มหาวิทยาลัยที่ทำงานอยู่เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน การแต่งกายของนักศึกษาสมัยนี้ก็ทราบกันดีแล้วว่า ทั้งสั้น ทั้งบาง ทั้งรัดติ้ว โอ้ว คนโน้นเดินมาเห็นถึงลูกไม้ในเนื้อ (ขออ้างอิงจากบันทึกของครูอ้อยเมื่อเช้า http://gotoknow.org/blog/engteacher/82555 ) บวกด้วยรองเท้าสีสวยสด กำลังเป็นที่นิยม : )
ก็เห็นกันอย่างชินตามานานแล้ว แต่ที่นี่ก็ยังมีอีกคณะหนึ่งที่แต่งกายได้แตกต่างกับแบบที่กล่าวมาแล้วอย่างสิ้นเชิง ก็คือ นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์
ทุกครั้งที่เห็นจะพบว่า ทุกคนแต่งตัวเรียบร้อย ชายเสื้อไม่เคยหลุดจากกระโปรง ติดเข็ม คาดเข็มขัด ถูกต้องตามที่ควรจะเป็นทุกอย่าง
เรียกว่าสวยงามดูดี ตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า สวนกระแสกับการแต่งตัวของนักศึกษาคณะอื่น ๆ เสียนี่กระไร ต่างกันราวฟ้ากับเหว แถมกริยามารยาทก็เรียบร้อย เดินกันเป็นกลุ่ม เจอผู้ใหญ่ก็ไหว้ หลีกทางให้ ขณะที่นักศึกษาอื่น ๆ ส่วนมาก เดินสวนแทบจะชนใหล่ยังไม่หลีก
....แต่งกายดีช่างเป็นเกียรติเป็นศรีกับมหาวิทยาลัยจริง ๆ ....ขออนุญาตชื่นชมไว้ตรงนี้นะคะ
หมายเหตุ : ทราบว่าตอนนี้ทางกระทรวงวัฒนธรรมกำลังรณรงค์เรื่องการแต่งกายของนักศึกษาอยู่ ยังงัยก็ขอให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและสำเร็จด้วยเถิดค่ะ สาธุ
ผมเศร้าใจที่หลายๆคนที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย ไปทั้งๆที่รู้สึกผิด
รู้สึกแย่ ที่คนที่ยังเสพสังวาส กินเหล้า สูบบุหรี่ กินข้าวหลังเที่ยง ไม่จอดรถที่ทางม้าลาย ปล่อยสุนัขออกมาเดินไล่กัดคนนอกบ้านตัวเอง ฯลฯ พยายามบังคับให้คนอื่นๆ ทำโน่นทำนี้
กลัวสังคมที่การแต่งกายเป็นเรื่องใหญ่โตเหลือเกิน อ้างเรื่องชาตินิยม(ควบชาติพันธุ์แค่บางกลุ่ม) มาบังคับคนทั้งหมด ทั้งที่ดูภาพเก่าๆ แล้วก็คล้ายๆ จะขัดแย้งกัน
ชุดนักศึกษา แบบถูกระเบียบ มันก็ถูกแฟชันครอบงำอยู่แล้ว ต่างกันแต่เพียงว่าเป็นแฟชันของใคร
ถ้านักศึกษา อยากจะนุ่งโสร่ง นุ่งผ้าสิ้นไปเรียน เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของชุมชน ปู่ ย่า ตา ยาย เขาทำได้หรือเปล่า มหาลัยสนับสนุนให้ทำหรือเปล่า?
ผมกลัวทั้งนักศึกษา(ส่วนมาก) กลัวทั้งรัฐหนะ ....
กรอบบางอย่างมันไม่ได้ เป็นศัตรูแต่เฉพาะสาวนุ่งสั้น อย่างเสื้อแบบที่ผมและเป็นเครื่องแบบนักศึกษาทั่วๆไป สวมอยู่มันก็เป็นสัญลักษณ์ว่าถูกตะวันตกครอบงำอยู่ไม่ใช่หรือ? แต่ถ้าบังคับว่าไม่ให้ใส่เสื้อแบบไทย ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีนักเรียกบางคนพี่ปู่ ย่า ตา ยาย เขาใส่เสื้อจริงๆ ก็มี
ทั้งที่รู้ว่าจะมีสาวนุ่งสั้นแบบที่หลายคนรับไม่ได้ หรือใส่เสื้อรัดๆ แบบที่ผมดูแล้วก็ไม่ชอบ (แต่ผมเลือกที่จะไม่มองก็ได้) หลายครั้งผมก็จำต้องเลือกเสรีภาพเพราะว่ามันเป็นปราการสุดท้าย ที่ป้องกันไม่ให้ อัตลักษณ์ของผม ของบรรพบุรุษหรือคนอื่นๆ ถูกทำลายไปด้วย
จินตนา: กาลเทศะ ของใคร?
กาลเทศะแบบเอกนิยม มักจะเป็นกาลเทศะที่กลุ่มหนึ่งชอบใจ (มักจะเป็นกลุ่มที่มีอำนาจ หรือคนมาก) แต่อีกกลุ่มหนึ่งอึดอัดถูกบังคับ พยายามหนี พยายามหาทางออก พยายามแยกตัว หรือพยายามสู้
ถ้าหากว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เป็นเรื่องที่สร้างความเดือดร้อน อย่างการขโมยของ (อาจจะรวมถึงขโมยซอฟต์แวร์ด้วย?) ฯลฯ มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องสร้างกรอบที่กีดกันคนอีกกลุ่มออกไป เพียงเพราะสนองความต้องการทางสายตาของคนส่วนมาก?
คุณวีร์ บางทีตรงนี้อาจจะเป็นทัศนะส่วนตัว อย่างไรแล้วอย่างที่บอก มองต่างมุม สองคนยลตามช่อง ...ฉะนั้น ณ ที่นี้ปิ๊กขออนุญาตที่จะยินดี ชื่นชม กับสิ่งที่ปิ๊กได้เขียนไว้ข้างต้น
อย่างไรแล้วก็แล้วก็คงแล้วแต่ทัศนะคติ และมุมมองของแต่ละบุคคลก็แล้วกันนะคะ
คุณปิ๊ก: สบายครับ คุณปิ๊กไม่ได้ออกกฎหมายซะหน่อย ;-)
ผมก็ขออนุญาตมาสอดด้วย ว่าผมไม่เห็นด้วย กับการการรณรงค์ของรัฐตอนนี้ แล้วก็ไม่เห็นด้วยกับนักศึกษาบางกลุ่มที่ทำสิ่งที่ตนเองรู้สึกผิด
ผมเห็นด้วยกับ คุณจินตนา ครับ...
ควรแต่งกายให้เกียรติสถานศึกษาและที่สำคัญเป็นการให้เกียรติตัวเอง...
บังคับตัวเองให้อยู่ในกรอบเฉพาะชุดนักศึกษา แต่คุณสามารถอิสระได้ในชุด Private...
ขอบคุณครับ...
ภูมิใจ เมื่อได้ใส่ชุดนักศึกษา ติดเข็มของมหาวิทยาลัย ใส่เข็มขัดของมหาวิทยาลัย
ต้องบอกว่าแนวคิดเรื่องการแต่งตัวของวัยรุ่น สมัยนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนเยอะค่ะ ส่วนมากก็จะมีความมั่นใจในตัวเอง เลยทำให้แต่งตัวกันโดยไม่ได้คำนึงถึงภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมกันสักเท่าไหร่
แต่ก็ต้องบอกว่า นักศึกษาที่แต่งกายเหมาะสมก็ยังมีอยู่เยอะค่ะ
ทุกวันนี้เหมือนกับว่า นศ.ยัง
แยกแยะ
.ดีหรือไม่ดี
.เหมาะหรือไม่เหมาะ
.ความเป็นตัวตน(เฉพาะ) กับ เกียรติภูมิของตัวตน
กันไม่ได้
เวลาถามเค้า เค้าก็มีมุมมองที่ต่างออกไป
ผมเคยเขียนบันทึกเรื่องกรอบสังคม นั้นเค้าแต่งชุดที่ไม่ใช่ชุึดนศ. แต่ทุกวันนี้ชุด นศ.จะไม่เป็นชุด นศ. เพราะ
เค้ายัง .เรื่องการอวดความเป็นตัวตนเฉพาะเค้า(แต่ลอกเลียนแบบคนอื่น)
.การยัดเยียดเสื้อผ้าของร้านค้า ลองเดินดูแหล่งขายเสื้อผ้าใกล้มหา'ลัยซิครับ หาที่ถูกระเบียบไม่มีเลย ไอ้ที่ถูกระเบียบ อยู่ไกลแหล่งเรียนมากเลย น่าจะมีหน่วยงานอะไรไปกดดันเค้าด้วยนะครับ
กระตุ้นต่อมความเหมาะสมให้กับนศ.ได้บ้้างไม่ได้บ้าง ก็ลองไปกระตุ้นต่อมกับคนขายบ้าง ว่าลูกเค้าแต่งแบบนี้เค้าจะให้ใส่มั้ย ถ้ายังตอบว่าให้(จะได้ขายของ) คงต้องให้เปลี่ยนอาชีพแล้วมั้ง อิอิ
.
คงต้องช่วยกันทุึกคนละครับ ช่วยกันตอกและย้ำความเป็นตัวตน ของตน ว่าอะไรดี อะไรควร
ถ้ายังคิดไม่ได้ ช่วยบอกกันด้วยว่า
ให้ถ่ายรูปตอนแต่งชุดนศ. กันไว้ก่อนนะ
แล้วทุกๆ 5 ปี อวดให้คนอื่นมาดูกัน แล้วถามคนดูว่าเค้าคิดยังงัย แล้วถามนศ.ตอนนั้นเลยว่า
คิดว่าคนดูเค้าจะตอบกันยังงัย
.
ขอบคุณครับ กับการนำเสนอเรื่องดี(จากเรื่องไม่ดี อิอิ) อยู่เย็นเป็นสุขนะครับ
ฮิๆๆ ขำอาจารย์ขจิต
เมื่อ มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง เดินมาที่สำนักคงมาเพื่อติดต่อเกี่ยวกับการลงทะเบียน......ลักษณะการแต่งการเป็นอย่างนี้นะค่ะ....
มีขนมมาฝากค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์แป๋ว ขนมน่ากินจังเลย ขอฉกสตอเบอรี่ก่อนละ อ้ามมมม .... :)
ที่มหาวิทยาลัยที่ทำงานอยู่ก็มีแบบที่อาจารย์แป๋วเล่ามาอ่ะค่ะอาจารย์ มีเยอะด้วย ก็ให้เข้าใจ แล้วก็ทำใจ !!
บางคนจะมาติดต่องานทะเบียน ซึ่งติดป้ายหน้าห้องไว้ว่าต้องแต่งตัวเรียบร้อยก่อนเข้าไปติดต่อ
หนู ๆ ทั้งหลายก็จับเสื้อ ยัดๆ ใส่กระโปรงซะตรงนั้น พอเข้าไปติดต่อทะเบียนเสร็จ เดินพ้นประตูออกมา เธอก็ดึงชายเสื้อออกมาตามเดิม แล้วเดินหน้าตาเฉยออกไป
เช้า ๆ จะเจอบ่อยที่อาจารย์จะตรวจการแต่งกายก่อนเข้าประตูมหาวิทยาลัย หนู ๆๆ บางคน ก็ยืนเอาชายเสื้อยัด (ขอโทษนะคะ จับชายเสื้อยัดเข้าไปจริงๆ เพราะกระโปรงมันคับ ต้องพยายามยัดเยียดมันเข้าไปหน่ะค่ะ) พร้อมกับคาดเข็มขัด ตรงหน้าประตูนั่นแหล่ะค่ะ
พอพ้นเดินเข้าประตูมหาวิทยาลัยมา ชายเสื้อเธอก็หลุดตามเดิม ..... เฮ้อ ............
ส่วนคำถามของอาจารย์แป๋ว ขออนุญาตยกไปให้อาจารย์ขจิตตอบละกันนะคะ :D