พวกน้องๆสาวๆทั้งหลายวิ่งกรูกันเข้ามาในห้องทำงานรุ่นพี่ แล้วบอกว่าข่าวด่วนๆ ! พี่อ่านหนังสือปกเขียว แล้วยัง?
รุ่นพี่ถอดแว่นสายตายาวแล้วมองหน้าน้องอย่างฮงๆ น้องก็บอกว่าก็ปกเขียวๆที่มหา’ลัยแจกน่ะ เล่มนั้นน่ะ ที่แจกนานแล้วน่ะ
พี่แกใส่แว่นกลับแล้วทำหน้างงหนัก วัยรุ่นชักเซ็งเลยเฉลยว่าเล่มนั้นไฮ เล่มชื่อยาวๆว่า “ เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2548 และแนวทางการบริหารเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2548” (เลขอารบิก)ที่มหา’ลัยออกเป็น ”ประกาศมหาวิทยาลัย(...ชื่อสงวนไว้เพื่อสวัสดิภาพของผู้เขียน..)เรื่อง การปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ และ แนวทางการบริหารเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ (เลขไทย)นั่นไฮ !”
พี่ร้องอ๋อบอกว่าอ่านแล้ว แกไม่เคยเห็นมหาวิทยาลัยแจกอะไรที่สนุกน่าอ่านอย่างนี้มาก่อน เอกสารประกอบ การประชุมแกก็ยังอ่านไม่ละเอียดเท่านี้
น้องๆทำหน้างงมั่งแล้วก็ถามว่ามันสนุกตรงไหน ไอ้ข้อกฎหมายยากๆนั่นน่ะ
พี่แกวางท่าดูดีมีมาตรฐาน แล้วตอบอย่างมีหลักการเป็นข้อๆดังนี้.......
หนึ่ง สนุกตอนเปิดอ่าน พอเปิดเจอที่หน้าตาเหมือนกฎหมายก็อ่านไม่รู้เรื่อง แต่เขามี ฉะ - เหลย ย้ำ !
เขามี ฉะ - เหลยให้ตอนท้าย แกว่าสนุกเหมือนอ่านนิยายลึกลับสอบสวน คือเราเปิดดูคำตอบตอนจบซะก่อน แล้วค่อยอ่านข้างหน้า อ่านแล้วจะรู้สึกว่าเราเข้าใจ และมองเห็นอะไรชัดขึ้น เหมาะสำหรับคนเกือบฉลาดอย่างแก
ไอ้ที่สงสัยและคิดแย้ง คิดตั้งคำถามต่อในใจ เขาก็ตั้งคำถามและคิดคำตอบดักหน้าไว้ให้เราหมดทุกข้อ เหมือนได้คุยกับคนฉลาดๆน่ะ เราก็สนุกที่ได้เห็นวิธีคิดดักหน้าดักหลัง ดีออกเราจะได้มาวางแผนของเรามั่ง โรงเรียนเราเรื่องอะไรเราจะยอมให้เพื่อนมาทุบเอาง่ายๆ
รุ่นน้องอ้าปากจะเถียง พี่แกรีบพูดต่อว่า
สอง สนุกตรงชัดเจน เข้าใจไหม มันชัดเจนในหลายๆเรื่อง ชัดเจนบางรักซอยเก้าอย่างแท้จริง เช่นแกเคยสงสัยเรื่องปรับปรุงกับพัฒนาหลักสูตรมานาน ถามใครก็กลายเป็นเถียงหวิดจะได้กลายเป็นทะเลาะกับเขาทุกที เดี๋ยวปรับเล็ก เดี๋ยวปรับกลาง เดี๋ยวปรับใหญ่ แกสับสนในชีวิต จนแกมาอ่านเจอว่า อ๋อ! หลักสูตรใหม่ หน้า 53 ข้อ1 เป็นงี้ๆ.. หลักสูตรปรับปรุง หน้า 54 ข้อ 2 เป็นงี้ๆ.. เขาอธิบายดี ชัดเจนแจ่มแจ๋วเลย
รุ่นน้องอ้าปากหวอ ประมาณว่าอึ้งและทึ่งที่พี่แกจำแม่นขนาดนี้ พี่แกได้ทีรีบพูดต่อว่า
สาม สนุกตอนเถียงกับเพื่อน แกว่าสนุกชะมัดเลยเพราะเพื่อนไม่อ่าน หรือไม่ก็ยังอ่านไม่จบ หรือไม่ก็อ่านจบแต่ไม่อ่านตีความอย่างละเอียดรอบคอบ ส่วนแกอ่านไม่ต่ำกว่าสิบรอบพอเพื่อนถามแกก็ตอบฉอดๆๆๆ จนเพื่อนๆ อึ้งและทึ่งที่พี่แกจำแม่นซะขนาดนั้น (แต่ไม่ได้บอกว่าที่ตอบเขาไปผิดๆ เพราะตีความผิด ก็เยอะเหมือนกัน)
รุ่นน้องทำหน้าเลื่อมใส พี่แกยิ่งได้ใจเลยยิ่งพูดต่อว่า
สี่ สนุกที่ได้ลับสมองเตรียมรับมือ เพราะเราต้องเจอ สมศ. (สำนักมาตรฐานและประเมินผลการศึกษา) และ สกอ.ประเมินแหงๆ ทีมอาจารย์ประจำหลักสูตรทุกคนก็ต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำคนละไม้คนละมือ เตรียมฐานข้อมูลทุกอย่างของโปรแกรมหรือของหลักสูตรไว้ให้พร้อม การเตรียมพร้อมทำให้เรารู้สึกมั่นใจ เหมือนอย่างพวกเธอเนี่ย ที่เตรียมพร้อมพิมพ์การ์ด พิมพ์ซองไว้แล้ว รอแต่ชื่อ นามสกุลเจ้าบ่าวนี่ไฮ....
รุ่นน้องหน้าหงิกทันควัน บอกว่าไม่ต้องมาพูดให้ช้ำใจนะพี่ ชื่อน่ะมี แต่เขาไม่ยอมให้ใช้นามสกุลเนี่ยซี......
พี่แกยิ้มอย่างมั่นใจในข้อมูล แล้วตอบว่า
“..หน้า 59 ข้อ 3 บรรทัดที่ 5 เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรไม่ได้กำหนดเรื่องนี้ไว้ จึงให้อยู่ในดุลยพินิจของสถาบันอุดมศึกษานั้นๆ.”
!!!...
............................................................................................................
หมายเหตุ :
เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่ง มีจุดมุ่งหมายเพื่อจูงใจให้บุคลากร สนใจอยากอ่านระเบียบปฏิบัติ ที่จะมีผลต่อทุกคนในองค์กร ขอยืนยันว่าเนื้อหาทั้งหมดตั้งแต่ต้นเรื่อง มิได้พาดพิงถึงผู้ใดทั้งสิ้น........ และ ขอยืนยันว่าตอนจบ...ก็มิได้พาดพิงถึงบุคคลภายนอกแต่อย่างใด.
5555
ธรรมะสวัสดีครับ
สวัสดีครับ อ.ดอกไม้ทะเล
ธรรมะสวัสดีครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์
ขึ้นหัวข้อได้ต๊กใจมากค่ะ อิ อิ สุดท้ายอ่านแล้วหัวเราะก๊ากเลยค่ะ นึกว่าเรื่องอะไร
พออ่านถึงตอน พี่แกใส่แว่นกลับแล้วทำหน้างงหนัก วัยรุ่นชักเซ็งเลยเฉลยว่าเล่มนั้นไฮ เล่มชื่อยาวๆว่า “ เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2548 และแนวทางการบริหารเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2548” (เลขอารบิก)ที่มหา’ลัยออกเป็น ”ประกาศมหาวิทยาลัย(...ชื่อสงวน พี่แกยิ้มอย่างมั่นใจในข้อมูล แล้วตอบไว้เพื่อสวัสดิภาพของผู้เขียน..) หัวเราะคิก ๆ เลยค่ะ
“..หน้า 59 ข้อ 3 บรรทัดที่ 5 เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรไม่ได้กำหนดเรื่องนี้ไว้ จึงให้อยู่ในดุลยพินิจของสถาบันอุดมศึกษานั้นๆ.” !!!...
เอ๊ะ ใครเอ่ยกินปูนร้อนท้อง ฮ่า ๆๆๆ
สวัสดีค่ะคุณธรรมาวุธ
สวัสดีค่ะอาจารย์แป๋ว
มีเกณฑ์มาตรฐานนี่ก็ดีเหมือนกันนะคะ จะได้รู้ว่าอะไรเป็นมาตรฐาน และอะไรไม่ใช่ จะได้ช่วยกันทำให้ดี แต่ขณะเดียวกันก็ต้องดูปริบทจำเพาะ (แปลว่าข้อจำกัดเฉพาะ) ของแต่ละที่ด้วย อันนี้ก็คงต้องปรับให้เหมาะสมกันต่อไป
ถ้ามีเกณฑ์และระเบียบเฉพาะขององค์กรเราออกมาคู่กันไปอย่างที่อาจารย์แป๋วเล่า ยิ่งดีมากเลยค่ะ
เอ่อ...บทความนี้ดิฉันก็เขียนไประทึกไปจริงๆอะค่ะ เพราะระบุชื่อเฉพาะตรงๆ แต่ ตอนที่เขียนนั้น คิดว่าอาจจะช่วยเรื่องการสร้างความตระหนักได้อีกทางหนึ่ง ก็เลยเขียนลงสารประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัย กลัวเพื่อน 'เหม่น เอาหน่อยๆเหมือนกันอะค่ะ :)
สวัสดีค่ะ อาจารย์ราณี
ตอนจบของเรื่องนี้ ขอเรียนว่าดิฉันมิได้คิดถึงตนเองเลย คือว่าคิดถึงแบบว่า ...อะไรทำนองว่าทั่วๆไป
...... ก็เลย เจอกันไปถ้วนทั่ว อะค่ะ .....ตัวเองก็หลบไม่พ้น ......... เนี่ย.....ท้องยังอุ่นๆอยู่เรย.... อิอิ :-)
เข้ามาอ่านได้รู้อะไร....เพิ่มเติมมากมาย...ขอบคุณมากๆๆครับ
สวสดีค่ะ คุณทวี หอมหวล
ขอบพระคุณที่แวะมานะคะ .......ดิฉันเองก็ได้คุณค่าจากการเข้าร่วมสนทนาในทุกๆบันทึก นึกไปแล้วการได้พูดคุยในบันทึก ก็คล้ายการเรียนแบบสนทนาอยู่มาก แต่เพลิดเพลินกว่ากันเยอะอะค่ะ :)
สวัสดีค่ะ อ.ราณี
ขอบคุณมากเลยค่ะ :) ได้ร้องตามจนจบเพลงอย่างหนุกหนาน ได้อารมณ์มาก นางฟ้าน่ารักอีกต่างหาก มีเสกปิ๊งๆด้วยอะ สมเป็นนางฟ้า เพราะว่าเดาถูกด้วย ......ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ...... :)
ปล. ไหนๆก็แก่ไปอีกปีแว้ว วัยกลางคนแล้วอะค่ะ อิอิ ขออนุญาตแทนตัวเองว่า พี่แอมป์ ได้ป่าวคะ เพราะ ดูจากภาพแล้ว อ.ราณี กับ อ.ลูกหว้า ดูเด็กกว่ามากๆ เลยอะค่ะ :)
หมายเหตุ :
เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่ง มีจุดมุ่งหมายเพื่อจูงใจให้บุคลากร สนใจอยากอ่านระเบียบปฏิบัติ ที่จะมีผลต่อทุกคนในองค์กร ขอยืนยันว่าเนื้อหาทั้งหมดตั้งแต่ต้นเรื่อง มิได้พาดพิงถึงผู้ใดทั้งสิ้น........ และ ขอยืนยันว่าตอนจบ...ก็มิได้พาดพิงถึงบุคคลภายนอกแต่อย่างใด
***
ขอสารภาพค่ะ พี่แอมป์ (สวมรอยเป็นน้องแล้วค่ะ)
เป็นคนไม่ชอบอ่านระเบียบปฏิบัติ (แต่เป็นคนปฏิบัติตามระเบียบ..น่าน...)
หากเมื่อความจำเป็นบังคับ อาศัยเป็นคนปฎิภาณดีปานกลาง มักจะกล้อมแกล้มไปได้น้ำใส ๆ (ปนขลุกขลิก)
สมัยเมื่อหน่วยงานของเราต้องผ่านการประเมินคุณภาพ(ตรวจ) ก็อ่าน ๆ และ อ่าน และย่อยทั้งเล่ม"ระเบียบปฏิบัติ"หนา ๆ ออกมาได้ห้านิ้ว(มือ)
จริง ๆ นะคะ
คุย+สอนน้อง ๆ ว่า
"นี่ยื่นมือออกมาคนละข้าง" "มีห้านิ้วทุกคน"
..นิ้วโป้งแทนตัวเรา-เรามีหน้าที่หลักอะไร..ทำไป(พันธกิจ,vision)
..นิ้วชี้ ทำแบบชี้นิ้วเคาะมาที่สมองของเรา..หรือจะปั่น ๆ แบบอิ๊กคิวซังก็ย่อมได้ ทำให้ดี ให้ถูกต้อง..(do)
..นิ้วกลาง ทำเช่นนี้ทุกวันไป ประดุจเกลือรักษาความเค็ม..(ต่อเนื่อง)
..นิ้วนาง..ความใฝ่ฝันจะได้สวมแหวนกับเขา(ซักที)..ทำสิ่งที่เราคิดอยากพัฒนา อยากให้งานดีขึ้น เร็วขึ้น ถูกต้องครบถ้วน..ทำปายเลยอ้ายน้อง..(แพลน)
..นิ้วก้อย น้องน้อย..ตรวจสอบตัวเอง หรือ ให้คนอื่นตรวจเราได้...
โอ โดนขัดจังหวะ สามีมาแย่งเครื่อง..ไปก่อนค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอเล็ก
อ้าว..เราเป็นคนแบบเดียวกันเล้ย ไม่ชอบอ่านระเบียบปฏิบัติ (แต่เป็นคนปฏิบัติตามระเบียบ...) : )
โอ้โห.. "ทฤษฎีห้านิ้ว" ของคุณหมอเล็กสุดยอดเลยค่ะ (สงสัยจังว่ากูเกิ้ลจะทรานสะเหลทว่าอะไร ไฟฟว์ ฟิงเกอร์ ธีโอรี บาย สะมอล ด็อกเตอร์) : ) : )
วิธีถอดบทเรียนการอยู่ร่วมกันในองค์กรคุณภาพได้อย่าง"ตกผลึก"แบบนี้พี่แอ็มป์ชอบจัง โดยเฉพาะนิ้วนางที่คุณหมอเล็กบอกว่า "ทำปายเลยไอ้น้อง" เฮ้วได้ใจจริงๆ
อนึ่ง สำหรับนิ้วนางนี่พี่แอมป์ก็รออยู่เหมือนกัน คือรอสวมแหวน ...วงที่เราซื้อมาเองกะมืออะค่ะ.. อิอิ
ขอบพระคุณที่คุณหมอเล็กแวะมาแบบเท่ๆนะคะ โปรดรักษาสุขภาพและขอให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ไวๆนะคะ : ) : )
พี่แอมป์ น้องหาญไปเขียน เป็นการเป็นงาน ต่อยอดมาจากบันทึกนี้ของพี่แอมป์แหละค่ะ ฮา..
จะได้เฮกันจริง ๆ ตรงนี้ คือเขียนเป็นการเป็นงาน บ่ ค่อยเป็น
(เขียนไม่เป็นการเป็นงานก็ บ่ ค่อยเป็นนิ)
แล้วเขียนอะไรเป็น...
เขียนตามใจฉันสินะคะ เป็นที่สุด...
สวัสดีค่ะคุณหมอเล็ก
เอ่อ..พี่แอมป์ได้หัวเราะคิกโดยมิได้เจตนาเพราะเผลอไปสงสัยว่า "น้องหาญ" เป็นใครทั้งที่ยังอ่านไม่จบประโยค : ) มีเฮตั้งแต่เริ่มต้นเลยค่ะ อิอิ
พี่แอมป์ตามไปอ่านอย่างเป็นทางการ และได้ตอบอย่างเอาการเอางานไปแล้วนะคะ : ) ว่าแล้วก็นึกชอบใจประโยคเด็ดของคุณหมอเล็กซะอีกที "เขียนตามใจฉัน" นี่แหละค่ะ เป็น"ที่สุด" ของการเขียนอย่างเป็นธรรมชาติ การเขียนได้อย่างใจคิดนั้นเป็นพฤติกรรมการเขียนที่เป็นธรรมชาติที่สุดแล้ว
ขอบพระคุณสำหรับการต่อยอดที่ให้ข้อคิดที่มีคุณค่านะคะคุณหมอเล็ก พี่แอมป์ขออนุญาตนำไปภูมิใจเสนอที่หน่วยงานด้วย คาดว่าจากที่เคยเสียเวลากันเป็นวันๆ คราวนี้คงเข้าใจกันโดยรวดเร็ว และมีเวลาเหลือให้ไป"เกะ" กันอีกต่างหากด้วยค่ะ
ขอบพระคุณคุณหมอเล็กมากๆอีกทีนะคะ : )