จุดเปลี่ยน


*** หมายเหตุ สำหรับผู้มาเยี่ยมเยียน บันทึกนี้ไม่มีจุดมุ่งหมายใดๆ มากไปกว่าจดบันทึกความคิดของตนเองเพื่อพิจารณาในปัจจุบัน และย้อนกลับมาทบทวนอีกครั้งในอนาคตเพียงแค่นั้น แต่ยินดีรับฟังคำทักทายและความคิดเห็นจากทุกท่านครับ
 

ประมาณปลายปีที่แล้วผมยังเป็นคนทำงานกินเงินเดือนทั่วไป ที่ปราถนาความก้าวหน้า ความมั่นคงในการงานและชีวิต ความสุข ความสมหวัง ของผมคือความร่ำรวยพอประมาณ อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่น เป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม วางแผนไว้ว่าตอนสัก 40 ปลายๆหรือ 50 นิดๆ จะหาทางเกษียน เพื่อรีบไปท่องเที่ยวใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ก่อนที่จะแก่เกินไปจนเที่ยวไม่ไหว ทุกวันๆที่มีจึงวนเวียนอยู่แต่ ่ทำอย่างไรถึงจะก้าวหน้่าไปมากกว่านี้ ทำอย่างไรจะได้เงินเดือนเยอะขึ้น ทำอย่างไรถึงจะมีกิจการที่ใหญ่โตเป็นของตนเอง แล้วรอคนอื่นมาซื้อไป เราจะได้สบาย การใช้ความคิด ปัญญาความรู้ ตรรกกะในการคิด ตัดสินใจในทุกสิ่ง จึงขึ้นอยู่กับเป้าหมายดังกล่าวเป็นหลัก

ผมเติบโตในต่างจังหวัด  ที่สังคม สภาพแวดล้อมไม่เร่งเร้ามากนัก คนใจเย็น มีน้ำใจ บ้านอยู่ใกล้วัด เดินไป 5 นาทีก็ถึง ในวันพระ วันงานต่างๆ จะเห็นผู้คนมากมายถือของไปทำบุญ วิ่งเล่นในวัดเป็นประจำ ตายายสอนให้ ซาบซึ้งในธรรมมะ หัดนั่งสมาธิก๊อกๆ แก๊กๆ ไปให้ตายายชมก็หน้าบานตามประสาเด็กๆ  จนมาเรียนต่อในกรุงเทพและเริ่มทำงานชีวิตเริ่มเปลี่ยนไป ความคิดความเชื่อเดิม ค่อยๆปรับเปลี่ยนให้สามารถอยู่รอด ในสังคมที่ต้องแข่งขันกันเพื่อความก้าวหน้า ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมีน้ำใจเริ่มจางหาย การทำความดี ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เริ่มต้องคิดหนัก ว่าทำแล้วจะไำด้อะไร ทำแล้่วจะเป็นอันตรายกับเราในภายหลังหรือปล่าว ช่วยเขาแล้วจะมาแย่งอะไรกับเราทีหลังไหมนี่ ทำแล้วเค้าจะตอบแทนเราอย่างไร หรือเลือกทำแต่เฉพาะกับคนที่เราคิดว่าเหมาะสมเท่านั้น จากเคยสวดมนตร์ก่อนนอนทุกคืนก็ไม่ได้สวดมาสิบกว่าปีแล้ว ชีวิตวันต่อวันหมกมุ่นแลเคร่งเครียดอยู่กับตัวเอง โดยตัวเองและเพื่อความอยากของตัวเองเท่านั้น ตื่นแต่เช้า รีบไปทำงาน ทำงานงกๆ เพื่อเงินตอนสิ้นเดือนและโอกาศเลื่อนขั้น หรือผลงานเข้าตารอให้คนมาซื้อตัวไป ตกเย็นคิดแต่ว่าจะชวนกันไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดี เสร็จแล้วกลับบ้านเพื่อมานอนเอามือก่ายหน้าผากบอกตัวเอง ว่าขี้เกียจจังโว้ย พรุ่งนี้ไม่อยากไปเลย เมื่อไหร่จะรวยสักที วนเวียนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทุกวันๆ จนชินชา และเชื่อว่านี่คือหนทางที่ถูกต้อง สำหรับชีวิตเราที่เกิดมาแล้ว และคงจะเป็นเช่นนี้ต่อไปหากไม่เจอ จุดเปลี่ยน 

หลายคนคงต้องเคยได้ผ่านช่วงหนึ่งของชีวิต ที่เฝ้าหาคำตอบว่าเราเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไรกันแน่ อะไรคือจุดมุ่งหมาย คือความใฝ่ฝันของเรา บางคนอาจโชคดีที่ทุกอย่างลงตัว ค้นพบเจอสิ่งนั้นได้แต่เนิ่นๆ แต่หลายคนคงเป็นเช่นผมที่ถูกกาลเวลาพาให้เราลืมเลือนคำถามนั้นไป  และถูกหล่อหลอมให้เป็นฟันเฟืองตัวหนึ่งของโลกธุรกิจที่มีทุนเป็นที่ตั้ง เป็นแรงผลักดัน หลายคนเริ่มตั้งเป้าหมายของชีวิต ที่เชื่อว่าคงไม่ต่างจากผมสักเท่าไหร่  และเชื่ออย่างถูกสะกดว่านี่ล่ะ ใช่แล้ว เป้าหมายในการเกิดมาของเรา เพื่ออยู่รอดปลอดภัยให้สบายที่สุดนั่นเอง จนกระทั่งรุ่นพี่คนหนึ่งเอาไฟล์การบรรยายของอาจารย์ท่านหนึ่งมาให้ผมฟัง ฟังแล้วถูกอกถูกใจเป็นอันมาก ไม่อยากจะเชื่อว่ามีคนคิดอย่างนี้ด้วย ความเห็นหลายสิ่งตรงกับใจเราว่าควรจะเป็นเช่นนั้น แต่ที่ผ่านมาไม่กล้าที่จะคิดเพราะความกลัวที่จะแตกต่าง เริ่มเกิดความสนใจ ศึกษา ค้นคว้าหาหนังสือของท่านมาอ่าน เข้าไปพบปะพูดคุยในชุมชนทางอินเตอร์เน็ตที่มาพบเจอกันเพราะตามอาจารย์ท่านมา แลกเปลี่ยนพูดคุยความคิดเห็นกัน จากเริ่มต้นคือความสนใจทางธุรกิจ ทางการบริหาร กลยุทธต่างๆ จนค้นต่อไปเรื่อยๆ ผมจึงได้เจอสิ่งที่ค้นหาและรอคอยมาแสนนานโดยไม่เคยตระหนักมาก่อนเลย เป็นคำตอบของคำถามของมนุษย์ที่เกิดขึ้นมาทุกคนบนโโลกนี้ นั่นคือธรรมะของพระพุทธเจ้า นี่คือจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม...

ชีวิต ความคิดของผมเปลี่ยนไป เป้าหมายในโลกสมมุติไม่มีความหมายกับผมอีกต่อไปแล้ว ความว่าง ความปีติเกิดขึ้นกับผมอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ผมไม่อยากจะเกิดอีกต่อไป นั่นคือเป้าหมายสูงสุดของผมในวันนี้ และตลอดไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ สาธุ

ขอกราบวันทา บุญคุญอันยิ่งใหญ่ของครูบาอาจารย์ และพระพุทธเจ้าที่ทรงเสียสละอุทิศตนเผยแพร่คำสั่งสอนให้มนุษย์ทุกคนมีโอกาศหลุดพ้น มา ณ ที่นี้ด้วยความเคารพอันสูงสุด
คำสำคัญ (Tags): #จุดเปลี่ยน
หมายเลขบันทึก: 96231เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2007 23:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีครับคุณกษภพ ยินดีด้วยครับที่เจอขุมทรัพย์ เจอแล้วก็ค่อยๆขุดหาอริยทรัพย์นะครับ...ขออนุโมทนาในมรรคาที่คุณเลือกเดิน และผลที่คุณจะได้ หรือได้แล้ว...สาธุ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท