ถอดบทเรียนบัณฑิตอาสา ๓ : เรื่องเล่าเร้าพลัง เขียนก่อนหรือเล่าสด


ไม่ต้องเขียนมาก่อนก็ได้ แต่เราควรจัดให้มีช่วงเวลาสักครึ่งชั่วโมง เปิดโอกาสให้แต่ละคนทบทวนเรื่องและเขียนในกระดาษก่อน

วันนี้ผู้ประสานงาน บอ.มอ. น้องชะห์กับอานัติแวะมาคุยกับผม หลังจากส่งเนื้อหาที่ได้จากการถอดบทเรียนมาให้ผมเมื่ออาทิตย์ก่อน ผมขออนุญาตนำเนื้อหาดังกล่าวมาถ่ายทอดใน blog นี้ เพื่อจะได้เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในวงกว้างขึ้น น้องทั้งสองคนก็ยินดี ผมก็จะทำหน้าที่นำเรื่องมาถ่ายทอดในตอนต่อๆไปนี้นะครับ
<p>
</p><p>หลังจากแนะนำตัวกันเป็นการอุ่นเครื่องแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้..พุงปลา
ผมใช้กระบวนการ เรื่องเล่าเร้าพลัง เพื่อดึงประสบการณ์ที่ดีๆของแต่ละคนที่ประทับใจออกมา เป็นโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสความสุขจากการทำงานของกันและกัน ในขณะเดียวกันจะได้ฟังกลเม็ดเด็ดๆของเพื่อน เป็นแรงบันดาลใจ ลองนำไปใช้กับสถานการณ์ของตนเองด้วย

ความที่เราจะต้องสรุปบทเรียนเป็นรูปเล่มภายหลังเพื่อส่งต่อให้บอ.มอ.รุ่นถัดไป เราจึงต้องบันทึกรายละเอียดเรื่องเล่าของแต่ละคนไว้ และเพื่อจะได้มี ของตาย เก็บตุนเอาไว้แน่ๆ เผื่ออัดเทปไว้เสียหรือฟังไม่รู้เรื่อง   ตอนเตรียมงานผมจึงเสนอว่าน่าจะให้น้องแต่ละคน  เขียน เรื่องของตนเองมาก่อนล่วงหน้า จะได้มีเวลาทบทวนก่อน หรือบังเอิญขัดเขินเวลาพูดจะได้ควักสิ่งที่เขียนขึ้นมาอ่านให้เพื่อนฟังได้  แล้วเราก็จะได้ขอเก็บรวบรวมข้อเขียนทั้งหมดมารวมเล่มได้เลย

แต่ผมก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับการให้สมาชิกเขียนเรื่องมาก่อนว่า ถ้าให้เขียน การบ้าน มาก่อน บางคนไม่เข้าใจว่าต้องเขียนอย่างไร บางคนไม่ได้เล่าเรื่องที่เขียนมาหรอก  บางคนไม่ยอมเขียนแถมพาลไม่มาเข้าร่วมเสียเลย เพราะเกรงใจว่า พอไม่เขียนก็เลยไม่กล้ามา ผมจึงปรึกษากับน้องผู้ประสานงานว่าจะให้เขียนมาก่อนดีมั้ย หรือ มาเล่ากันสดๆดี</p><p></p><p>ในที่สุดน้องอานัติ..เจ้าพ่อเกมส์ (คนคุมเกมส์ในรูป) ก็เสนอทางออกที่ลงตัวว่า ไม่ต้องเขียนมาก่อนก็ได้ แต่เราควรจัดให้มีช่วงเวลาหลังจากผมอธิบายกติกาให้ฟังแล้วสักครึ่งชั่วโมง เปิดโอกาสให้แต่ละคนทบทวนเรื่องและเขียนในกระดาษก่อน แล้วค่อยแยกย้ายกันเข้ากลุ่มย่อย </p><p>เราตกลงตามนั้น จึงมีช่วงเวลาที่แต่ละคนไปนั่งนอนเขียนเรื่องของตนเองก่อน ตามภาพ</p><p> 
</p><p> </p><p><< ถอดบทเรียนบัณฑิตอาสา ๒: ทักทาย เรื่องเล่าวัยเด็ก   </p><p>                                           ถอดบทเรียนบัณฑิตอาสา ๔ : เรื่องเล่าเร้าพลัง กลุ่มย่อย >> </p>

หมายเลขบันทึก: 82915เขียนเมื่อ 9 มีนาคม 2007 22:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

แวะมาชวนคุณหมอไป ที่นี่ ค่ะ  เผื่อจะได้อะไรเกี่ยวกับ บวร : บ้าน วัด  โรงเรียน อ่ะค่ะ

อาจารย์ค่ะ....เห็นภาพอย่างนี้นึกถึงบรรยากาศถอดบทเรียนคราวนั้น ..ชะห์ว่าถ้าตอนนั้นให้การบ้านน้อง สงสัยมาอย่างหน้าตาเครียดอย่างแน่นอน...

ชะห์จะกระซิบอาจารย์ว่า "ช่วงที่น้อง ๆ เขียนความประทับใจนั้น บางคนเลือกไม่ถูกว่าจะเขียนเรื่องใด บางคนบ่นว่า มีเรื่องเยอะมาก แต่ทำไมอาจารย์ให้เขียนแค่นิดเดีย;เลยบอกน้องว่า...เดี๋ยวเราค่อยโม้ในวงพูดคุยวงย่อยก็ได้".......ตามแผนจริง ๆ ค่ะ ...วงย่อยพูดคุยกันหัวเราะแบบลืมตัวเลยค่ะ..

อาจารย์ครับ ที่ให้แยกย้ายกันไปเขียนนั้น เขียนเฉพาะโครงเรื่อง (out line) หรือเขียนเป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ ถ้าเขียนเป็นโครงเรื่อง (เพื่อเป็นแนวทางในการมาเล่า) ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงอาจพอ แต่หากเขียนเป็นเรื่องเป็นราวเลยจะพอหรือครับ จากประสบการณ์ที่ทำมาครึ่งชั่วโมงเขาเขียนอย่างไรครับ และผลที่ได้จากที่เขียนและที่เล่าเป็นอย่างไรบ้างครับ

ชะห์ครับ 

  • ใช่ครับ ถ้าให้เขียนมาก่อน เครียดแน่
  • จุ๊ จุ๊.. อย่าเอ็ดไปครับ เราให้น้องเขียนเพราะเราต้องมี ของตาย ตุนเอาไว้เผื่อตอนทำรายงานเท่านั้น ส่วนเรื่องเล่าที่อัดอั้นไว้ในอกเยอะแยะ ก็ไปเล่ากันสุดๆในกลุ่มได้อยู่แล้ว

อาจารย์สุรเชษฐครับ

  • ครึ่งชั่วโมงพอครับ เพราะเราให้เขียนเรื่องเล่าสั้นๆ ไม่เกินหนึ่งหน้ากระดาษ สำหรับเรื่องเล่าไม่เกินห้านาทีต่อคน เท่านั้นครับ
  • แต่ผมก็แอบเห็นน้องบอ.มอ. บางคนเขียนกันหลายแผ่นก็มีครับ น้องเขามีเรื่องอยากเล่ามากจริงๆ 

อาจารย์เขียนเล่าเรื่องได้น่าติดตามมากเลยคะ

ชะเองรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่มีตอนใหม่ๆออกมา  เพราะลุ้นว่าอาจารย์จะเขียนถึงพวกเราอย่างไรคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท