FM.96.5 MHz : Human Talk


FM.96.5 MHz : Human Talk วันเสาร์เวลา 21.00 - 22.00 น.

เรียน ท่านผู้ฟัง F.M. 96.5  MHz          

            ผมขอขอบทุกท่านที่ติดตามฟังผมทางคลื่นความคิด F.M. 96.5 MHz เป็นประจำทุกวันครับ ผมขอเรียนว่าเวลาออกอากาศของผมได้เปลี่ยนแปลงใหม่ ครับ  จากทุกวันพุธตอน 19.30 – 20.30 น. มาเป็น ทุกวันเสาร์เวลา  21.00 – 22.00 น. ในช่วง Human Talk ครับ ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านคงจะติดตามฟังผม อย่างต่อเนื่องต่อไปนะครับ         

            และเพื่อเปิดโอกาสให้คนฟังรายการฯ มีบทบาทมากขึ้น   ในช่วงใหม่นี้ ผมได้เปิดโอกาสให้ผู้ฟังทุกคนร่วมเสนอแนะหัวข้อที่อยากรับฟัง ผ่านมาทาง Blog : FM.96.5 MHz ช่วง Human Talk ครับ  โดยเฉพาะตอนนี้ เรามีโครงการ Case Study ที่เน้นกิจกรรมของเรา และเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น  ซึ่งเมื่อตอนผมออกอากาศในช่วง ทุ่มครึ่งนั้น ส่วนใหญ่จะพูดเรื่องส่วนรวม  แต่เวลาใหม่นี้ ผมจะได้มีโอกาสเน้นในเรื่องคนมากขึ้น ครับ           

             ในการนี้ ผมจึงขอเปิด Blog : FM.96.5 MHz ช่วง Human Talk เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน อันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ครับ และสำหรับ 10 ท่านแรกที่ตอบเขียนมาใน Blog นี้ ผมขอมอบหนังสือ ทรัพยากรมนุษย์พันธุ์แท้ให้ท่านละ 1 เล่ม ครับ                                       

                                             จีระ  หงส์ลดารมภ์.  

คำสำคัญ (Tags): #fm.96.5 mhz
หมายเลขบันทึก: 96386เขียนเมื่อ 15 พฤษภาคม 2007 15:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 11:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

สวัสดีครับท่าน จีระ

ขอแสดงความเห็นหน่อยครับ

ท่านเปิดหลายๆบล๊อกแล้วท่านได้อะไรบ้างครับ พวกเราไม่ทราบจริงๆครับ  ช่วยตอบด้วยครับ

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับคุณสิทธิรักษ์

การที่ผมต้องเปิดบันทึกหลาย ๆ บันทึกนั้น เพราะผมมีลูกศิษย์หลายกลุ่ม และแต่ละกลุ่มล้วนมีเรื่องที่น่าศึกษาแตกต่างกันไป และบล็อกที่เปิดขึ้นมานั้นก็เปิดโอกาสให้คนที่สนใจในแต่ละเรื่องได้เข้าไปอ่าน เข้าไปศึกษา เรียนรู้ ที่บางครั้งสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้นำมาแลกเปลี่ยนกันก็หาไม่ได้จากในตำรา หวังว่าคำตอบนี้คงทำให้คุณหายสงสัยนะครับ

สวัสดีครับ ศ.ดร.จีระ และท่านผู้อ่านทุกท่าน 

ผมได้มีโอกาสใกล้ชิดกับ ศ.ดร.จีระ จริง ๆ เริ่มจากที่ อาจารย์เข้ามาสอนวิชา การบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอนาคต ในโครงการปริญญาเอก จนถึงปัจจุบันนี้ ผมติดตามอาจารย์และบล็อคของอาจารย์ในฐานะศิษย์ และคนไทยที่ปราถนาในการเรียนรู้ตลอดชีวิต  ด้วยเชื่อว่า "ชีวิตคือการศึกษา รักกว้าหน้า ต้องหมั่นศึกษาตลอดชีวิต"

 ในช่วงแรกที่อาจารย์สอนในโครงการ ปริญญาเอก  อาจารย์ได้แนะนำให้ศิษย์ทุกคนเข้าไปศึกษา และแชร์ความรู้ประสบการณ์ ในบล๊อค  ตอนนั้นผมไม่เคยใช้บล๊อคมาก่อนเลย  แต่พออาจารย์แนะนำ ผมก็ทำตาม ผมได้มีโอกาสเรียนรู้เนื้อหาสาระ นอกเวลาเรียน ได้เรียนรู้จากผู้คนมากมายในบล็อค ได้มีโอกาสแชร์ความรู้ประสบการณ์ จนกระทั่งทำให้ผมเอง มีประสบการณ์ในการใช้บล๊อคในการหาความรู้ แชร์ความรู้ และทันสมัยขึ้น ในยุคนี้ เป็นยุค Knowledge Sharing ผมในฐานะศิษย์ และในฐานะคนในสังคมไทย คิดว่าได้ประโยชน์และได้ความรู้จากบล็อคของอาจารย์ เป็ฯอย่างมากครับ

 

สวัสดีครับ ศ.ดร.จีระ และท่านผู้อ่านทุกท่าน

 

ผมได้มีโอกาสใกล้ชิดกับ ศ.ดร.จีระ จริง ๆ เริ่มจากที่ อาจารย์เข้ามาสอนวิชา การบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอนาคต ในโครงการปริญญาเอก จนถึงปัจจุบันนี้ ผมติดตามอาจารย์และบล็อคของอาจารย์ในฐานะศิษย์ และคนไทยที่ปราถนาในการเรียนรู้ตลอดชีวิต  ด้วยเชื่อว่า "ชีวิตคือการศึกษา รักกว้าหน้า ต้องหมั่นศึกษาตลอดชีวิต"

 

ในช่วงแรกที่อาจารย์สอนในโครงการ ปริญญาเอก  อาจารย์ได้แนะนำให้ศิษย์ทุกคนเข้าไปศึกษา และแชร์ความรู้ประสบการณ์ ในบล๊อค  ตอนนั้นผมไม่เคยใช้บล๊อคมาก่อนเลย  แต่พออาจารย์แนะนำ ผมก็ทำตามที่อาจารย์แนะนำ ครับ 

ผมได้มีโอกาสเรียนรู้เนื้อหาสาระ นอกเวลาเรียน ได้ตลอดเวลา ได้เรียนรู้จากผู้คนมากมายในบล็อค ได้มีโอกาสแชร์ความรู้ประสบการณ์ จนกระทั่งทำให้ผมเอง มีประสบการณ์ในการใช้บล๊อคในการหาความรู้ แชร์ความรู้ และทันสมัยขึ้นสามารถเปิดบล็อคของตัวเองได้อีกด้วย

ในยุคนี้ เป็นยุค Knowledge Sharing ผมในฐานะศิษย์ และในฐานะคนในสังคมไทยที่ชอบการเรียนรู้  ผมคิดว่าได้ประโยชน์และได้ความรู้จากบล็อคของอาจารย์ และยังได้มีโอสศึกษาจากบล็อคของสมาชิก gotokonw ท่านอื่น ๆ ได้อีกด้วย นับว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมากครับ

ดิฉันติดตามฟังรายการของอาจารย์ทุกวันพุธ เวลาทุ่มครึ่ง

อาจารย์ย้ายมา วันเสาร์ เวลาดึกเข้าไป ทำไมย้ายมาล่ะค๊ะ  เวลาเดิมคนส่วนใหญ่กำลังอยู่ในรถเปิดฟังวิทยุได้ง่าย

เวลาดึ่กแบบนั้น ที่บ้านจะนอนแต่หัวค่ำ คงไม่ได้ฟังอาจารย์พูดแล้ว  เสียดายจังเลย

ตามที่ท่านได้ถามผมว่าทำไมรายการถึงได้เปลี่ยนเวลา?         
           ผมขอเรียนท่านผู้ฟังครับว่าเป็นนโยบายของทางสถานีเนื่องจากที่จะเน้นเรื่องการเมืองมากหน่อยในช่วงนี้ ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะในเวลาเดิมนั้นผมมีแฟนรายการมากพอสมควรอยู่แล้ว ต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมไม่ได้เป็นคนจัดเวลาเอง แต่ถึงรายการจะย้ายไปออกวันเสาร์ก็อยากให้ติดตามไปฟังกันนะครับ และหากท่านมีเวลาก็สามารถเข้าไปฟังรายการย้อนหลังได้ที่ www.mcot.net หรือที่เว็บไซต์ของผม www.chiraacademy.com สำหรับรายการวันเสาร์ตอนกลางคืน ผมจึงมีโอกาสได้วิเคราะห์ในมุมที่ลึกขึ้นในเรื่องทรัพยากรมนุษย์แง่มุมต่าง ๆ ที่ผมใช้เวลาศึกษาก่อนที่จะเลือก Concept ที่จะมาเล่าให้ท่านผู้ฟังได้ฟัง             
            ผมอยากให้ท่านติดตาม Bill Gates ที่ได้เข้าไปเรียนที่ มหาวิทยาลัย Harvard  30 ปีที่แล้ว และเขาได้ Drop Out หลังจากนั้นเขาก็ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์อีกด้วย Bill gates น่าสนใจมากครับ Speech ของเขาจะเป็นประโยชน์ต่อคนฟังมาก มนุษย์เราเกิดมาเพื่อเรียนรู้ มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจบประถมหรือได้รับปริญญา ถ้าได้เรียนก็จะมีประโยชน์ต่อคนฟังทุกคน เขาสนใจเรื่องเทคโนโลยีมากก็เลยเข้าใจเรื่องอื่น ๆ ไม่ได้มาก       
             แต่ตอนอายุ 40  ยังได้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ เกี่ยวกับคนรวย และคนจน เกิดความไม่เสมอภาคในสังคม ความไม่รู้การศึกษาทำให้มีผลด้านสุขภาพและอนามัย Bill Gates ได้นำเงิน 30 Billon US มาลงทุนเพื่อทำกิจกรรมด้านนี้   และ Wallen Buffet มอบเงิน 60 Billon US ให้กับคนในโลกเพื่อสนับสนุนเรื่องการศึกษาและสุขภาพอนามัย (เกือบครึ่งหนึ่งของการส่งออกของประเทศไทย เงินที่ Bill Gates ใช้การแก้ปัญหาเกือบ 40 เท่าของที่คุณทักษิณมีอยู่)        
           ถ้าถามว่าเกี่ยวอะไรกับคนไทย วันเสาร์นี้ผมมีประเด็นที่จะพูดคือ  เกี่ยวกับตัวผมเองผมก็ทำงานไปอีกต่อหนึ่ง เป็นการพลิกฐานปิระมิด ทำงานระดับชุมชน ระดับชาวบ้าน  คือผมก็ได้ไปพูดให้กับ Indorama เป็นการพูดให้กับคนในระดับอาชีวะ ซึ่งเป็นการพัฒนา สร้างสังคมการเรียนรู้ คนเราไม่ว่าจะจบอะไรมาก็สามารถที่เรียนรู้ได้ และยังไปบรรยายให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำอีกด้วย ซึ่งผมพูดถึงเรื่องการเหลื่อมล้ำที่จะทำให้คนเสียเปรียบ ทำให้ได้รับข้อมูลที่ตรงประเด็น บางคนที่ฟัง เขาก็ทำเพื่อครอบครัวและเพื่อนฝูง  ถ้าไม่ทิ้งมรดกอะไรไว้ให้เลย คนที่ไปงานศพ ก็มีแค่ญาติพี่น้องแค่นั้นเอง อย่างที่คุณหมอเสม พริ้งพวงแก้ว ท่านได้สอนให้ผมได้รู้ว่า..ควรทำเพื่อชาติไม่ใช่การเอาเปรียบต่อประเทศชาติต่อไป                  
       จีระ  หงส์ลดารมภ์        

สวัสดีค่ะ..ศ.ดร.จีระ และชาวFM.96.5ทุกท่าน

         ดิฉันในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์ ขอขอบคุณอาจาย์ที่มีรายการดีๆมีสาระ มุมมองต่างๆ จากแนวคิด ประสบการณ์ มาให้พวกเราฟัง ทำให้รู้จักBlog รู้วิธีใช้ แชร์ความรู้ระหว่างกันมากขึ้น เป็นแหล่งค้นคว้าที่ได้ประโยชน์มากค่ะ

        

เรียน อ. จีระ ที่เคารพ

ดิฉันได้มีโอกาสฟังรายการ human talk ในวันที่ 23/6/07 รู้สึกชอบมากเวลาที่ อ. กล่าวถึง ในหลวงค่ะ เพราะพระองค์ทรงพระปรีชาจริงๆ (เสนอแนะให้ อ. พิจารณาเพิ่ม ช่วงเวลาในการ กระจายเสียงค่ะ เพื่อให้ทุกๆคนที่มีความสะดวกในช่วงเวลาที่ต่างกันจะได้สามารถฟังได้ (อาจเป็น เทป ที่บันทึกไว้ก็ได้นะคะ)

สวัสดี อาจารย์จีระ

 ผมได้มีโอกาสฟังรายการ Human Talk เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา  ทำให้ผมได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์จากเรื่องที่อาจารย์ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน  รู้สึกชอบรายการนี้มากเนื่องจากทำให้มีความรู้มากขึ้นและจะติดตามอย่างต่อเนื่องครับ

เรียน อาจารย์จีระ ที่เคารพ

ดิฉันได้ฟังรายการ Human Talk วันเสาร์ที่23 มิ.ย.50 ช่วงที่อาจารย์แนะนำให้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ด้วย "ปัญญา" ทำให้ดิฉันรู้สึกนึกคิดขึ้นมาทันทีว่า เมื่อชีวิตเรามีปัญหาเกิดต้องคิดถึงปัญหาที่เกิดแล้วต่อจากนั้นต้องใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหา สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ขอขอบคุณมากค่ะ

นักศึกษาปริญญาโท พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

       สวัสดีครับ อ.จีระที่เคารพ

             ผมอยากจะถามความเห็นของ อ.จีระ เรื่องแรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานในภาคอุตสาหกรรมของบ้านเราครับ    ผมสังเกตว่า มีโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่  ใช้แรงงานต่างด้าวเข้ามาแทนที่แรงงานไทยโดยให้เหตุผลในเรื่องค่าแรงที่ถูก และความขยันที่มากกว่า ซึ่งจากการที่ผมได้สัมผัสกับแรงงานต่างด้าวมาพบว่า ก็เป็นเรื่องจริง   แต่ผมกำลังมองว่าถ้าเราใช้แรงงานต่างด้าวมันจะมีปัญหาตามมาหลายเรื่อง

1.ในส่วนของแรงงานต่างด้าวเอง โดนกดค่าแรง  ได้ไม่ถึงเกณฑ์แรงงานขั้นต่ำ  และโดนหักหัวคิว จากคนที่จัดการดูแลพาเข้ามาสมัครงาน และหาที่อยู่ให้อีก  ผมเคยสอบถามกับแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ที่โรงงานที่ผมเคยทำอยู่ (โรงงานทำข้าวกล่อง + ติ่มซำ ป้อนบริษัทแม่ ที่มีสาขาอยู่ หลายพันแห่งทั่วประเทศ ) แรงงานต่างด้าวคนนั้นบอกกับผมว่า พวกเค้าได้ค่าแรงมาเท่าไร ต้องโดนหักหัวคิว และต้องนอนรวมกันในห้องๆนึงไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งคนที่หักหัวคิวจะเป็นคนดูแล )    ถ้าจะมองในแง่ของสิทธิมนุษยชนผมว่ามันไม่ยุติธรรม

2.ในส่วนของคนไทยเอง  ทุกคนน่าจะทราบถึงข่าวคราวอาชญากรรมในปัจจุบันนี้ซึ่งส่วนหนึ่งผู้ก่อเหตุเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยและทำงานอยู่ในเมืองไทย  แน่นอนคนต่างด้าวย่อมมีทั้งดีและไม่ดี แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่คนต่างด้าวเข้ามาในประเทศไทยเรามากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาญชากรรมเพิ่มขึ้น

ลองนึกภาพตัวเรา เดินกลับบ้านคนเดียวตอนเย็นๆในที่เปลี่ยวๆหน่อย แล้วเจอกลุ่มคนต่างด้าวสัก 10 คนนั่งอยู่บริเวณนั้น คุณจะรู้สึกอย่างไร?   เดินต่อ หรือ หาทางอื่นเลี่ยง

ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ผมเพียงอยากทราบว่า

เรื่องนี้ใครเป็นผู้ได้ผลประโยชน์   นายทุนใช่หรือไม่ ?  

เรื่องนี้ใครเป็นผู้เสียผลประโยชน์   คนไทย คนต่างด้าว สังคม  ที่ต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวงใช่หรือไม่ ? 

ผมอยากถามความเห็นของอ.จีระว่า

1.เรื่องนี้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีแนวทางแก้ไขหรือไม่ ?

2.ถ้ามีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในส่วนที่เป็นแรงงานต่างด้าว อ.จีระเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไรครับ

                                              ขอบคุณครับ

                ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับท่านอาจารย์จีระ ที่ได้รับรางวัล Thailand Top 100 HR 2007  หรือ รางวัลนักทรัพยากรมนุษย์ ดีเด่นแห่งประเทศไทย เมื่อวานนี้ 29 มิถุนายน 2550 ที่ผ่านมา และขอ Up date รายละเอียดสำหรับคนที่ยังไม่รู้นะค่ะ รางวัลนี้ ผู้ได้รับมอบรางวัลเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากกลุ่มหน่วยงานเอกชน หน่วยงานรัฐบาล องค์กรวิชาชีพและวิชาการ อาทิเช่น นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา, นายประวีณ ณ นคร, นายกานต์ ตระกูลฮุน, นายบัณฑูร ล่ำซำ, นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์, นายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี, นายพงศ์โพยม วาศภูติ, นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์, นางสุชาดา ยุวบูรณ์, นางกอบกาญจน์ สุริยสัตย์ วัฒนวรางกูรม ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์, นางชฎาวรรณ คังคะเกตุ, ดร.ณัฐวุฒิ พงศ์สิริ, นางพัชนี จันทร์น้อย, นายมนูญ สรรค์คุณากร, นายวรพงษ์ รวิรัฐ, ดร.สมโภช ศรีวิจิตรวรกุล, นายอรรถกฤช วิสุทธิพันธ์, นายทายาท ศรีปลั่ง, นายประกิต วิริโยทัย ฯลฯ

                ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับรางวัลนักทรัพยากรมนุษย์ดีเด่น ตามโครงการสรรหาและรวบรวมนักทรัพยากรมนุษย์ดีเด่นของประเทศ มีวาระดำรงตำแหน่ง 2 ปี โดยจะมีภารกิจในการนำความรู้ด้านทรัพยากรมนุษย์มาถ่ายทอดให้สังคมไทยได้เรียนรู้ผ่านการจัดประชุม การบรรยายวิชาการ และการเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนต่างๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยสร้างทรัพยากรมนุษย์ไทยให้สามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันในโลกยุคใหม่ได้ ตลอดจนสร้างชุมชนนักทรัพยากรมนุษย์ของไทยในระยะต่อไปด้วย สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่

http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9500000066097 นะค่ะ สิ่งที่ได้รับจากการฟังวิทยุคลื่น 96.5 Human Talk ของท่านอาจารย์คือ เรื่องแนวคิดแบบทฤษฎี "มหาสมุทรสีฟ้า" หรือ "Blue ocean" คือ การสร้างสังคมการเรียนรู้ ที่จะต้องแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ไม่ว่าทางเศรษฐกิจ สังคมหรือ วัฒนธรรม จะต้องสำรวจศักยภาพเสมอ เนื่องจากการเรียนหนังสือเยอะ แต่มักจบอยู่แค่นั้น คำถามคือ จะทำอย่างไร ให้สำเร็จอย่างยั่งยืน? อย่างเช่นตัวของดิฉันเอง วันนี้ได้มีโอกาสคุยกับท่านอาจารย์วิรัช และเพื่อนใน Class ที่มหาลัยฯเจ้าคุณทหารลาดกระบังว่า การเรียนไม่ว่าจะได้เรียนในมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียน ตำราที่เราได้เรียนกันนั้นมักจะลอกตำราฝรั่งเอามาสอน สอนอย่างเดียวโดย ไม่ได้คิดว่า การเรียนยุคใหม่เป็นแบบไหน วิธีการเรียนคือเรียนแบบเน้นความจริง และเน้นตรงประเด็นที่นำไปใช้ ปรากฏว่า ได้ผลอย่างมาก เพราะการเรียนในอดีต เป็นการเรียนที่ไม่เน้นตัวผู้เรียน และผู้สอนมักจะให้สาระมาก แต่นำไป ปฏิบัติไม่ได้ผล เรียกได้ว่ากว่าอาจารย์แต่ละท่านแปลออกมาเป็นตำราให้เราได้เรียน เราก็ช้ากว่าคนอื่นๆอีก 10 ปีได้ เพราะกว่าอาจารย์จะพบหนังสือเล่มนั้น กว่าจะแปลออกมา กว่าจะพิมพ์ออกมาให้เรียน สำหรับนักเรียนไทยอย่างเราอาจบอกว่าของใหม่ แต่คนทั่วโลกเค้าเรียนไปแล้ว 10 ปี จึงนับว่าวันนี้ได้รับมุมความคิดเพิ่มอีกหนึ่งมุมค่ะ
อรนุช หล่ำสกุลไพศาล
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ จีระ ที่เคารพ จากการฟังรายการวิทยุ FM 96.5 ของท่านอาจารย์ในวันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้รับความรู้ในหลายๆเรื่อง เป็นการเปิดโลกทัศน์ในประเด็นที่น่าสนใจ อาทิในเรื่องการทีคนจะทำงานได้ดีต้องมีความสุขในการทำงาน และเรื่อง FTA  ท่านอาจารย์ได้ยกตัวอย่างท่านเองในรายการวิทยุว่าว่าท่านความสุขในการทำงานทุกงาน ความสุขในการทำงาน อย่างเรื่องทุนทางความสุข (Happiness capital) ที่ท่านอาจารย์ได้สอนใน Class ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการทำงานสำหรับยุคการแข่งขัน เพราะการที่คนเราจะมีความสุขในการทำงานได้ต้องรู้จุดมุ่งหมายของงาน เราต้องรู้ว่ามีความสามารถเพียงพอหรือไม่ คือต้องเตรียมตัวดี มีเวลาเพียงพอ ที่สำคัญคือต้องไม่เครียด พักผ่อนเพียงพอ รู้สึกสนุกกับงานที่ท้าทาย ทำงานด้วยความกระตือรือร้น          เรื่องการทำ FTA ไทย-ออสเตรเลีย และ การทำ FTA ไทย-นิวซีแลนด์ ที่มีสาระสำคัญให้ไทยลดภาษีเนื้อ และผลิตภัณฑ์นม ขณะที่ออสเตรเลียเปิดรับการลงทุนคมนาคม และลดภาษีชิ้นส่วนยานยนต์ให้ไทย ทำให้กลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์คือกลุ่มผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัทผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก (ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ) กลุ่มธุรกิจนำเข้าสินแร่ กลุ่มบริษัทนำเข้านมและผลิตภัณฑ์นม กลุ่มธุรกิจดาวเทียม และบริษัทโทรคมนาคมฯ ขณะที่กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงโคนมและโคเนื้อได้รับผลกระทบจากการคุมองค์กรอิสระเบ็ดเสร็จ สามารถบอกได้ว่าคุณทักษิณเป็นผู้นำที่มีพร้อมในทุกเรื่อง เป็นผู้บริหารที่เก่ง ซึ่งจุดอ่อนของคุณทักษิณที่ดูเหมือนนโยบายในระยะสั้นดีแต่ระยะยาวมีปัญหา สิ่งที่ คุณทักษิณ ขาดคือ 2K (จากทฤษฎี 8K)  กับ 1C คือ K1: Ethical Capital ทุนทางจริยธรรม  K2: Sustainable Capital ทุนแห่งความยั่งยืน และ 1C: Customer ลูกค้า คุณทักษิณไม่ได้มองประชาชนเป็นผู้ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงเพียงใช้เป็นฐานอำนาจ  จากทฤษฎี 8K ที่ท่านอาจารย์จีระได้ย้ำถึงอยู่เสมอที่ว่าการจะเป็นผู้บริหารที่ดีต้องเป็นคนเก่งและเป็นคนดีด้วย ส่วนตัวคิดว่าหากผู้นำคนต่อไปที่เรากำลังจะได้เลือกตั้งในปีนี้ มีทั้งสองคือเป็นคนเก่ง และเป็นคนดีจะ Perfect มาก

กราบเรียนท่านอาจารย์จีระที่เคารพ

 ดิฉันได้มีโอกาสฟังเสียงของอาจารย์จากรายการ Human Talk ในวันที่ 7/7/2007 ซึ่งอาจารย์ได้ต่อสายตรงมาจาก ออสเตรเลีย นั้น ดิฉันรู้สึกว่ามีอยู่ 1 ประเด็นที่น่าสนใจมาก ซึ่ง อาจารย์ได้เปิดประเด็นไว้ ได้แก่ เรื่องของการที่คนไทยจำนวนมากนิยมไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศกันนั้นเป็นเพราะสาเหตุใด และเมื่อได้ศึกษาจนสำเร็จแล้วจะนำความรู้ที่ได้กลับมาทำประโยชน์ให้กับประเทศไทยหรือไม่  หวังว่า อาจารย์จะนำประเด็นนี้กลับมาพูดคุยกันอีกในครั้งถัดๆไปนะคะ
กราบเรียนท่านอาจารย์ ศ. ดร.จีระ ที่เคารพ

         

     เมื่อวันที่ 25/8/50 ดิฉันได้มีโอกาสติดตามฟังรายการวิทยุ FM 96.5 ช่วง human talk ซึ่งมีประเด็นที่ดิฉันสนใจขอกล่าวถึง ดังนี้

 

 อาจาร์ยได้ย้ำถึงในเรื่อง Knowledge นั้นเปรียบเหมือนสายพันธ์ที่ดีที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดต่อไปในโลกปัจจุบันได้และการใฝ่รู้เป็นสิ่งที่ได้จากการทำงานจะต้องใช้ระยะเวลาที่จะสะสมประสบการณ์ต่อไปและต้องมีการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องและต้องรู้จริง   ซึ่งในปัจจุบันสังคมไทยเราเกิดปัญหาในเรื่อง การศึกษาซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้ เป็นที่ทราบกันดีว่าเกิดปัญหาความไม่สงบสุขในชายแดนภาคใต้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องละรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ประชาชนในทางใต้อยู่อย่างไม่สงบสุข  กลายเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติและอยู่กันอย่างสงบสุขกันสักที โดยเฉพาะใน รร. ระดับเทศบาล  ไม่มีครูสอนส่งผลให้เกิดปัญหาของสังคมในการเรียนรู้ซึ่งส่งผลต่อเด็กที่ไม่ได้รับความรู้อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง ที่จะพัฒนาเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ดีในอนาคตได้

 

            สุดท้ายนี้ ดิฉันขอฝากบอกผ่าน blog สำหรับผู้ที่ติดตามรายการ human talk กับ ศ.ดร.จีระ  หงส์ลดารมภ์ มาโดยตลอดเพื่อจะได้ไม่ขาดการเรียนรู้กับเนื้อหาสาระดีๆที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์จากการฟังรายการนี้ไปค่ะ ซึ่งจะเปลี่ยนเวลาการออกอากาศไปเป็นวันอาทิตย์เวลา 6.00-7.00 น. โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1/9/50 เป็นต้นไปค่ะ

 

   ขอบคุณมากค่ะ

  น.ส. สุภาภรณ์  นำรุ่งโรจน์

     สวัสดีครับ อ.จีระ และทีมงาน ทุกคน

             ผมอยากแสดงความเห็นเรื่องปัญหาพืชผลทางการเกษตรราคาตกต่ำ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมานานมากแล้ว และไม่เคยมีใครสนใจจะแก้ไขในสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา  ทุกๆปีจะเห็นว่า มีการแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตร ด้วยการ ประกันราคา  หรือรับจำนำผลิตผลทางการเกษตร  ซึ่งผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเงินจำนวนนี้ที่นำมาใช้มีมูลค่ามหาศาล และเป็นเงินจากภาษีของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆได้มากมาย เป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสที่แพงมาก

             สาเหตุที่ผมพูดอย่างนี้ อาจจะเหมือนว่าเห็นแก่ตัว แต่จริงๆแล้วถ้าจะพิจารณา ถึงราคาที่ตกต่ำ จะเห็นว่า พ่อค้าคนกลาง ยัง รวย อยู่  ทำไม?

             สาเหตุเพราะ พืชผลทางการเกษตรเป็นพืชผลที่เน่าเสียได้ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่พ่อค้าคนกลางจะกดราคาได้ง่าย ซึ่งถ้าเรายังคงแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยแทรกแซงราคาอยู่อย่างนี้ ปัญหานี้ก็คงไม่หมดไปจากประเทศไทยได้แน่ๆ   การรวมกลุ่มกันของเกษตรกรเป็นทางออกที่ดีที่สุดในความเห็นของผม ( เช่น สหกรณ์ทางการเกษตร )  ถ้าเกษตรกรรวมกลุ่มกัน ก่อตั้งสหกรณ์ และเป็นสมาชิก  มีผลิตผลอะไรก็ขายให้สหกรณ์   สหกรณ์ จะมีอำนาจในการต่อรอง จากพ่อค้าคนกลางมากขึ้น  และถ้าทุกๆประเภทที่เป็นธุรกิจทางการเกษตรทำเช่นนี้  เกษตรกรจะอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่ง รัฐอีกต่อไป ภาครัฐสมควรเอาเงินงบประมาณ มาพัฒนาระบบตรงนี้ จะมีประโยชน์ในระยะยาวมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่มีคนทำ

              แต่ความเป็นจริงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เนื่องจากนิสัยคนไทย ชอบเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว  เช่น  ถ้ามีพ่อค้าคนกลางมาเสนอราคารับซื้อ ที่มากกว่า เกณฑ์ที่สหกรณ์ให้มากกว่านิดหน่อยก็ขายให้  โดยไม่สนใจสหกรณ์ แต่พอราคาตกต่ำ ก็มาเรียกร้องให้สหกรณ์ช่วย  คิดว่าเหมาะสมที่จะช่วยไหมครับ ?

             ผมขอสรุปว่า  ภาครัฐ ควรเลิกแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตร โดยไปลงทุนในเรื่อง การจัดการระบบสหกรณ์การเกษตรแทน  เกษตรกรคนไหน ที่คิดว่าอยู่รอดได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเข้ากลุ่ม ก็ปล่อยไป  แต่ถ้ามีความเดือดร้อนอะไรไม่ต้องไปช่วยเหลือ  ช่วยเหลือกันในกลุ่ม ให้เข้มแข็ง เพียงแค่นี้ ก็น่าจะมีอำนาจในการต่อรองเรื่องราคา กับพ่อค้าคนกลางได้  น่าจะอยู่รอดได้ครับ     เรื่องอิทธิพลต่างๆซึ่ง น่าจะมีอยู่แล้วในท้องถิ่น ก็เป็นเรื่องที่ภาครัฐจะต้องจัดการด้วยครับ ไม่อย่างนั้น ถ้าผู้มีอิทธิพลเป็นพ่อค้าคนกลางเอง จะลำบากในการจัดตั้งกลุ่มสหกรณ์  ( ขอฝากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไว้ด้วยครับ ว่าทุกวันนี้ มีนโยบายอะไรที่เป็นเชิงรุกบ้าง เห้นแต่มีปัญหาแล้วค่อยตามแก้ไข ไม่ได้มีการป้องกันอะไรที่เป็นรูปธรรมให้เห็นเลย ทั้งๆที่ประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม และงบประมาณที่ลงให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็เยอะมาก  ...  ไปไหนหมดครับ )   การที่เกษตรกรยืนได้ด้วยตัวเองนี้ เหมือนกับเกษตรกรมีเบ็ดตกปลา ที่สามารถ อาหารได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งใครครับ   รัฐบาล ไหนที่ส่งเสริมให้ประชาชนงอมืองอเท้า รอรับการช่วยเหลือในรูปตัวเงินจากภาครัฐอย่างเดียว โดยไม่ให้ความรู้ ไม่พัฒนาความคิด  ผมขอประนาฌครับ  .. รัฐบาลไหนหว่า ?

                                                  ขอบคุณครับ

      เรียน  อ.จีระที่เคารพ  วันนี้ผมพึ่งได้ทราบข่าวเรื่อง มีคนร้องเรียน บอร์ดประกันสังคม ว่าได้เบิกจ่ายค่าไปดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นมูลค่าหลายล้านบาท แต่โปรแกรม ที่ไปดูงานกลับมีแต่แหล่งท่องเที่ยว อาทิเช่น ลาสเวกัน แกรนด์แคนยอน ฮอลลีวูด เป็นต้น  ผมอยากให้ อ.จีระ ช่วยแสดงความเห็นเกี่ยวกับ เรื่อง เงินค่าใช้จ่ายประกันสังคม ที่ผู้คนในสังคมพูดกันมานานแล้ว ว่าคุ้มหรือไม่กับ ค่าใช้จ่ายตรงนี้ กับความมั่นคงในชีวิตของผู้ประกันตน      ผมคนนึงที่เห็นว่า เงิน 10% ที่รัฐได้ไป (จากเรา 5% จากนายจ้าง 5% ) นำไปใช้ไม่คุ้มค่า ผู้ประกันตนไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เท่าที่ควรจะได้รับ  คนไข้มารอรับการรักษามากกว่า ปริมาณ แพทย์ ที่ทาง โรงพยาบาลจัดมารองรับ  ปัญหาต่างๆเหล่านี้เกิดจากอะไร อ.จีระ ช่วยเล่าให้ฟังด้วยนะครับ  

                                                         ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ

รายการทางวิทยุ 96.5 ของผม ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 06.15 น. ได้รับความสนใจอย่างมาก เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมได้ให้ผู้ฟังเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งมีคนโทร.เข้ามาประมาณ 70 กว่าคน และ ผมจะมีของที่ระลึกมอบให้ ซึ่งผมจะทำต่อไปทุกอาทิตย์

หวังว่าท่านผู้ฟังคงได้รับความรู้ และติดตามรายการของผมต่อไป และร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านทาง Blog นี้ ต่อไป

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท