สิ่งที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นอีกแล้ว


หลายๆครั้งในชีวิตนี้ที่มีอะไรเกิดขึ้นแบบไม่ได้คาดคิด เพิ่มเติมพลังให้ตัวเองอย่างมีความสุขอย่างอัศจรรย์ ลึกล้ำ ควรค่าแห่งการจดจำไปชั่วชีวิต
เมื่อวานนี้  ครูอ้อยได้ไปโรงเรียนแต่เช้า   ทั้งๆที่เป็นวันเสาร์   เพื่อพร้อมที่จะเดินทางไปจังหวัดสมุทรสาคร   ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ   คุณแม่ของท่านผู้อำนวยการสมาน   ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ครูอ้อยสอนอยู่  
ในตอนเช้า   ครูอ้อยพบว่า  อากาศดีมาก...เย็นสบาย   ครูอ้อยจอดรถเสร็จแล้วในที่ๆรถจอดได้   นั่งทำงานในรถในส่วนท้ายของรถ   เพราะไม่อยากนำเอกสารที่มากมายลงจากรถ   นั่งทบทวนใส่ร่างเรียบร้อยแล้ว   ประมาณสี่โมงเช้า   จึงออกไปกินข้าวเช้า  
ครูอ้อยนำน้อง acer เข้าไปในโรงเรียน   พิมพ์งานจนเสร็จแล้ว   ง่วงนอน  ถามแล้วได้ความว่า  รถจะมาจอดที่ถนนด้านข้างโรงเรียน  พวกเราต้องเดินไปขึ้นรถ  
ครูอ้อยต้องไปงานนี้ให้ได้   ด้วยเมื่อคราวที่ครูอ้อยมีงานมงคลของลูกสาว   ท่านผู้อำนวยการไม่ได้ไปเป็นเกียรติก็ตาม   แต่ท่านก็ได้ช่วยซองมามากมาย  
ดังนั้น...วันนี้   ครูอ้อยต้องไปให้ได้  เป็นการตอบแทน   เมื่อเวลา 12.10 น  ครูอ้อยได้เดินมาที่รถบัส   ที่ได้เปิดไว้รอแล้วอย่างเย็นฉ่ำ   
ครูอ้อยนั่งรถบัสไป   ด้วยอากาศเย็นสบายด้วย  ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงวัด  ดอนไก่ดี  สมุทรสาคร   อยู่ริมแม่น้ำ   พวกเราไปหาที่นั่งที่อยู่ด้านหน้า   ครูอ้อยไม่รู้  ชอบนั่งด้านหลัง  จะได้ถ่ายภาพได้สบาย   แต่ท่านรอง   ทำปากยื่นมาให้ครูอ้อยนั่งหน้า

 
ครูอ้อยจึงแหวกผู้คนมานั่งหน้า  ซึ่งอยู่หลังประธานพอดี   และครูอ้อยก็รู้ว่า.....งานนี้เจ้าภาพได้มอบของชำร่วยในงานก็คือ....เหรียญจตุคามรามเทพ   ที่ครูอ้อยไม่คาดฝัน   นั่งรอตั้งแต่บ่ายสามโมง  เวลาพิธีคือ ห้าโมงเย็น   ก็เกิดอภินิหารต่างๆนานา   ก็คือ...ครูท่านหนึ่งได้ใช้กล้องดิจิตอลถ่ายรูปเพื่อนๆ   พอเปิดดูภาพ  ได้มีรูปจตุคามเกิดขึ้นในภาพ  เป็นวงกลมมากมาย   ดูภาพแล้วก็ต้องเชื่อถึงอภินิหาร   
จากนั้นครูอ้อยก็ลองใช้กล้องของครูอ้อยถ่ายภาพเพื่อนๆบ้าง    แต่ไม่เกิดวงกลมในภาพแต่อย่างใดเลย    เมื่อถึงเวลาพิธี

 
เวลาประมาณห้าโมงเย็น  ไฟพระราชทานมาถึง   พิธีต่างๆในตอนนี้ก็ดำเนินตามปกติ   ลูกๆของคุณแม่มาลัยผู้วายชนม์ก็มายืนเข้าแถวรอรับ    ในแถวนั้นก็มีท่านผู้อำนวยการด้วย  
ครูอ้อยกับเพื่อนๆนั่งฟังการอ่านประวัติ    จนถึงเวลาทอดผ้าบังสุกุล    มีแขกเหรื่อที่มียศระดับนายพลมามากมาย    เมื่อถึงเวลาระทึก   พวกเราเดินไปแบบไม่ต้องเดิน  คลื่นไหลของมหาชนพาครูอ้อยเดินไป    เมื่อได้วางดอกไม้จันทน์เสร็จแล้วก็ลงบันได้ด้านหน้าเมรุเพื่อรับของชำร่วย   
สิ่งที่ครูอ้อยได้รับก็คือ...เหรียญจตุคามรามเทพ   องค์สีดำ   ครูอ้อยไม่รู้ความหมาย

 
เพราะว่าได้ยินแต่เสียงเล่าลือ  และดูข่าวในโทรทัศน์ว่า...มีคนมากมายมาเจ็บตัวจากการรอรับเหรียญนี้   ครูอ้อยก็ระวังตัวพอสมควร   ด้วยความเคารพบูชา   และอธิษฐานจิต   เนื่องจากว่า   เหรียญที่แจกนี้   มีไม่มากพอสำหรับแขกที่มา   เมื่อครูอ้อยได้รับแล้ว   ก็ชื่นชมและเก็บไว้ในมือขวาอย่างแน่นหนา  

 
ผู้คนมากมายจนบางคนเป็นลมเพราะขาดอากาศก็มี   บรรยากาศก็มีหลายหลาก   บางคนก็เวียนเทียนขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์หลายๆเที่ยวเพื่อรับของชำร่วยหลายๆครั้งก็มี 
พิธีกรก็ประกาศไปว่า....ไม่ต้องทำแบบนี้   ได้ไปองค์เดียวไว้บูชาก็พอเพียงแล้ว  
ครูอ้อยยืนฟังสักครู่หนึ่ง  รู้สึกว่า...อากาศบริเวณนี้เบาบาง   จึงรีบเดินมาที่พัดลมใหญ่สักพักหนึ่ง  จึงเดินไปที่ริมแม่น้ำ    และเดินตามฟุตบาทเพื่อเดินไปที่รถ  
ขณะนั้น  หกโมงเย็นแล้ว   ครูอ้อยโทรศัพท์หาพ่อบ้าน   รถก็ออกเดินทางไม่ได้  เพราะถนนแคบและมีรถยนต์มากมาย   เราได้แวะตามปั๊ม  ซื้อของกินพอปะทังกับความหิวไปก่อน   และก็มุ่งหน้ากลับบ้าน 
ซึ่งครูอ้อยก็นั่งรถบัสมองหลังคาบ้านตัวเอง   ผ่านเลยไปเพื่อไปนำรถของตัวเองที่จอดที่โรงเรียนกลับมาบ้านอีก 
เมื่อมาถึงโรงเรียน   เพื่อนครูคนหนึ่งได้  เดินมาหาครูอ้อย  และหยิบเหรียญจตุคามเป็นองค์เล็กๆ   ครูอ้อยพุ่มมือรับไว้  และเหน็บไว้ที่กระเป๋าน้อง acer  ปิดประตูล็อครถ  แล้วรีบไปเข้าห้องน้ำ   ทำภารกิจเสร็จแล้วจึงนำรถกลับบ้าน
ขณะนั้นสามทุ่มแล้ว   เมื่อมาถึงบ้าน   ครูอ้อยล้วงกระเป๋าหาเหรียญที่เพื่อนให้ไม่พบ   รู้สึกเสียใจเพราะอยากให้พ่อบ้านได้เห็น  
พ่อบ้านบอกว่า...ไม่เป็นไร    พรุ่งนี้เช้า  ค่อยลงไปดูที่รถก็ได้   อาจจะตกหล่นที่พื้นรถยนต์ก็ได้  
ขณะนี้ฟ้าเริ่มสางแล้ว   ครูอ้อยเขียนบันทึกเสร็จแล้ว   จะลงไปดูว่าหายหรืออยู่  แล้วจะมารายงานต่อไป
หมายเลขบันทึก: 95900เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2007 05:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 21:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
ขอเพิ่มเติมบันทึก   ครูอ้อยเดินลงจากแฟลตชั้นห้าไปที่จอดรถ  เปิดประตู  และก้มหาเหรียญที่ต้องการ   ครูอ้อยหยิบถุงที่ใส่น้ำดื่มขึ้นมา  ก็เห็นเหรียญวางอยู่ที่พื้น   ดีใจมาก  หยิบเหรียญขึ้นมาพุ่มมือกราบไหว้บูชา   และกลับมาเขียนรายงานเพิ่มเติมนี่ล่ะค่ะ
  • ติดตามด้วยใจระทึก
  • ดีใจที่พบแล้ว
  • มีอีก 1 องค์ พบที่สุพรรณฯทวงด้วยเตรียมไปให้พี่อ้อย
  • ตอนนี้เตรียมเอกสารไปประชุมที่กาญจนบุรี
  • และที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • ชีพจรลงเท้าครับ
  • รบกวนพี่อ้อยไปให้กำลังใจน้องสาวที่เขียนบันทึกใหม่หน่อยครับ
  • ที่นี่ครับผม

นี่แหละเขาว่า ถ้าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่

ปาฏิหารย์ อาจเกิดได้ตลอด

กว่าที่ผมจะเปิดอ่านบันทึกนี้ได้ เครื่องก็แฮงค์ 2-3 ครั้ง จะบันทึก ก็ยังไม่ขึ้นรหัสให้

         เอ๊ะ จะเกี่ยวกันไหมครับเนี่ย..............

  1. ไม่ตกกระแสจริงๆนะครับ
  2. ที่ว่าตอนเช้านั่งทำงานในรถในส่วนท้ายของรถ ....ย้ายที่จอดรถไปอยู่บริเวณอื่นแล้วหรือครับ หรือว่า บรรดารถตู้ในเวลานั้น ไม่อยู่
  3. อย่าเผลอไปเหน็บไว้ที่กระเป๋าอีกนะครับ เดี๋ยวคราวหน้าหาไม่เจอ
  4. ทำไมตอนเย็นถึงหาไม่เจอหนอ หรือว่า เกร็งจนเกิดลืมไปชั่วขณะ ว่าทำตกตั้งแต่เมื่อไหร่
  5. ยิ้ม

สวัสดีค่ะคุณขจิต

  • ตอนเช้าที่ลงไปหานั้น...ยังคิดว่าไม่พบ...เพราะมั่นใจว่าเหน็บไว้ที่กระเป๋า..จะหล่นออกจากกระเป๋าได้อย่างไร   แต่พอหยิบถุงของน้ำออกมา  ก็พบเหรียญเลยค่ะ...สวยงามมาก   บ่ายนี้จะให้พ่อบ้านดู
  • แล้วว่างๆจะเข้าไปเชียร์น้องๆนะคะ

สวัสดีค่ะท่าน... วรชัย

  • เมื่อครูอ้อยพบเหรียญแล้วก็นำเหรียญนั้นมาวางที่หิ้งตู้คอมพิวเตอร์ที่นั่งทำงานอยู่ค่ะ
  • มีความเชื่อว่า...จะทำให้ครูอ้อยมีสมองแจ่มใส  คิดอะไรก็ปราชญ์เปรื่อง

ขอบคุณค่ะ...ที่ติดตามอ่าน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท