก็คือการทำให้สิ่งที่คุกรุ่นภายในสงบระงับไป หรือการหาสิ่งเพลิดเพลินอื่นๆ เข้ามาทดแทนเพื่อบดบังไว้... แค่นั้นหรือ ?
ถ้าตอบได้ว่า เพียงแค่นั้น ก็อาจสอดรับกับคำว่า อยู่ไปวันๆ ไม่ดีตรงไหน ?
...............
อันที่จริงจะเขียนต่อ แต่เขียนๆ ลบๆ หลายครั้ง นั่นคือ เริ่มจะ ฟุ้ง จึงขอจบห้วนๆ ... แต่ก่อนจบใคร่ถามความคิดเห็นเล่นๆ ว่า