เรื่องเล่าอิสรชน : มาตรการที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของภาครัฐเกี่ยวกับคนไร้ที่พึ่ง ที่สนามหลวงและปริมณฑล


ถามไถ่จากคนในพื้นที่ คำตอบที่ได้น่าใจหาย เป็นนโยบายของอดีตวีรบุรุษนาแก อดีตนายตำรวจที่มีภาพของความเข้าอกเข้าใจประชาชนระดับรากหญ้าเป็นอย่างดี ?? มาวันนี้ อุดมคติ และทัศนคติ ของนายตำรวจท่านนี้ฤาจะเปลี่ยนไป จากความเข้าอกเข้าใจ เปลี่ยนมาเป็นการออกมาตรการข่มเหงกดขี่ คนด้อยโอกาส ดูแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่า จะเป็นไปได้

มาตรการที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของภาครัฐเกี่ยวกับคนไร้ที่พึ่ง ที่สนามหลวงและปริมณฑล     

 

     หลังจากว่างเว้นการลงพบปะเพื่อนพ้องน้องพี่ที่สนามหลวง คลองหลอดและปริมณฑล เนื่องมาจากสุขภาพไม่อำนวยมากว่า สองสัปดาห์ ค่ำคืนนี้วันที่ 25 กุมภาพันธ์ วันแรกของการลงเยี่ยมเยียน ที่ต้องพบกับภาพและการปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของภาครัฐที่กระทำต้อคนไร้ที่พึ่ง คนด้อยโอกาสในพื้นที่ดังกล่าว  

     ภาพของรั้วเหล็กจำนวนมาก ที่ นำมาวางกั้นริมคลองหลอดเพื่อไม่ให้ ผู้ค้าขายของเก่า ที่เป็นมนตร์เสน่ห์ของสถานที่ดังกล่าว เข้าใช้พื้นที่เพื่อทำมาหากิน และการกวาดล้างกวาดจับ คนขายบริการโดยเฉพาะที่เป็นผู้หญิงในบริเวณดังกล่าว ออกจากพื้นที่ โดยยังไม่มีมาตรการรองรับที่ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ??  

     ถามไถ่จากคนในพื้นที่ คำตอบที่ได้น่าใจหาย  เป็นนโยบายของอดีตวีรบุรุษนาแก อดีตนายตำรวจที่มีภาพของความเข้าอกเข้าใจประชาชนระดับรากหญ้าเป็นอย่างดี ?? มาวันนี้ อุดมคติ และทัศนคติ ของนายตำรวจท่านนี้ฤาจะเปลี่ยนไป จากความเข้าอกเข้าใจ เปลี่ยนมาเป็นการออกมาตรการข่มเหงกดขี่ คนด้อยโอกาส ดูแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่า จะเป็นไปได้  

     อิสรชน ไม่ได้ คัดค้านมาตรการดังกล่าว หากแต่ว่า การออกมาตรการนั้น ได้มีการเตรียมมาตรการอื่น ๆ รองรับที่เป็นรูปธรรมและตรงความต้องการ และถูกต้องตามสภาพปัญหาแล้วหรือไม่ ?ท หรือสักแต่ว่าทำให้เกิดภาพว่า เอาจริงเอาจังกับการกระทำที่ละเมิดกฏหมาย โดยยึดหลักนิติศาสตร์เพียงอย่างเดียว ไม่คำนึงถึง หลักรัฐศาสตร์ และหลัก จริยธรรม เข้ามาพิจารณา น่าแปลก ที่รัฐบาลที่ เข้ามาเพราะการเรียกร้อง จริยธรรม กำลัง ละเมิด จริยธรรมที่งดงามของสังคมเสียเอง จริยธรรมที่ เกื้อกูลและให้โอกาสคนในสังคม กลับโดนมองข้ามและละเลย คนด้อยโอกาส คนรากหญ้า ที่แร้นแค้นจากชนบท ถึงต้องดิ้นรนเข้ามาในเมืองหลวงเพื่อหาทางเอาชีวิตรอด กลับต้องโดนเสือกไสไล่ส่งให้กลับไปอดตาย ภายใต้ มุมมองและการตีตราจากคนที่อยู่เหนือกว่าทางเศรษฐกิจ?? 

      อิสรชน ลองมองย้อนกลับไป ยังคณะรัฐบาลที่ เพิ่งโดนขับไล่ ไป โดยข้ออ้างทางจริยธรรม ถึงการปฏิบัติต่อคนรากหญ้า คนด้อยโอกาส ยังดูดีเข้าท่า และเข้าถึงแก่นของปัญหาได้ดีกว่า รัฐบาลยุคนี้ด้วยซ้ำไป เมื่อเปรียบเทียบกันประเด็นต่อประเด็น วิธีการต่อวิธีการแล้ว จะพบว่า ทุกวันนี้ คนรากหญ้า โดนกดขี่ และกดหัวจากระบบราชการมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่รัฐบาลชุดที่ผ่านมา ปลดปล่อยพันธนาการ ประชาชน จาก การต้องก้มหัวให้ข้าราชการ และยอมข้าราชการทุกอย่าง มาเป็นประชาชนมีอำนาจต่อรองและ เรียกร้องได้มากขึ้น แตมาถึงวันนี้ทุกอย่งเหมือนโดนเอาคืน ประชาชนคนไหนเรียกร้องหรือ ต่อต้าน ก็จะ ยิ่งโดนกระทำ และกดหัวลงมากกว่าเดิม  

     ความไม่จริงใจ ความไม่เอาใจใส่ ภาคสังคม ของรัฐบาลชุดนี้ โดนตอกย้ำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จาก การจัดงานต่าง ๆ ที่ รัฐบาลเอง หรือคนรอบข้างรัฐบาลเอง เป็นเจ้าภาพ และต้องการใช้พื้นที่สาธารณะในการจัดงาน การกวาดล้างและกดขี่ด้วยวิธีการที่รุนแรงก็ยิ่งมีมากขึ้น และ ล่าสุด ออกมาตรการเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ผ่านทั้งทาง ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และ หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่จะจัดภูมิทัศน์ เกาะรัตนโกสินทร์ และ เขตในกรุงเทพมหานคร ที่จะให้ปลอดคนไร้บ้าน คนเร่ร่อน รวมไปถึงให้ปลอดชุมชนแออัด โดยเริ่มมีการออกสำรวจและเตรียมไล่รื้อให้สิ้นซาก ในสองสามระยะ คือ สามเดือน หกเดือน และ หนึ่งปี  

     โดยที่การกระทำดังกล่าว ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนออกมารองรับ เพียงแต่ ต้องการ กวาดทำความสะอาด ให้สะอาดเรียบร้อย แต่ ยังไม่รู้ว่า จะเอาไอ้ที่กวาดไปนั้นไปไว้ที่ไหน ไปทำอย่างไรต่อ ?? นี่หรือ คือความจริงใจของรัฐบาล ของคณะผู้บริหาร ที่หาญกล้าว่ามีจริยธรรมสูง แค่ จริยธรรมขั้นพื้นฐาน ยังสอบตก แล้วจะไปชี้หน้า ด่าใครเขาได้ไม่ทราบเกล้า   

หมายเลขบันทึก: 80603เขียนเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2007 23:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
วันนี้ผมก็เพิ่งเห็นภาพข่าวที่ตำรวจระดมกำลังกันกวาดล้างหรือขับไล่คนเร่รอนซึ่งผมก็ไม่ถนัดใช้คำเท่าไร...ซึ่งเห็นด้วยในประเด็นที่ว่า...การกระทำของรัฐอาจจะใช้หลักนิติศาสตร์เข้ามาจัดการ...แต่ยังไม่มีมาตรการเข้ามารองรับ...ว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไร...เหมือนกับกรณีที่ห้ามขายพวงมาลัยตามสี่แยกไฟแดง...ซึ่งมีแต่การห้าม แต่ไม่รู้ว่าแล้วจะให้พวกเขาไปทำอะไร...ผมคิดว่ากลุ่มคนด้อยโอกาสเหล่านี้...ด้อยโอกาสยังไม่พอนะครับ...เหมือนโดนกดขี่จนโอกาสที่ จะลืมตาอ้าปากในสังคมแทบไม่เหลือ...อย่างนโยบายที่เห็นอยู่ขณะนี้...เราในฐานะเพื่อนร่วมทางก็คงช่วยเป็นกำลังใจและเป็นปากเป็นเสียงช่วยพวกเขาอีกแรง...นี่คงเป็นอีกผลพวงหนึ่งที่การเมืองหรือกฎหมายไม่ได้รับใช้ประชาชน...ขอเป็นกำลังใจให้พี่อิสรชนครับ
     ความสะอาดพื้นที่ของคนเมืองที่พยายามขับไล่คนไร้ที่พึ่งออกไปจากสายตานั้น กลับเป็นความรกรุงรังในจิตใจและเป็นความตกต่ำทางศีลธรรมของสังคม แลถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะต้องหันมาให้ความสนใจและพร้อมกันแก้ไขเสียเนิ่น ๆ เพื่อมิให้เกิดสึนามิทางสังคมในบ้านเมืองเรา
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท