เรียนล่วงหน้า (5) : ตกใจ .. พวกเขาทำมากกว่าที่ผมคิด


ผมก็ไม่ปรารถนาให้นิสิตเหล่านี้ต้องทำการบ้าน หรือบทเรียนนี้ใหญ่โตเป็นมหากาพย์

วันที่  3  เมษายนที่ผ่านมา  เป็นวันที่ทีมงานของเรากำหนดให้เป็นวันที่นิสิตเรียนล่วงหน้าทั้ง  8  กลุ่มจะได้ "สรุปบทเรียน"  ในห้วงแรกของพวกเขา  ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้มอบหมายให้แต่ละกลุ่มเตรียมการแสดงเพื่อสื่อสารมุมมองความคิดของพวกเขาที่มีต่อ "โลกและชีวิต"  หรือแม้แต่ที่มีต่อสถาบันไปแล้วตั้งแต่วันที่  23  เมษายน..

 

นี่เป็นครั้งแรกของการเข้ามาดูแลโครงการ ฯ  ดังกล่าว  หลังจาก 2  ปีที่ผ่านมา  ผมไม่มีสถานภาพที่เกี่ยวข้อง  จึงไม่ได้เข้ามามีส่วนกับกระบวนการเหล่านี้เลย  

 

แต่กระนั้น   ด้วยความสนิทสนมส่วนตัวกับหัวหน้างานกิจกรรม  (คุณวัฒนพงษ์   คงสืบเสาะ)   ก็เคยได้รับเทียบเชิญเป็นส่วนตัวให้เข้าไปช่วยงานบ้างเป็นครั้งคราว   ทั้งในฐานะวิทยากร,  ติดต่อวิทยากร  หรือแม้แต่การให้คำแนะนำเกี่ยวกับกิจกรรมนั้น  ๆ  อยู่บ้าง

 

 

แต่ปีนี้และคราวนี้   เมื่อเข้ามาดูแลกลุ่มงานกิจกรรมนิสิต  จึงง่ายต่อการที่จะได้ทำในสิ่งที่ตนเองอยากจะทำ   ซึ่งสิ่งนั้นเราเองก็เชื่อว่าจะ   ก่อเกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของนิสิตอย่างเต็มที่  

 

(การจะได้ทำในสิ่งที่ตนเองคิด  บางทีก็จำต้องอาศับสถานะและบทบาทอยู่เหมือนกัน)

 

ผมเคยให้แนวคิดกับผู้รับผิดชอบว่า   อะไรที่ดีอยู่แล้วให้ "ต่อยอดความคิด"  ไปได้อย่างไม่ต้องลังเล    แต่ครั้งนี้  "อะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนก็ลองให้นำมาทดลองใช้ดูบ้าง"  เช่น   การประสานความเป็นองค์กรภายในหน่วยงานเข้ามาร่วมขับเคลื่อน  รวมถึงการให้นิสิตใหม่ได้มี "ส่วนร่วม"  ในกิจกรรมมากขึ้น   โดยไม่จำเป็นต้องบังคับให้เขา "นั่งฟัง, นั่งดู, และนั่งหลับ"  สถานเดียว

 

นั่นจึงเป็นที่มาของการ "เปิดเวทีทางความคิด"  ให้นิสิตเรียนล่วงหน้าได้แสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์  (creative)  อย่างเต็มที่และเต็มกำลัง

 

ตลอดเวลาที่เฝ้าสังเกตก็สังหรณ์ใจไม่น้อยว่า -  นิสิตเหล่านี้มีการนัดหมายเพื่อนในกลุ่มพบปะพูดคุยและวางแผนการทำงานใน "บทเรียน"  ที่ได้รับมอบหมายอยู่เป็นระยะ ๆ  (อย่างจริงจังและต่อเนื่อง)

 

