วันหนึ่ง เราไปเยี่ยมเพื่อนที่ผ่าตัดเส้นเลือดในสมองแตก แต่ยังไม่รู้สึกตัว ในฐานะเพื่อนสนิท เราก็เลยอยู่รับแขกให้ด้วย เพราะเขามีคนรู้จัก และนับถือมาก หมอบอกว่า อาการดีขึ้น แต่พบกลุ่มเส้นเลือดขอดในสมอง แต่็้ไม่ได้ทำอะไร เรารู้สึกดีใจ แต่ไม่วางใจ จนกว่าเขาจะลืมตานั่นแหละ แขกกลับหมดแล้ว ทุกคนมาเยี่ยมและกลับไปพร้อมความสบายใจ เขาดีขึ้นแล้ว คงเหลือแต่เพื่อนสนิท 4-5 คน ที่เฝ้าดูจนมืดค่ำ่ทุกวัน วันนี้เราคุยกันอย่างโล่งใจ แต่แล้วประมาณ 1 ทุ่ม หมอก็เข็นคนไข้เข้าห้องผ่าตัดด่วน แจ้งแต่ว่าเลือดออกไม่หยุด และน่าจะช่วยได้ดีที่สุดก็คือกลับมาเป็นได้แค่เจ้าชายนิทรา
ความรู้สึกของเราขณะนั้น เหมือนถูกกระชากอย่างแรง จนทรงตัวไม่อยู่ เหมือนเอามือที่วางอยู่ในน้ำ้ำเย็นแล้วจุ่มลงในน้ำ้ร้อนทันที มันชาๆ แต่เจ็บร้อนลึกๆทีละน้อย หันไปมองเพื่อนๆบางคนก็โผเข้ากอดกัน ไม่มีใครพูด ไม่มีใครคุย แล้วก็แยกย้ายไปนั่งสะอื้นตามมุมต่างๆ เราเองก็รู้สึก ว่ายืนนิ่ง แล้วน้ำตาก็ค่อยๆรินไหล ใจคิดแต่ว่า ทำไมเป็นอย่างนี้ ขณะนั้น ได้ยินเสียงเพื่อนคนหนึ่งมากระซิบข้างๆว่า อย่าร้องไห สวดมนต์ซิ สวดมนต์ เราได้สติ รีบหามุมของตัวเอง แล้วก็เริมสวดมนต์ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น สลับไปมาไม่รู้กี่ร้อย กี่พันเที่ยว........
แล้วเมื่อเราเริ่มรู้สึก คลายเศร้า และหายหดหู่ จากนั้น เราก็เริ่มอธฺิษฐาน ด้วยบุญที่ข้าพเจ้าสวดมนต์นี้ ขอให้เพื่อนของข้าพเจ้า จงปลอดภัย และถ้าจะมีชีวิตอยู่ กขอให้ปกติดังเดิมไม่พิกลพิการ
วันนี้ เวลาได้ผ่านล่วงเลยไป 1 ปีเศษแล้ว เพื่อนของข้าพเจ้า ได้ทำงานในตำแหน่งผู้บริหารหน่วยงานได้ดังเดิม สติปัญญาสมบูรณ์ครบถ้วน แม้ว่าจะเริ่มหัดเดินก็ตาม.