ความตั้งใจ


ความรู้จากสหวิชาชีพที่ฝังอยู่ในแต่ละคน (Tacit Knowledge) เช่น ทักษะ ประสบการณ์ ความคิด และพรสวรรค์ ยังไม่ได้นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์อีกมาก

หลังจากที่ฉันสอบ Comprehensive เสร็จ ก็มี project เข้ามาในหัวมากมาย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากทำ ตั้งแต่ฉันโอนมาที่ DSI หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษแห่งนี้ ฉันได้พบปะกับเพื่อนร่วมสถาบันที่มาจากหน่วยงานต่างๆ ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ DSI เป็นหน่วยงานที่รวบรวมสหวิชาชีพเข้าด้วยกัน ดังนั้น สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ทุกคนต้องมีขีดความสามารถในระดับสูงแน่นอน

แต่ความสามารถที่ทุกคนมี ทำอย่างไรจึงจะได้นำออกมาแลกเปลี่ยน เรียนรู้วิธีการทำงานที่เคยแตกต่างกัน นั่นแหละที่ฉันมองว่ายังไม่มีความเป็นรูปธรรม How 2 manage?

นั่นสินะ ฉันจะจัดการอย่างไรดี ความรู้ที่ร่ำเรียนมาจากนิด้า อาจารย์หลายๆ ท่านอุตส่าห์ทุ่มเทความรู้ให้ ถ้าฉันไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ ก็คงจะไร้ประโยชน์เต็มทีกับการเรียน 2 ปีเต็ม ฉันไม่อยากให้หน่วยงานฉันเป็นอย่างใน slide ที่กล่าวว่า

องค์กรของท่านเป็นแบบนี้หรือไม่

"จะ share ไปทำไม เดี๋ยวคนอื่นก็เก่งกว่าเรา"
"ถ้าบอกไปแล้ว เราก็หมดความสำคัญนะซิ"
"เรื่องที่เราทำอยู่นี่ ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้น ไม่เห็นต้อง share เลย"
"ยุ่งจะตายแล้ว จะหาเวลาที่ไหนมา share ความรู้กัน"
"อย่าพูดดีกว่า เดี๋ยวจะข้ามหน้าข้ามตาหัวหน้า"
ฯลฯ

ฉันจึงเริ่มขอให้บรรดาพี่ๆ ช่วยเขียนบทความเกี่ยวกับประสบการณ์ให้หน่อย เพื่อที่ฉันจะได้นำไปลงในเว็บไซต์ของสำนักที่ฉันกำลังดำเนินการอยู่  เจตนาก็เพื่อที่จะได้เกิดกระบวนการเรียนรู้รูปแบบใหม่ เพราะแต่ละคนจะมีมุมมอง ทัศนะที่หลากหลายและแตกต่างกัน บางคนก็ปฏิเสธ บางคนก็ตอบรับทันที ไม่รู้ว่าไอเดียฉันพอจะขายได้มั้ย แต่อย่างน้อยก็มีการเริ่มต้นล่ะ อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง แต่ฉันก็จะลองดู

ทำไมฉันถึงอยากทำตรงนี้เหรอ?  อาจจะเป็นเพราะสิ่งที่ฉันเรียนรู้เมื่อทำงานที่นี่ไปได้ระยะหนึ่ง  พบว่าความรู้จากสหวิชาชีพที่ฝังอยู่ในแต่ละคน (Tacit Knowledge) เช่น ทักษะ ประสบการณ์ ความคิด และพรสวรรค์ ยังไม่ได้นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์อีกมากน่ะสิ

เมื่อย้อนกลับไปคิดถึงคราวไปอบรมกฎหมายที่เนติบัณฑิตยสภา เพื่อนร่วมรุ่นจากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับการโอนมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษแห่งนี้ ต่างตั้งคำถามกับฉันมากมายว่า ทำไม? คิดยังไง? ถึงได้โอนมาที่นี่

