วันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา เป็นวันที่ทีมงานของเรากำหนดให้เป็นวันที่นิสิตเรียนล่วงหน้าทั้ง 8 กลุ่มจะได้ "สรุปบทเรียน" ในห้วงแรกของพวกเขา ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้มอบหมายให้แต่ละกลุ่มเตรียมการแสดงเพื่อสื่อสารมุมมองความคิดของพวกเขาที่มีต่อ "โลกและชีวิต" หรือแม้แต่ที่มีต่อสถาบันไปแล้วตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน..
นี่เป็นครั้งแรกของการเข้ามาดูแลโครงการ ฯ ดังกล่าว หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา ผมไม่มีสถานภาพที่เกี่ยวข้อง จึงไม่ได้เข้ามามีส่วนกับกระบวนการเหล่านี้เลย
แต่กระนั้น ด้วยความสนิทสนมส่วนตัวกับหัวหน้างานกิจกรรม (คุณวัฒนพงษ์ คงสืบเสาะ) ก็เคยได้รับเทียบเชิญเป็นส่วนตัวให้เข้าไปช่วยงานบ้างเป็นครั้งคราว ทั้งในฐานะวิทยากร, ติดต่อวิทยากร หรือแม้แต่การให้คำแนะนำเกี่ยวกับกิจกรรมนั้น ๆ อยู่บ้าง
แต่ปีนี้และคราวนี้ เมื่อเข้ามาดูแลกลุ่มงานกิจกรรมนิสิต จึงง่ายต่อการที่จะได้ทำในสิ่งที่ตนเองอยากจะทำ ซึ่งสิ่งนั้นเราเองก็เชื่อว่าจะ ก่อเกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของนิสิตอย่างเต็มที่
(การจะได้ทำในสิ่งที่ตนเองคิด บางทีก็จำต้องอาศับสถานะและบทบาทอยู่เหมือนกัน)
ผมเคยให้แนวคิดกับผู้รับผิดชอบว่า อะไรที่ดีอยู่แล้วให้ "ต่อยอดความคิด" ไปได้อย่างไม่ต้องลังเล แต่ครั้งนี้ "อะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนก็ลองให้นำมาทดลองใช้ดูบ้าง" เช่น การประสานความเป็นองค์กรภายในหน่วยงานเข้ามาร่วมขับเคลื่อน รวมถึงการให้นิสิตใหม่ได้มี "ส่วนร่วม" ในกิจกรรมมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องบังคับให้เขา "นั่งฟัง, นั่งดู, และนั่งหลับ" สถานเดียว
นั่นจึงเป็นที่มาของการ "เปิดเวทีทางความคิด" ให้นิสิตเรียนล่วงหน้าได้แสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ (creative) อย่างเต็มที่และเต็มกำลัง
ตลอดเวลาที่เฝ้าสังเกตก็สังหรณ์ใจไม่น้อยว่า - นิสิตเหล่านี้มีการนัดหมายเพื่อนในกลุ่มพบปะพูดคุยและวางแผนการทำงานใน "บทเรียน" ที่ได้รับมอบหมายอยู่เป็นระยะ ๆ (อย่างจริงจังและต่อเนื่อง)
ผมไม่ได้คาดหวังว่านิสิตต้องทุ่มเทพลังกาย พลังใจมากมายถึงปานนั้น เพียงแต่ต้องการใช้กิจกรรมดังกล่าวเป็น "กุศโลบาย" ให้พวกเขาได้เรียนรู้หลักของการอยู่ร่วมกันและทำงานร่วมกันเป็นสำคัญ - เท่านั้นเอง
แต่ความจริงที่ปรากฏการณ์กายอยู่ตรงหน้า กลับกลายเป็นว่านิสิตใหม่เหล่านี้ ให้ความสำคัญต่อบทเรียนที่ให้ไปอย่างมหาศาล...
หลายกลุ่มทุ่มเทถึงขั้นเดินทางกลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดเพื่อเช่าชุดการแสดง, บางกลุ่มไหว้วานให้พี่กลุ่มช่วยจัดหาอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายมาให้อย่างเต็มยศ, และอีกมากมายที่เกินความคาดหมายของผมอย่างสิ้นเชิง ...
ขณะที่บางกลุ่มก็ "วางงาน" อย่างพอเหมาะ พอเพียง
ก่อนเวลาการแสดงพักใหญ่ ๆ ผมมีโอกาสได้เดินเยี่ยมชม, ทักทายและให้กำลังใจแก่นิสิตใหม่ที่มีคณะที่ปรึกษาดูแลอยู่ใกล้ ๆ
หลายคนแซวผมว่า "เด็กทำอลังการถึงขั้นนี้ ผมต้องจัดหารางวัลให้ด้วยนะ..."
จริงดังที่เขาว่ากันนั่นแหละ... นิสิตแต่ละกลุ่มทุ่มเทพลังทางความคิด (power 0f thingking) อย่างเต็มที่ กิจกรรมที่กำลังเตรียมการดูเหมือนจะมีกลิ่นอายความชัดเจนในทางความคิด (clearing thingking) อยู่มากโข
ผมพยายามเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามว่าพวกเขาเตรียมการแสดงอะไรบ้าง แต่ส่วนใหญ่มักจะบอกว่าอดใจรอดูบนเวทีก็แล้วกัน !
โดยภาพรวมที่พบเห็น ... ก่อนกิจกรรมการแสดงทางความคิดจะขึ้นไปโลดแล่นบนเวที นั้น ผมเห็นถึง "นาฏกรรม" ที่นิสิตใหม่เหล่านี้ได้สร้างกิจกรรมขึ้นมาเหนือความคาดหมายที่ผมพยากรณ์อย่างสิ้นเชิง
ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะทุ่มเทมากมายทั้งแรงกาย, แรงคิด หรือแม้แต่งบประมาณ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งเกินความคาดเดาของผมทั้งสิ้น
และอันที่จริง, ผมก็ไม่ปรารถนาให้นิสิตเหล่านี้ต้องทำการบ้าน หรือบทเรียนนี้ใหญ่โตเป็นมหากาพย์ เพราะแค่ต้องการให้พวกเขาได้เรียนรู้วิถีแห่งการร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมแบ่งปันมิตรภาพความดีงามของชีวิตให้กันและกันเป็นที่ตั้ง
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมหัศจรรย์... และเป็นยิ่งกว่าที่ผมคาดเดาไว้เท่าตัว
ใจหนึ่งก็ดีใจที่เห็น "พลังทางความคิด" ของนิสิตใหม่ อีกใจก็รู้สึกผิดอยู่อย่างเงียบ ๆ ว่า "ผมให้โจทย์นี้ใหญ่เกินไปหรือเปล่า...." หรือแม้แต่ "ความแปลกใหม่ที่ใส่ลงไปในกิจกรรมนี้ จำเป็นต่อการเรียนรู้ของนิสิตหรือไม่ ?" ...
"เด็กใหม่ กำลังคิด กำลังโต... และกำลังต้องการเวทีการแสดงศักยภาพ รวมถึงการยอมรับจากคนรอบข้าง" .....
"ซึ่งผมและทีมงานได้ทำถูกต้องแล้ว...." ผมปลอบใจตนเองอยู่อย่างเงียบ ๆ
สวัสดีค่ะ
อาจารย์น่าจะดีใจกับเด็กไฟแรง และกำลังมีpassionค่ะ
สมัยเด็กพี่ก็เป็นแบบนี้
มีpassionมาจนบัดนี้ค่ะ
สวัสดีครับ
เมื่อวานเป็นอีกวันที่ผมประชุมตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึง 1 ทุ่ม (2 เรื่อง) จากนั้นเดินทางกลับกาฬสินธุ์ กลับมาถึงสารคามอีกทีก็ตอน .5 ทุ่มเศษ
....
กิจกรรมที่ผมบันทึกนั้น ต้องถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาดมาก เพราะให้อิสระกับนิสิตเต็มที่ พร้อมทั้งกำชัลให้คณะพี่เลี้ยงดูแลอยู่อย่างห่าง ๆ ไม่ต้องเข้าไปมีบทบาทต่อวิถีคิดของนิสิต
แต่ย้ำเน้นว่าให้ดำเนินการตามที่อยากคิดและอยากทำ โดยไม่จำเป็นต้องทำอะไรใหญ่โตในทางงบประมาณ และถ้าไม่ใช้งบประมาณเลยก็ยิ่งดี ซึ่งกำหนดเวลาแต่ละกลุ่มไม่เกิน 15 นาที
แต่กลายกลับว่า นิสิตเหล่านี้เต็มที่อย่างที่สุด และมีมิติทางความคิดที่น่าสนใจ ตอนแรกผมเองยังนึกแค่ว่าพวกเขาคงหนีกิจกรรมร้องรำทำเพลง หรือไม่ก็เต้นประกอบเพลงไม่ได้เป็นแน่
ครั้นเอาเข้าจริง กลับมีกิจกรรมที่สะท้อนทางสังคม, วัฒนธรรมและมหาวิทยาลัยที่น่าสนใจและมีสีสันชวนคิด ชวนมีความสุขเป็นอย่างมาก
สวัสดีครับ
ผมไม่แน่ใจว่าระบบเน็ตที่อื่นมีปัญหาบางหรือปล่า แต่ตอนนี้ระบบเน็ตที่ผมกำลังใช้ ช้า...และหลุดบ่อยจนน่าหงุดหงิด
.....
ผมเห็นด้วยนะครับกับวัฒนธรรมที่ผู้ใหญ่ไม่ค่อยเปิดเวทีให้เด้ก ๆ ได้แสดงออกอย่างเต็มที่ จนเขาเองก็ไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าเขาทำในสิ่งที่อยากทำได้หรือไม่
ขอบคุณคำแนะนำที่ดีและการสะท้อนภาพผู้ใหญ่ในสังคมที่ชวนคิด...
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ
แวะเข้าอ่าน"บันทึก"(ผมมักจะติดเรียก"กระทู้"..อิอิ)ชมภาพ"กิจกรรม"ที่ควรค่าแก่การยกย่อง ชื่นชมของอาจารย์ ซึ้งใจจนเขียนต่อยอดไม่ถูก ครับผม
สวัสดีครับ
ผมเองก็ชื่นชมพวกเขามาก ไม่คิดเลยครับว่าน้องนิสิตจะทุ่มเทมากมายปานนั้น เห็นความตื่นตัวของพวกเขาก็พลอยชื่นใจกับการทำงานของทีมงานด้วยเช่นกัน
ขอบคุณครับ
เด็กๆมักจะมีความคิดดีๆมาก เกินความคาดหวัง กิจกรรมดีๆเช่นนี้ น่าสนับสนุนค่ะ
เข้าเว็ปโดยใช้เวลามากเหมือนกันค่ะ
เมื่อเช้าจะบันทึก เครื่องเกิดรวนอีก ต้องหาเครื่องใหม่ทำค่อยบันทึกได้
สวัสดีครับ
ตอนนี้กิจกรรมเรียนล่วงหน้ายังเหลือเวลาให้จัดกิจกรรม อีก 3 ครั้ง ซึ่งผมกำลังจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ในบางเรื่อง เพื่อให้นิสิตได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมให้มากขึ้นกว่าเดิม.. และบางกิจกรรมที่เขาจัดขึ้น ต้องยอมรับว่า มีมิติทางความคิดที่น่าสนใจมาก แล้วผมจะเล่าในโอกาสต่อไปนะครับ
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน
วันนี้ได้อยู่ขอนแก่น ก็เลยแวะมาทายทัก
แบบว่า คิดถึง...
สวัสดีครับ
เรื่องจริงนะครับ ทุกครั้งที่นึกถึงคุณกาเหว่า.. คุณกาเหว่าก็จะเข้ามาทักในบันทึกเสมอ เช่นเดียวกับวันนี้ช่วงสาย ๆ ก็นึกถึงขึ้นมาเฉย ๆ พยายามเข้าบล็อกคุณกาเหว่า แต่เน็ตช้าและหลุดตลอดเวลา จนปิดเครื่องไปให้สบายใจตัวเองซะเลย..
ขอบคุณมากครับ...
อนึง คิดถึงเช่นกัน
สวัสดีค่ะ
เห็นแล้วชื่นชมมาก ๆ เลยค่ะ เด็ก ๆ ทุกคนเปรียบเสมือนผ้าขาว ที่บริสุทธิ์ มีชีวิต มีจิตวิญญาณ ขอเพียงผู้ใหญ่อย่างเราให้การชี้แนะสิ่งดี ๆ ที่สำคัญเปิดโอกาส หรือมีเวที ให้เขาแสดงสิ่งดี ๆ เหล่านี้ออกมา
เห็นแล้วว่าศักยภาพของเด็ก ไม่แพ้ผู้ใหญ่อย่างเราเลยค่ะ
สวัสดีครับ
วันหยุดเช่นนี้ ได้ไปพักผ่อนที่ไหนบ้าง หรือเปล่าครับ พี่แป๊ด
ผมเข้าใจว่าเด็กพวกนี้กำลังอยู่ในห้วงวัยที่มีพลัง และต้องการที่จะแสดงออก ต้องการการขานรับจากผู้อื่น ซึ่งเมื่อมาอยู่ร่วมกันกับเพื่อนใหม่ เมื่อเวทีให้แสดงศักยภาพก็ยิ่งเป็นจังหวะอันเหมาะเจาะที่จะสื่อสารศักยภาพตนเองไปยังผู้อื่น
ดีใจมากครับ ที่เห็นพวกเขารวมพลังทำงานกันได้อย่างน่าทึ่งและน่าชื่นชม
.. ได้ทั้งงาน ได้ทั้งเพื่อน
ขอบคุณพี่แป๊ดมากครับ !