ผ่านมาอีกครั้ง..กับน้องใหม่คนนี้...
เพิ่งผ่านเวทีนี้มาแค่..ข้ามคืน..กับความปรารถนาที่อยากมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับพี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ ทุกๆ คน
เขียนบันทึก..ก็เพราะอยากจะเขียน...(แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใคร..มากหรื่อน้อย..สนใจอ่านหรือไม่) ก็...ใจมันอยากจะทำครับ
วันนี้..เริ่มต้นงาน ด้วยความเหนื่อยล้า..เพราะเมื่อวานนี้ หัวฟูทั้งวัน เพราะตอนนี้ ที่ภูเก็ต แขกยังเยอะม๊าก มาก เลยครับ ก็เลยมีเครียดบ้าง หงุดหงิดบ้าง..ก็เป็นเรื่องธรรมดาใช่ไม๊ครับ? ก็พยายามตั้งสติ ให้ใจสงบครับ
อยากจะถามว่า...คุณคิดอย่างไรกับชีวิตของการทำงานแบบนี้ .และคุณเองเป็นคนทำงานแบบไหน?
ตามมาดูนะครับ
นาย ก.
เป็นคนแทบไม่ได้ทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เพราะเขาเอาแต่ไล่ล่าความฝ้นของเขา..เป็นเวลาหลายสิบปี โดยไม่มีวี่แววว่าจะเป็นจริงได้ เขากลัวว่าถ้าเขาไม่ได้งานที่เขาใฝ่ฝัน เขาจะจบลงด้วยการทำงานที่เขาเกลียดและจมปลักอยู่กับมันตลอดไป
นาย ข.
เป็นคนทำงานชนิดหัวปักหัวปำ เขาไม่สามารถพักผ่อนและชื่อชมความสำเร็จกับผลงานของเขาได้ เขาแทบไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ทั้งๆ ที่ลูกเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เขาไม่ได้ทำงานหนักอย่างนี้เพราะความจำเป็น แต่เป็นเพราะว่าเขากลัว เขากลัวว่าถ้าเขาหยุดทำงานลง เขาจะกลายเป็นคนไร้ค่าในสายตาของทุกคน รวมทั้งตัวเขาด้วย
ทั้งสองตัวอย่างข้างต้น เป็นตัวอย่างชนิดตกขอบ ที่แสดงให้เป็นว่า ผู้ชายเขาทำงานกันอย่างไร.....แต่ก็ล้วน มีสาเหตุมาจากความกลัวนั่นเอง
แล้วอะไรคือ..จุดสมดุลย์ ของงานที่ทำ..ละครับ
พิมพ์ไป ก็มองตัวเองไป..ว่า กำลังเป็นคนแบบไหน?
ผมเองก็..ยังสรุปให้กับตัวเองไม่ได้เลยครับ....
ต้องบอกว่าหนูเองก็ยังหาสมดุลย์ของการทำงานไม่ได้เช่นกันค่ะ
ช่วงนี้ก็เลยต้องค้นหาตัวเองไปก่อนค่ะ สักพักก็คงจะเจอ
ขอบคุณนะครับ...คุณมะปรางเปรี้ยว
ผมก็คงต้องค้นหา..ไป เรื่อยๆ นะ..คิดว่า คงอีกไม่นาน..เนอะ
ผมเพิ่งเริ่มเข้ามาศึกษา..ครับ
มีอะไรก็..แนะนำกันบ้างนะครับ
ขอแนะนำบันทึกนี้ค่ะ ลองศึกษาดูนะค่ะ