ที่จริง ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่จะได้รับคำถามเช่นนั้น เพราะแม้กระทั่งเพื่อนๆ พี่ๆ ในหน่วยงานเดิมของฉัน ก็ตั้งคำถามแบบเดียวกันนี้กับฉัน ต่างบอกให้ฉันคิดให้ดีนะ ทั้งในแง่ของการทำงานและค่าตอบแทน

ฉันคิดว่าสถานการณ์แบบนี้ ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเมื่อคราวที่ฉันทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ประเมินอากร ประมาณปี 2540 ที่ใครๆ ก็ว่าบ้าที่ฉันตัดสินใจตอบรับคำชวนจากพี่คนนึงที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน ไปร่วมทีมทำงานสืบสวนปราบปรามด้วยกัน ... แม้กระทั่งคนชวนเองยังตกใจที่ฉันตอบรับทันที  ฮ่าๆๆ ก็คนชวนเขาก็ไม่ได้รู้จักฉันเลย เคยเห็นหน้าค่าตากัน แล้วก็เป็นเพื่อนกับหัวหน้าเก่าฉัน ฟังความมาว่าฉันเก่งหยั่งงั้น ฉันเก่งหยั่งงี้ ...อันนี้ เค้าคงพูดกันเกินจริงไปหน่อย พี่เขาให้ฉันคิดให้ดีว่ามีภาระอะไรอยู่รึเปล่า เพราะไปทำงานใหม่ก็จะมีแค่เงินรางวัลจากการจับกุมเท่านั้นนะ ซึ่งฉันก็คิดว่านั่นล่ะที่ต้องการ  แล้วก็ไม่คิดมาก่อนว่านั่นจะเป็นการได้ร่วมทำงานกับพี่ชวลิต ก้อนทอง เป็นครั้งแรก

แค่อยากบอกว่าค่าตอบแทนในการทำงานที่เป็นตัวเงิน ไม่ได้มีผลกับการตัดสินใจในการเปลี่ยนสายงานของฉันเลย เช่นก่อนที่ฉันจะโอนมาที่นี่ ฉันมีเงินเดือน มีเงินประจำตำแหน่งพิเศษ มีค่าเบี้ยเลี้ยง เงินค่าธรรมเนียมที่ถูกกฎหมาย รวมแล้วมากกว่าเงินเดือนรวมเงินประจำตำแหน่งที่โอนมานี่เป็นหมื่น ไม่รวมเงินรางวัลจากการจับกุมอีก ถ้าใช้ทฤษฎีของ Maslow ฉันคงอยู่ในขั้นสุดท้ายกระมัง

ฉันอาจจะมีอีโก้ในตัวสูง ฉันเชื่อมั่นอย่างนึงว่าฉันมีศักยภาพเพียงพอที่จะงานรับใช้หลวงได้ ไม่ว่าฉันจะอยู่สถาบันหรือหน่วยงานไหน ฉันแค่อยากรู้สึกว่าได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ อยากทำงานแบบที่ตัวเองใฝ่ฝัน  ฝันว่าตัวเองจะได้ทำงานในหน่วยงานที่มีบุคลากรที่มากความสามารถ เหมือน FBI ที่เราดูกันในหนังนั่นล่ะ

หลายคนอาจจะว่าฉันเพ้อฝัน แต่ฉันก็ยังเชื่อมั่นในเรื่องศักยภาพของคนนะ ทุกคนมีศักยภาพในตัว เพียงแต่ว่าบางครั้งอาจจะหลบมุม หรือไม่ได้ฉายแสงเด่น รอแต่ว่าจะมีใครหยิบมาเจียระไนให้เกิดประโยชน์มากขึ้นเท่านั้นเอง

ทุกอย่างต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน ต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนทัศนคติมากมาย ไม่รู้ว่าฉันจะวาดฝันเกินไปรึเปล่า ที่พยายามสร้างกระบวนการเรียนรู้ขึ้นภายในสำนัก เพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำงานให้ได้ทั้งประสิทธิผลและประสิทธิภาพไปพร้อมๆ กัน  ก็คงได้แต่หวังว่าเพื่อนพ้องน้องพี่จะร่วมด้วยช่วยกันหน่อยล่ะ

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 9444เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2005 13:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 15:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท