นิทานจี้ใจ "การวางแผนเชิงกลยุทธ์" (เรื่องที่ 3)


อย่าเลียนแบบกลวิธีของหลวงตามาใช้ในการปฏิบัติงานก็แล้วกัน

      การคิดเชิงกลยุทธ์ ต้องอาศัยการคิดกลวิธี  เหมือนกับการออกศึกสงครามที่ผู้นำทัพจะต้องหากลวิธีอันแยบยลที่จะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามให้ได้  ซึ่งการคิดกลวิธีก็อาจมีทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ  ดังตัวอย่างนิทานเรื่องกลวิธีของหลวงตารูปหนึ่ง

                        เช้าวันหนึ่งหลวงตาไปถ่ายทุกข์ที่ถาน(ส้วมของพระ)ที่อยู่หลังกุฏิ  บังเอิญไปพบเต่าตัวหนึ่งก็เกิดกิเลสอยากฉันเต่าขึ้นมา  แต่ด้วยความเป็นสงฆ์จะทำอะไรที่โจ่งแจ้งเกินไปก็ดูไม่งาม  หลวงตาจึงครุ่นคิดหากลวิธีที่จะฉันเต่าให้ได้

                        เมื่อกลับมาถึงกุฏิ  หลวงตาเห็นเด็กวัด 2-3 คนจับกลุ่มกันอยู่  จึงหยิบหนังสือธรรมมะเล่มหนึ่งเดินไปนั่งใกล้ๆกับกลุ่มเด็กวัด  กางหนังสือออก  แล้วแกล้งอ่านดังๆ

            เมื่อเช้ากูไปถาน  เห็นเต่ามันคลานตัวโตใหญ่  กลุ่มเด็กวัดหันมามองหลวงตา  แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าหลวงตาอ่านหนังสือธรรมมะหรือเรื่องจริง  จึงไม่สนใจและเล่นกันต่อ  หลวงตาเห็นเด็กไม่สนใจจึงแกล้งอ่านหนังสืออีกครั้ง

            เจอแล้วดูเผินๆท่ามันเดินคงมีไข่ใน  เด็กวัดได้ฟังก็ตาวาว  เริ่มเข้าใจว่าหลวงตาพูดเรื่องจริง  ต่างวิ่งกรูไปที่ถาน แยกย้ายกันค้นหาจนพบเต่าใหญ่ตามคำบอกเล่าของหลวงตา  จึงช่วยกันจับเต่าและอุ้มมาใกล้ๆกับที่หลวงตาอยู่  ต่างหยิบมีดไม้มาฟัน ทุบเต่าเป็นการใหญ่  แต่ก็ทำอะไรเต่าไม่ได้  เพราะมันหลบหัวลงไปในกระดองที่แข็งแกร่ง  หลวงตาดูอยู่แล้วจึงอ่านหนังสือดังๆ

            มีดไม้ใช้ไม่ได้  ถ้าให้ตายต้องเผาไฟ  เด็กวัดจึงจัดการตามสัญญาณที่หลวงตาบอกเป็นนัยๆ  แล้วติดเตาถ่านเตรียมต้มเต่าทั้งกระดอง  คว้าหม้อมาหลายใบแต่ก็ใส่เต่าลงในหม้อไม่ได้  หลวงตาจึงว่าต่อ

            หม้อนั้นมันเล็กนัก  แล้วหม้อต้มกรักเอาไว้ทำไม  (หม้อต้มกรักคือหม้อต้มจีวร)  เด็กวัดรู้ว่าหลวงตาอนุญาตให้ใช้หม้อต้มกรักได้  จึงคว้าหม้อนั้นมาจัดการต้มเต่า  พอต้มจนสุกก็ฉีกเนื้อหนัง ไส้และไข่เต่าเตรียมปรุงอาหารต่อไป  แต่ก็คิดไม่ออกว่าจะใส่อะไรลงไป  หลวงตาชำเลืองดูอยู่เกรงว่าจะไม่อร่อย  จึงอ่านหนังสืออีกครั้ง

ตะไคร้ใบมะกรูด  มะพร้าวขูดใส่ลงไป  เด็กๆจึงดำเนินการตามหลวงตา  และต้มยำเต่าจนสุกส่งกลิ่นหอมฉุยเตะจมูก  แล้วต่างพากันหยิบถ้วยชามทัพพี รี่มาที่หม้อต้มยำเต่า  หลวงตาเห็นไม่ได้การจึงรีบกล่าวทัดทานด้วยเสียงที่ดังเป็นพิเศษ

     เนื้อหนังเด็กกินได้  ไข่กับไส้ไว้ฉันเพล

                  ผมคงต้องขอเตือนนักวางแผนทั้งหลายว่า  อย่าเลียนแบบกลวิธีของหลวงตามาใช้ในการปฏิบัติงานก็แล้วกัน 
       
เพราะถึงจะเป็นวิธีการอันชาญฉลาดก็จริง  แต่ก็ไม่สร้างสรรค์  ไม่เช่นนั้น
องค์การคงปั่นป่วนแน่

หมายเลขบันทึก: 96491เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2007 08:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 19:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท