คุณเอื้อคนดีที่หนึ่ง


อยากที่จะบอกเล่าต่อด้วยความภาคภูมิใจ เพราะใคร ๆ ก็มักจะชมท่านผู้ว่าฯวิชม ทองสงค์ ว่าเป็นผู้ว่าฯ หนึ่งเดียวในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นท่านรัฐมนตรีไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม หรือนายแพทย์ประเวศ วะสี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราทีมเลขาโครงการฯ ซึ่งมีโอกาสได้ร่วมงานกับท่านเสมอ
ท่าน ดร. แสวง ถามว่าทำอย่างไรผู้ว่าจึง “ยอม” เรียนรู้ ความจริงก็ได้ตอบไปบ้างแล้ว ว่าสำหรับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ไม่มีสาเหตุอื่นใด นอกจากท่านมีหัวใจ และทุ่มเทเวลา ท่านมีหัวใจให้กับ KM และมุ่งมั่นจะนำพาโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนอย่างสมบูรณ์ และยั่งยืน โดยอาศัย KM เป็นเครื่องมือ เพื่อให้พี่น้องประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่เย็นเป็นสุข และอยู่รอดปลอดภัยเมื่อ ท่านมีใจ ท่านก็ให้เวลา ไม่เฉพาะเวทีนี้นะคะ ทุกเวที ทุกวงเรียนรู้ ที่ท่านมีโอกาส ท่านอยากไปให้กำลังใจ ท่านเป็นผู้ว่าฯ ที่เก่งมากๆ มีความจำเป็นเลิศ จับประเด็นเก่ง โดยเฉพาะเรื่อง KM ท่านจะศึกษาอย่างลึกซึ้ง ท่านจะอ่านตำราของอาจารย์ประพนธ์ เป็นสิบเที่ยว ท่านจะหาความรู้ใหม่ๆ มาถ่ายทอดเสมอ นี่คือตัวอย่างเล็กน้อยที่นำเสนอท่านนะคะ ถ้า ดร. แสวง รู้จักและได้ทำงานร่วมกับท่านแล้วจะรักท่านมากๆ เลยค่ะ นี่คือคำตอบที่ได้ตอบคำถามใน Blog แล้ว แต่ก็ยังอยากที่จะบอกเล่าต่อด้วยความภาคภูมิใจ เพราะใคร ๆ ก็มักจะชมท่านผู้ว่าฯวิชม ทองสงค์ ว่าเป็นผู้ว่าฯ หนึ่งเดียวในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นท่านรัฐมนตรีไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม หรือนายแพทย์ประเวศ วะสี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราทีมเลขาโครงการฯ ซึ่งมีโอกาสได้ร่วมงานกับท่านเสมอ เนื่องจากท่านเป็นผู้ว่าที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นผู้ริเริ่มในการนำเอาเรื่องการจัดการความรู้มาใช้ในชุมชนเต็มพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้ริเริ่มการบูรณาการภาคราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ผนึกกำลังเป็นภาคีเครือข่าย 8 หน่วยงานหลัก ร่วมกันพัฒนาชุมชน เพื่อให้กลายเป็นชุมชนอินทรีย์ ภายใต้ชื่อโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนอย่างสมบูรณ์ และยั่งยืน โดยอาศัย KM เป็นเครื่องมือ โดยมีศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเลขาโครงการฯ และเป็นผู้กำหนดวงเรียนรู้ต่างๆ มีทั้งวงเรียนรู้คุณเอื้อ ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการในระดับจังหวัด ทุกวันที่ 9 ของเดือน วงเรียนรู้คุณอำนวยอำเภอ ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ทุกวันที่ 15 ของเดือน และวงเรียนรู้คุณลิขิต มาจากการคัดเลือกตัวแทน อำเภอละ 2 คน ทุกวันที่ 12 ของเดือน และในทุกวงเรียนรู้จะมีการรายงานผล การปรึกษาหารือร่วมกันวางแผนหาแนวทางในการจัดครั้งต่อไป มีการเชื่อมต่อกันทุกวงเรียนรู้เป็นเกลียวคลื่นหมุนเวียนไปไม่มีที่สิ้นสุด ท่านผู้ว่าฯ จะเข้าร่วมทุกวงเรียนรู้ และท่านก็จะมีเทคนิคในการชักชวนเครือข่ายให้มาร่วม โดยการเชิญหัวหน้าส่วนราชการที่เป็นคุณเอื้อจังหวัดมาเป็นประธานในการประชุม ส่วนตัวท่านเองก็จะเข้าร่วมรับฟังด้วย ท่านจะให้เวลา ให้ความสำคัญกับงานจัดการความรู้เป็นอันดับหนึ่ง เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมามีการประชุมคุณเอื้อจังหวัด เป็นอีกวันหนึ่งที่ทำให้ประทับใจในตัวท่านมาก คือท่านมีภารกิจในการประชุมที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในเวลา 13.00 น. ระหว่างจังหวัดสุราษฎร์ธานีกับนครศรีธรรมราชจะต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ สองชั่วโมงกว่า เลขาฯ ท่านบอกว่าท่านจะอยู่ร่วมประชุมถึง 10.30 น. แต่ท่านก็อยู่จนถึง 11.30 น. นั่นแสดงว่าเวลาทานอาหารกลางวันของท่านก็แทบจะไม่มี เมื่อปีที่แล้วท่านได้เดินทางไปนิเทศ และให้กำลังใจทุกอำเภอ วันละ 2 อำเภอ เป็นที่ทราบกันดีว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดใหญ่ มีทั้งหมด 23 อำเภอ ระยะทางก็ยาวไกล ท่านไม่เคยขาด ไม่เคยบ่น มีแต่รอยยิ้มและการชื่นชม ท่านไม่เคยตำหนิ นอกจากท่านจะเดินทางเหนื่อยแล้ว ยังต้องบรรยายให้ความรู้อีก อำเภอละ ชั่วโมงครึ่ง พวกเราสงสารท่านมากๆ ขนาดพวกเราไม่ต้องบรรยายก็ยังเหนื่อยหมดแรงทุกวัน ในการบรรยายของท่านทุกครั้ง จะไม่เหมือนกัน ท่านจะหาความรู้ใหม่ๆ ไปเสริมให้เสมอ เพราะท่านเป็นนักอ่าน นอกจากเป็นนักอ่านแล้วยังเป็นนักบันทึก ซึ่งการบันทึกของท่านก็ทำแบบง่ายๆ ใช้กระดาษสมุดแผ่นเดียวพับเล็กๆ ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ พวกเราเคยคิดจะขอมารวบรวมเป็นเล่ม (แต่ไม่กล้า) แล้วท่านก็ยังเป็นนักบรรยายที่ฟังแล้วเข้าใจง่าย ชัดเจน พวกเราเคยคุยกันอ่านหนังสือหลายครั้งไม่เข้าใจ ฟังท่านผู้ว่าบรรยายหนึ่งครั้งเข้าใจดีกว่าอ่านเองสามครั้งเสียอีก และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น เมื่อครั้งเราไปร่วมงานมหกรรมการจัดการความรู้ ที่ สคส. จัดที่ไบเทค ท่านผู้ว่าได้ให้การบ้านแบ่งกันรับผิดชอบในการเข้ารับการอบรมตามห้องต่างๆ เพื่อมา ลปรร. กัน ปรากฎว่าเมื่อท่านฟังจบ ท่านสามารถจับประเด็นได้กระชับ ชัดเจน และนี่ก็คือท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายวิชม ทองสงค์ คุณเอื้อคนดีที่หนึ่งของพวกเรา
คำสำคัญ (Tags): #การจัดก
หมายเลขบันทึก: 80027เขียนเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2007 10:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ท่านผู้ว่าอายุเท่าไหร่ครับ มีโอกาสเป็นปลัดกระทรวงไหมครับ เราจะได้มีกระทรวงมหาดไทยที่พร้อมเรียนรู้ เราไปได้เร็วแน่ๆเลยครับ

เรื่องแบบนี้ต้องระวังนะครับ เช่นเดียวกับ ผู้ว่า CEO ทำให้ นายอำเภอฝ่อมากเลยครับ ที่ต้องระวังก็เพราะเรามักจะ ได้อย่างเสียอย่างอยู่ร่ำไปนะครับ

ข่าวดีที่ไม่ตามมาด้วยข่าวร้ายนี่หายากมากเลยครับ

อยากฟังการขยายความและตอนต่อๆไปของ KM ระดับจังหวัด ว่าจะจะเคลื่อนไปได้จริงจังสักกี่ส่วน กี่% ครับ

เรียกว่าข่าวดี แต่...........

ปีนี้อายุของท่านผูว่าฯ ก็ประมาณ 58 ปีค่ะ แต่ดูแล้วท่านคงไม่อยากเป็นอะไรขนาดนั้น ท่านมักจะพูดอยู่เสมอว่าท่านอยากให้ชุมชนเข้มแข็งและยั่งยืนอย่างแท้จริง เมื่อท่านเกษียณอายุราชการแล้วจะได้มีคนดำเนินการต่อไปได้อย่างไม่น่าห่วง ที่ท่านไปเรียนรู้ด้วยตนเองมาก็เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนอื่นได้เรียนรู้ตาม เมื่อท่านเห็นว่าดี ท่านก็เลยอยากให้คนที่ยังไม่เคยเรียนรู้ได้ไปเรียนรู้ อย่างน้อยเพื่อจัดการความรู้สึกให้ชอบ ให้รัก เพื่อจะได้มีใจให้กับ KM ท่านใช้วิธีค่อยๆ บูรณาการเพิ่มทีละส่วนราชการเข้ามาเรื่อยๆ เมื่อเรียนรู้ร่วมกันก็จะเกิดความสนิทสนมร่วมคิดร่วมทำ เกิดความรับผิดชอบร่วมกัน มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในการทำงาน ผลัดกันเป็นเจ้าภาพหลัก ซึ่งขณะนี้ทุกภาคส่วนสามารถทำงานร่วมกันได้ โดยไม่มีเรื่องของงบประมาณมาเป็นตัวตั้งแล้วนะคะ

สวัสดีค่ะ....

P
ติดตามอ่านสาระน่ารู้ของพี่อยู่น่ะค่ะเพราะทุกบันทึกของพี่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์และเป็นแบบอย่างได้  หายเงียบไปหลายวันน่ะค่ะได้ข่าวว่าพ่อไม่สบายตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างค่ะขออวยพรให้ท่านสุขภาพแข็งแรงน่ะค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท