ช่วงนี้ที่มหาวิทยาลัยดอกคูน กำลังเบ่งบานชูช่อเหลืองอร่ามตระการตาอย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเส้นทางระหว่างที่พักที่ผมพักอาศัยไปสู่ที่ทำงานนั้นถือได้ว่าเส้นทางดังกล่าวถูกประดับประดาด้วยช่อดอกคูนที่สวยสะพรั่ง …. มองเห็นสีเหลืองประดับถนนเป็นทางยาวอย่างมีชีวิต
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ปีนี้เป็นปีที่ดอกคูนชูช่อบานอย่างมากมายและสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ผมสังเกตมา</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ดอกคูนเป็นดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยมหาสารคาม…และเป็นดอกไม้ที่ถือได้ว่ามีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตคนอีสานอยู่ไม่น้อย </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ขอนแก่นเองก็เถอะยังได้รับการกล่าวขานในทำนอง “เมืองดอกคูน หมอแคน” มีวาทกรรมเชิงวัฒนธรรมที่คุ้นหูและคุ้นชินลูกอีสานอยู่บ้างว่า “เสียงแคน ดอกคูน”</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่สำหรับผมแล้ว..ทุกคราวครั้งที่ดอกคูนชูช่อเบ่งบานเป็นมาลัยแต่งคล้องกิ่งก้านและลำต้นของตนเอง … ผมก็ยิ่งคิดถึงบ้านขึ่นเท่าตัว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p>(ภาพนี้ยืมมาถาวรจากบันทึกของน้องนุ้ยนะครับ) </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ดอกคูนเป็นสัญญาณและสัญลักษณ์ความทรงจำที่เป็นปัจจุบันของผมที่มีต่อ “บ้านเกิด” อย่างสนิทแน่น โดยเฉพาะการหวนคำนึงถึงประเพณี “บุญเดือนสี่” (ผะเหวด) และการบอกเตือนให้รู้ว่าอีกไม่นาน “สงกรานต์” ก็จะมาเยือนเราในเร็ววัน รวมถึงการบอกกล่าวต่อชาวบ้านว่า “อีกไม่นานแล้วนะ ลูก ๆ หลาน ๆ ที่ห่างบ้านไปทำงานในเมืองใหญ่จะกลับมาเยือนบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง”</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมยังคงมีความสุขเสมอที่ได้หวนรำลึกภาพชีวิตในวัยเยาว์ที่ร่วมขบวนแห่ “อุปคุป” ในบุญเดือนสี่จากหนองน้ำท้ายหมู่บ้านเข้าสู่หมู่บ้านและตรงเข้าไปยังศาลาการเปรียญของวัด</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">พ่อมักให้ผมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินร่วมในขบวนแห่อุปคุปที่สนุกสนานและมีชีวิตเสมอ .. เย็นวันนั้นพ่ออนุญาตให้ต้อนวัวเข้าคอกเร็วกว่าทุกวัน เพื่อให้สามารถมีเวลาอาบน้ำอาบท่าและเข้าร่วมขบวนแห่อุปคุปเข้าเมืองได้ทันตามฮีตคองของชาวบ้าน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ในขบวนแห่อุปคุป, พ่อจะพาผมใช้มือแตะ ผ้าผะเหวด อันแสนยาว…และผมก็ชอบที่จะซึมซับเรื่องราวของพระเวสสันดรอย่างตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะในกัณฑ์ชูชกต้องถือว่าเป็นเรื่องราวที่ผมสนอกสนใจเป็นที่สุด ภาพของชูชกปีนต้นไม้หนีสุนัขของพราน ภาพกัณหาชาลีซ่อนตัวในสระบัว…ภาพนางมัทรีถูกสัตว์ป่าขวางทางไม่ให้กลับกระท่อม ภาพพระเวสสันดรและนางมัทรีทรงช้างกลับสู่ตัวเมือง….ฯลฯ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น ความทรงจำที่เป็นปัจจุบัน และแจ่มชัดอยู่ในมโนทัศน์ของผมอย่างไม่รู้จบ ไม่รู้เลือน !</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">นอกจากนี้ ในห้วงขณะที่ขบวนอุปคุปผ่านหน้าบ้านของใคร ก็จะพบถังน้ำดื่มอันชุ่มใจตั้งวางไว้ให้บริการต่อผู้คนในขวนแห่ บ้างมีถังน้ำที่โรยด้วย กลีบดอกคูนเหลืองสด ไว้ให้ชาวบ้านได้สรงน้ำเล่นสงกรานต์ไปในตัว (บ้านเกิดผมมักจัดบุญผะเหวดในเทศกาลสงกรานต์) และขบวนอุปคุปก็จะถูกขับคึกด้วยเสียงขบวนกลองยาวของชาวบ้าน พี่น้องบางกลุ่มรำฟ้อนอย่างสนุกสนาน บ้างเดินโซนเซด้วยฤทธิ์เหล้า….แต่ผมก็ไม่เคยเห็นใครวิวาทกันในขบวนแห่เลยแม้แต่ครั้งเดียว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมจำได้ดี- แม่เคยเล่าให้ฟังว่า “เราสามารถทำนายปากท้องของครอบครัวได้จากการจับกัณฑ์เทศน์” หากปีใดที่จับได้กัณฑ์เทศน์ชูชก ปีนั้นครอบครัวก็มีอันจะลำบากยากแค้น .. และถึงแม้ผมจะชอบเรื่องราวของชูชกมากแค่ไหน ก็ไม่พึงปรารถนาให้พ่อหรือแม่จับได้กัณฑ์เทศน์นี้เลย (นั่นคือความนึกคิดของผมในวัยเด็ก)</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">นอกจากนี้ แม่ยังบอกว่า “การให้ทานที่ยิ่งใหญ่ ต้องให้ทานแบบพระเวสสันดร” </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมชอบเดินดูหออุปคุปในบริเวณวัด บูชาคาถาพัน (1,000 คาถา) ด้วยข้าวพันก้อน (แห่ข้าวพันก้อน) ชอบดูธงทิวประดับอีก 1,000 ผืน ชอบที่จะตื่นขึ้นมาก่อนรุ่งเช้าเพื่อฟังเทศน์มาไลหมื่นมาไลแสน จวบจนสาย ๆ หรือทั้งวันก็ชอบที่จะชื่นชมการแก่ “ต้นเงิน” ของชาวคุ้มต่าง ๆ ไปถวายวัด รวมถึงการนั่งฟังเทศน์มหาชาติอีก 13 กัณฑ์</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แม่บอกว่า “หากสามารถฟังเทศน์ได้ครบ 13 กัณฑ์ ตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า” กระนั้น ผมก็ยังทำไม่ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ไม่แต่เพียงเท่านี้หรอก…ดอกคูนที่บานเบ่งยังสะกิดเตือนให้ผมได้รับรู้ว่าสงกรานต์ หรือ เทศกาลน้ำ กำลังมาถึงในเร็ววันนี้ มาถึงพร้อม ๆ กับคนหนุ่มสาว - พ่อแม่พี่น้องที่จากบ้านไปทำงานในที่อันไกลโพ้นก็จะกลับบ้านในเทศกาลนี้ นั่นย่อมหมายถึงว่า หมู่บ้านของเราจะกลับมาคึกคักและมีชีวิตมีชวาอย่างเหมือนที่เคยเป็น</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> บางครั้งและบางปีมีขบวนผ้าป่ามาจากรุงเทพฯ บางปีมีการสู่ขอหญิงสาวจากหนุ่มต่างถิ่น หรือบางคนก็พาคนรักที่คบหาดูใจมากราบพ่อแม่ … และช่วงนี้ผมเห็นเด็ก ๆ ได้มีโอกาสใส่เสื้อผ้าตัวใหม่ที่เต็มไปด้วยสีสันอันสดใส (ครั้งหนึ่งผมก็เคยได้รับโอกาสเช่นนั้นเหมือนกัน) </p><p> </p><p>ดอกคูนที่เบ่งบานร้อยเรียงเป็นช่อประดับต้นและท้องถนนในมหาวิทยาลัยอย่างอร่ามตา ยิ่งตอกย้ำให้ผมได้หวนคิดคำนึงถึงบ้านเกิด และเรื่องราวแต่ก่อนเก่าของตนเองอย่างมีความสุข … </p><p></p><p>ทุก ๆ เช้าผมขับรถอย่างช้า ๆ ทอดสายตาและปล่อยให้หัวใจอันบอบบางและขี้แยได้มีอิสระที่จะกระโดดออกไปจากรถเพื่อท่องแวะกับพวงพุ่มของดอกคูนอันเหลืองสดอย่างไม่รู้เบื่อ … ไม่รู้หน่าย </p><p>……</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ปีนี้หมู่บ้านจัด บุญผะเหวด เร็วกว่าทุกปีและเพิ่งแล้วเสร็จไปเมื่อไม่ถึงสัปดาห์… </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">บัดนี้ ดอกคูนบานเต็มที่และเต็มต้นแล้ว และพร้อมที่จะโรยร่วงลงทุกเมื่อ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">และดอกคูนที่บานชูช่อเหลืองงามอยู่นี้ ก็มีพลังพอที่จะชวนให้ผมได้คิดถึงสงกรานต์ที่บ้านเกิดของตนเองอีกครั้ง !</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>
ที่บ้านผม....
ปีใหม่เมือง ก่อมาถึงแล้ว ปี๋ใหม่แก้วก่อมาฮอดมาเติง ครับ
นอกจากดอกคูนจะบานเหลืองอร่ามแล้ว ป่าทั้งป่าก็กึก้องด้วยจั๊กจั่นขี้เหงา ร้องระงมทั่วราวป่า ดอกกล้วยไม้ "เอื้องเงิน" ก็ผลิดอก ส่งกลิ่นกำจาย
กึ้ดเติงหาบ้านครับ
มาเยี่ยม...
เห็นดอกคูนแล้วได้ยินเสียงแคนในจินตนาการครับ...
เดือนสามคล้อยเจ้าหัวคอยปั้นข้าวจี๋...
เดือนสี่คล้อยจัวน้อยเส็ดน้ำตา...ฮา ๆ เอิก ๆ
แถวนี้ดอกคูน ดอกนนทรี ก็บานกันใหญ่เหมือนกันครับ
ที่บ้านผมก็มีต้นคูน แต่ว่าจากการย้ายถิ่นกันขนานใหญ่ สงกรานต์ปีนี้ ไม่รู้ว่าผมจะอยู่ที่ไหนดี
งานบุญสงกรานต์ทางถิ่นอีสานม่วนอีหลีจริง ๆ ครับ ผมเคยไปอยู่ยโสธร กับหนองคายหลายปี เมื่อเทศกาลนี้ก็นึกถึงสัญญานแห่งดอกคูณบานเช่นกันว่าใกล้ถึงสงกรานต์แล้วไช่ไหม ขอให้อาจารย์แผ่นดินสนุกกับสงกรานต์ครับ
ขอบคุณที่บันทึกเรื่องราวดีๆให้อ่านครับ
สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน
สวัสดีครับ อ.ขจิต
บ้านมีมนต์ขลังต่อคนไกลบ้านเสมอ...และอบอุ่นยิ่งกว่าที่ใดในโลกที่หัวใจอันเปราะบางของเราจะพึ่งพิงและหลับฝันได้
บ้านและคนที่บ้านไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพราะ...รอแบ่งปันความรักและความอบอุ่นให้กับเราเสมอ ...
ขอบคุณมากครับ
ฟังดูผมคล้อยตามไปกับถ้อยคำที่อาจารย์นำมาฝากเหลือเกินครับ (เดือนสามคล้อยเจ้าหัวคอยปั้นข้าวจี๋...เดือนสี่คล้อยจัวน้อยเส็ดน้ำตา)...
เดือนสามบุญข้าวจี่ เดือนสี่บุญผะเหวด เดือนห้าบุญสรงน้ำ จังได๋กะอย่าลืมสงกรานต์บ้านเฮาเด้อ....พี่น้องเอ้ย
ฮา ๆ เอิก ๆ ...ขอบคุณครับ
คุณวีร์ ครับ...
ผมเห็นว่าในวิถีที่คนไทยผู้ไกลถิ่นจะคืนบ้านก็ดูเหมือนจะเป็นเทศกาลสงกรานต์ และปีใหม่นี่กระมังครับ ส่วนที่เหลือก็เป็นเข้าพรรษาบ้างประปราย
แต่ผมว่าสงกรานต์นี่แหละครับ...เป็นวันแห่งการพบญาติที่อบอุ่นที่สุด
รักาษสุขภาพ, ผมเป็นกำลังใจให้ครับ
คุณโก๊ะ ครับ...
ว่าง ๆ นำภาพดอกคูนที่ถ่ายเก็บไว้มาให้ชมบ้างนะครับ...ส่วนตัวผมเห็นดอกคูนเมื่อไหร่ก็หวนคิดถึงบ้านเสมอ แต่การคิดถึงบ้านก็หาใช่จะหม่นเศร้าเสมอไป
ให้ความเหงาได้อยู่กับเราบ้าง เพราะบางครั้งความเหงาก็เป็นเพื่อนที่ดีของชีวิตได้เหมือนกัน...
ผมเป็นเพื่อนคุณโก๊ะ...อีกคนเหมือนกันนะครับ
สวัสดีครับ อ.ลูกหว้า
ปีนี้, สงสัยจะได้เล่นสงกรานต์ต่างบ้านต่างถิ่นอีกเสียแล้วล่ะครับ เพราะมีภาระการนิเทศก์นิสิตในพื้นที่โครงการเรียนรู้คุณธรรม นำชีวิตพอเพียง
อีสานบ้านเฮา คึกครื้นและคึกคักในวันสงกรานต์เสมอ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณที่แวะมาเติมให้บันทึกนี้มี "ภาพชีวิต" ที่สมบูรณ์ขึ้นอีก โดยเฉพาะประเด็นสมุด ดินสอ ยางลบ...ซึ่งผมได้รับเสมอ เพราะผมเป็นเด็กวัด....นั่นกระมังคือความทรงจำที่ดีอีกอย่างของผมที่มีต่อบุญเดือนสี่
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ
สวัสดีครับ อ.ติ๋ว
ผมแวะไปดูบันทึกอาจารย์ที่มีดอกคูนมาฝากก่อนเข้ามาอ่านบันทึกตัวเองในบันทึกนี้เลยด้วยซ้ำไป
ขอบพระคุณมากครับ...ผมได้ใช้เวลาในวันหยุดอย่างคุ้มค่าและมีความหมาย หลังจากหล่นหายไประยะสั้น ๆ มาแล้ว...
.....
วันเวลาของอาจารย์ก็มีความสุขไม่น้อยนะครับ (ลูกว่า)...
ไม่มีภาพดอกคูนแสดงในบันทึกเลยค่ะอาจารย์
นำภาพปีนี้ มาฝากค่ะ
ภาพเรื่องราวของพระเวสสันดร ทุกตอนที่อาจารย์จำมา
ตนเองจำติดตาติดใจเหมือนกันค่ะ(ดูหนังในวัดตอนเด็กๆ)
โดยเฉพาะตอนซ่อนตัวในสระบัว กับตอนถูกมัดแขน ลากจูงไป
จำได้ว่า ร้องไห้กับน้องสาวกระจองอแงกันหน้าจอหนัง
เดินกลับบ้านกันตอนเช้า ถูกล้อ ยังร้องไห้กันต่อ :)
เพราะแม่ ตัดชุดให้เราสองพี่น้อง สีเดียวกับกัณหาชาลีเลยค่ะ :)
ขอบคุณบันทึกย้อนรอยอดีตอันแสนสุขค่ะ
สุขสันต์ วันดอกคูนโรย แต่ดอกกัลปพฤกษ์ยังบานอยู่นะคะ