ผมไม่ได้คาดหวังว่านิสิตต้องทุ่มเทพลังกาย  พลังใจมากมายถึงปานนั้น   เพียงแต่ต้องการใช้กิจกรรมดังกล่าวเป็น "กุศโลบาย"  ให้พวกเขาได้เรียนรู้หลักของการอยู่ร่วมกันและทำงานร่วมกันเป็นสำคัญ -  เท่านั้นเอง

 

แต่ความจริงที่ปรากฏการณ์กายอยู่ตรงหน้า   กลับกลายเป็นว่านิสิตใหม่เหล่านี้   ให้ความสำคัญต่อบทเรียนที่ให้ไปอย่างมหาศาล...

 

หลายกลุ่มทุ่มเทถึงขั้นเดินทางกลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดเพื่อเช่าชุดการแสดง,  บางกลุ่มไหว้วานให้พี่กลุ่มช่วยจัดหาอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายมาให้อย่างเต็มยศ,  และอีกมากมายที่เกินความคาดหมายของผมอย่างสิ้นเชิง ...

 

ขณะที่บางกลุ่มก็  "วางงาน"   อย่างพอเหมาะ พอเพียง

 

 

ก่อนเวลาการแสดงพักใหญ่ ๆ  ผมมีโอกาสได้เดินเยี่ยมชม, ทักทายและให้กำลังใจแก่นิสิตใหม่ที่มีคณะที่ปรึกษาดูแลอยู่ใกล้ ๆ  

 

หลายคนแซวผมว่า "เด็กทำอลังการถึงขั้นนี้   ผมต้องจัดหารางวัลให้ด้วยนะ..."

 

จริงดังที่เขาว่ากันนั่นแหละ...  นิสิตแต่ละกลุ่มทุ่มเทพลังทางความคิด  (power 0f  thingking)  อย่างเต็มที่   กิจกรรมที่กำลังเตรียมการดูเหมือนจะมีกลิ่นอายความชัดเจนในทางความคิด (clearing thingking)   อยู่มากโข 

 

ผมพยายามเลียบ ๆ  เคียง ๆ  ถามว่าพวกเขาเตรียมการแสดงอะไรบ้าง  แต่ส่วนใหญ่มักจะบอกว่าอดใจรอดูบนเวทีก็แล้วกัน  !

 

โดยภาพรวมที่พบเห็น ...  ก่อนกิจกรรมการแสดงทางความคิดจะขึ้นไปโลดแล่นบนเวที นั้น   ผมเห็นถึง "นาฏกรรม"  ที่นิสิตใหม่เหล่านี้ได้สร้างกิจกรรมขึ้นมาเหนือความคาดหมายที่ผมพยากรณ์อย่างสิ้นเชิง

 

ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะทุ่มเทมากมายทั้งแรงกาย, แรงคิด  หรือแม้แต่งบประมาณ  ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งเกินความคาดเดาของผมทั้งสิ้น  

 

และอันที่จริง,   ผมก็ไม่ปรารถนาให้นิสิตเหล่านี้ต้องทำการบ้าน หรือบทเรียนนี้ใหญ่โตเป็นมหากาพย์    เพราะแค่ต้องการให้พวกเขาได้เรียนรู้วิถีแห่งการร่วมคิด ร่วมทำ   และร่วมแบ่งปันมิตรภาพความดีงามของชีวิตให้กันและกันเป็นที่ตั้ง

 

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมหัศจรรย์... และเป็นยิ่งกว่าที่ผมคาดเดาไว้เท่าตัว 

 

ใจหนึ่งก็ดีใจที่เห็น "พลังทางความคิด"  ของนิสิตใหม่   อีกใจก็รู้สึกผิดอยู่อย่างเงียบ ๆ ว่า  "ผมให้โจทย์นี้ใหญ่เกินไปหรือเปล่า...."   หรือแม้แต่   "ความแปลกใหม่ที่ใส่ลงไปในกิจกรรมนี้ จำเป็นต่อการเรียนรู้ของนิสิตหรือไม่ ?"   ...  

 

"เด็กใหม่   กำลังคิด  กำลังโต...  และกำลังต้องการเวทีการแสดงศักยภาพ  รวมถึงการยอมรับจากคนรอบข้าง" .....

"ซึ่งผมและทีมงานได้ทำถูกต้องแล้ว...."   ผมปลอบใจตนเองอยู่อย่างเงียบ ๆ

 

 

หมายเลขบันทึก: 94452เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2007 08:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สวัสดีค่ะ

อาจารย์น่าจะดีใจกับเด็กไฟแรง และกำลังมีpassionค่ะ

สมัยเด็กพี่ก็เป็นแบบนี้

มีpassionมาจนบัดนี้ค่ะ

  • เด็กไทยเก่ง ถ้าสนับสนุนให้ถูกทาง
  • บางครั้งผู้ใหญ่ห่วงเด็กมากไป
  • ทำให้เด็กไม่รู้ตัวว่าตัวเองก็ทำได้

สวัสดีครับ

P

เมื่อวานเป็นอีกวันที่ผมประชุมตั้งแต่  10  โมงเช้าจนถึง  1  ทุ่ม  (2  เรื่อง)  จากนั้นเดินทางกลับกาฬสินธุ์  กลับมาถึงสารคามอีกทีก็ตอน .5  ทุ่มเศษ

....

กิจกรรมที่ผมบันทึกนั้น  ต้องถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาดมาก   เพราะให้อิสระกับนิสิตเต็มที่  พร้อมทั้งกำชัลให้คณะพี่เลี้ยงดูแลอยู่อย่างห่าง ๆ  ไม่ต้องเข้าไปมีบทบาทต่อวิถีคิดของนิสิต

แต่ย้ำเน้นว่าให้ดำเนินการตามที่อยากคิดและอยากทำ  โดยไม่จำเป็นต้องทำอะไรใหญ่โตในทางงบประมาณ  และถ้าไม่ใช้งบประมาณเลยก็ยิ่งดี  ซึ่งกำหนดเวลาแต่ละกลุ่มไม่เกิน  15  นาที

แต่กลายกลับว่า  นิสิตเหล่านี้เต็มที่อย่างที่สุด   และมีมิติทางความคิดที่น่าสนใจ   ตอนแรกผมเองยังนึกแค่ว่าพวกเขาคงหนีกิจกรรมร้องรำทำเพลง  หรือไม่ก็เต้นประกอบเพลงไม่ได้เป็นแน่ 

ครั้นเอาเข้าจริง  กลับมีกิจกรรมที่สะท้อนทางสังคม, วัฒนธรรมและมหาวิทยาลัยที่น่าสนใจและมีสีสันชวนคิด ชวนมีความสุขเป็นอย่างมาก

 

สวัสดีครับ

P

ผมไม่แน่ใจว่าระบบเน็ตที่อื่นมีปัญหาบางหรือปล่า  แต่ตอนนี้ระบบเน็ตที่ผมกำลังใช้ ช้า...และหลุดบ่อยจนน่าหงุดหงิด

.....

ผมเห็นด้วยนะครับกับวัฒนธรรมที่ผู้ใหญ่ไม่ค่อยเปิดเวทีให้เด้ก ๆ ได้แสดงออกอย่างเต็มที่  จนเขาเองก็ไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าเขาทำในสิ่งที่อยากทำได้หรือไม่

ขอบคุณคำแนะนำที่ดีและการสะท้อนภาพผู้ใหญ่ในสังคมที่ชวนคิด...

ขอบคุณมากครับ 

 

สวัสดีครับ

แวะเข้าอ่าน"บันทึก"(ผมมักจะติดเรียก"กระทู้"..อิอิ)ชมภาพ"กิจกรรม"ที่ควรค่าแก่การยกย่อง ชื่นชมของอาจารย์  ซึ้งใจจนเขียนต่อยอดไม่ถูก ครับผม

สวัสดีครับ

P

ผมเองก็ชื่นชมพวกเขามาก  ไม่คิดเลยครับว่าน้องนิสิตจะทุ่มเทมากมายปานนั้น  เห็นความตื่นตัวของพวกเขาก็พลอยชื่นใจกับการทำงานของทีมงานด้วยเช่นกัน

ขอบคุณครับ

เด็กๆมักจะมีความคิดดีๆมาก เกินความคาดหวัง กิจกรรมดีๆเช่นนี้ น่าสนับสนุนค่ะ

เข้าเว็ปโดยใช้เวลามากเหมือนกันค่ะ

เมื่อเช้าจะบันทึก เครื่องเกิดรวนอีก ต้องหาเครื่องใหม่ทำค่อยบันทึกได้

สวัสดีครับ

P

ตอนนี้กิจกรรมเรียนล่วงหน้ายังเหลือเวลาให้จัดกิจกรรม อีก 3  ครั้ง  ซึ่งผมกำลังจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ในบางเรื่อง  เพื่อให้นิสิตได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมให้มากขึ้นกว่าเดิม..  และบางกิจกรรมที่เขาจัดขึ้น  ต้องยอมรับว่า  มีมิติทางความคิดที่น่าสนใจมาก  แล้วผมจะเล่าในโอกาสต่อไปนะครับ

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน

วันนี้ได้อยู่ขอนแก่น ก็เลยแวะมาทายทัก

แบบว่า คิดถึง...

สวัสดีครับ

P

เรื่องจริงนะครับ   ทุกครั้งที่นึกถึงคุณกาเหว่า.. คุณกาเหว่าก็จะเข้ามาทักในบันทึกเสมอ  เช่นเดียวกับวันนี้ช่วงสาย ๆ  ก็นึกถึงขึ้นมาเฉย ๆ  พยายามเข้าบล็อกคุณกาเหว่า   แต่เน็ตช้าและหลุดตลอดเวลา  จนปิดเครื่องไปให้สบายใจตัวเองซะเลย..

ขอบคุณมากครับ...

อนึง  คิดถึงเช่นกัน

สวัสดีค่ะ

          เห็นแล้วชื่นชมมาก ๆ เลยค่ะ  เด็ก ๆ ทุกคนเปรียบเสมือนผ้าขาว ที่บริสุทธิ์ มีชีวิต มีจิตวิญญาณ  ขอเพียงผู้ใหญ่อย่างเราให้การชี้แนะสิ่งดี ๆ ที่สำคัญเปิดโอกาส หรือมีเวที ให้เขาแสดงสิ่งดี ๆ เหล่านี้ออกมา

         เห็นแล้วว่าศักยภาพของเด็ก ไม่แพ้ผู้ใหญ่อย่างเราเลยค่ะ

สวัสดีครับ

P

วันหยุดเช่นนี้  ได้ไปพักผ่อนที่ไหนบ้าง หรือเปล่าครับ พี่แป๊ด

ผมเข้าใจว่าเด็กพวกนี้กำลังอยู่ในห้วงวัยที่มีพลัง  และต้องการที่จะแสดงออก  ต้องการการขานรับจากผู้อื่น  ซึ่งเมื่อมาอยู่ร่วมกันกับเพื่อนใหม่  เมื่อเวทีให้แสดงศักยภาพก็ยิ่งเป็นจังหวะอันเหมาะเจาะที่จะสื่อสารศักยภาพตนเองไปยังผู้อื่น

ดีใจมากครับ  ที่เห็นพวกเขารวมพลังทำงานกันได้อย่างน่าทึ่งและน่าชื่นชม 

.. ได้ทั้งงาน  ได้ทั้งเพื่อน

ขอบคุณพี่แป๊ดมากครับ !

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท