ล่าสุดผมโดน tag เป็นยกที่ 2 จากคุณ toon และอาจารย์ อัมพร อรุณศรี ยอมรับครับว่าดีอกดีใจยกใหญ่ เพราะไม่คาดคิดว่าจะมียกที่ 2 สำหรับลูกอีสานแปลกแยกอย่างผม ...
งั้นว่ากันเลยนะครับว่าความลับ (ที่จะต้องไม่ลับ) ของผมยังมีอะไรบ้างหลงเหลืออยู่บ้าง ....
1. เป็นลูกข้าวเหนียวนึ่งพันเปอร์เซนต์ : คนที่มักคุ้นกับผมจะรู้ดีว่า "ข้าวเหนียว" คือชีวิตและจิตใจ หรือแม้แต่เป็นลมหายใจของผมเลยทีเดียว วันใดไม่ได้กินข้าวเหนียวจะมีอาการ "ลงแดง" มือไม้สั่น เรี่ยวแรงหดหาย คิดอะไรไม่ออก เวลาไปราชการที่ไหนสักแห่ง เบื้องต้นผมมักจะนึ่งข้าวเหนียวห่อขึ้นรถไปกินตามทางเสมอ ๆ ที่สำคัญคือ เมื่อใดก็ตามที่ต้องทานข้าวสวย ผมจะเกิดอาการ "ท้องเสีย" วิ่งเข้าออกห้องสุขาอยู่ทั้งวัน
2. ชื่นชมศิลปะและอยากเป็นศิลปิน : ผมเป็นคนที่ชอบศิลปะทุกแขนง แต่เอาดีไม่ได้สักอย่าง วาดรูปไม่ได้เรื่อง (วาดวัว ก็เพี้ยนไปเป็นกวาง) ชอบดนตรีพื้นบ้านแต่ก็เล่นไม่เป็นสักชิ้น (เลยต้องไปจีบนางไหแทน) อยากเป็นนักเขียน (ก็เขียนไม่ได้ความ) และที่สำคัญคือ เคยติด "ร" วิชาเกี่ยวกับศิลปะมาแล้ว ทั้ง ๆ ที่ตลอดชีวิตการเรียนชั้นประถมถึงมัธยมปลายก็ไม่เคยติด "o" เลยแม้แต่วิชาเดียว และไม่อยากบอกว่าดูห้าวหาญเช่นนี้ อันที่จริง เป็นคน "บ่อน้ำตาตื้น" มาก ๆ
3. เป็นนักเรียนดีเด่นระดับเขตการศึกษา : ใครจะเชื่อว่าคนห้าวห้วนอย่างผมเคยเป็นนักเรียนดีเด่นระดับเขตการศึกษาและเข้ารับโล่จาก รมต.กระทรวงศึกษามาแล้ว (เมื่อครั้งเรียนประถม) แทบไม่น่าเชื่อว่าคนบุคลิกอย่างผมจะเรียบร้อย นุ่มนวล มีมารยาท และเรียนดีปานนั้น แต่เพราะความยากจนเสื้อนักเรียนที่ใส่ไปรับโล่ครั้งนั้นเป็นเสื้อที่เต็มไปด้วยร่องรอยคราบเลือดกำเดาที่ซักไม่ออก (ก็ผมไม่มีเสื้อที่ดีไปกว่านั้นแล้ว) แต่พอมาเรียนมหาวิทยาลัยกลับกลายเป็นผู้นำนักศึกษาอยู่บนเวทีปราศรัยปลุกระดมมวลชน ซะงั้นไป
4. อ่อนคณิตศาสตร์และจัดจ้านพุทธศาสนา : ผมเป็นคนที่เรียนคณิตศาสตร์อ่อนมาก (หัวขี้เลื่อย) หรือภาษาอีสานเรียกว่า "ปึก" เกรดคณิตศาสตร์ระดับมัธยมเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบคือ เกรด 1 ทั้งนั้น สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเคยสอบเก็บคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ได้ 2.5 (คะแนนเต็ม 40) เป็นการรันตีชั้นเยี่ยวว่า "ปึก" คณิตศาสตร์เป็นอย่างมาก ตรงกันข้ามกับวิชาพระพุทธศาสนา ไม่ว่าระดับใด ชั้นใด ผมสอบได้เต็มหรือเกือบเต็มทุกครั้ง จนครูสงสัยว่าผมทุจริตในการสอบหรือเปล่า ถึงขั้นเรียกไปสอบเค้นหาข้อเท็จจริงมาแล้ว (เศร้าใจมาก) ...อานิสงส์นั้นส่งผลให้เจ้าตัวเล็กทั้งสองชอบเล่นบทเป็นพระสงฆ์อยู่เสมอ ไปวัดเกือบทุกเช้า สวดมนต์ได้เหมือนพระ และที่บ้านเลยต้องซื้อบาตรเล็ก ๆ มาไว้ และหลวงปู่ก็ยกตาลปัตรมาไว้ให้เล่นกันที่บ้านเลยทีเดียว
5. เลขที่ 1 แต่ไม่ใช่คนที่สอบได้ที่ 1 และผมกินหนังสือแทนข้าว : ตอนเรียนมัธยมต้นผมเข้าเรียนในห้อง ม.1/1 และเลขที่ 1 เดิมโรงเรียนนี้คนที่สอบได้อันดับ 1 จะได้รับเกียรติให้เป็นนักเรียนเลขที่ 1 ของโรงเรียนในชั้นปีนั้น ๆ แต่บังเอิญปีนั้น ยังไงไม่รู้ มีการปรับระบบโดยไม่มีการสอบคัดเลือก ด้วยความที่ว่าผมไปสมัครเป็นคนแรก เลยโชคดีได้เลขที่ 1 ติดตัวมา แต่คนทั้งอำเภอก็เข้าใจว่าผมสอบได้ที่ 1 ทำเอาผมเหนื่อยกับการชี้แจงแถลงไขเป็นอย่างมาก สำคัญตลอด 3 ปีของการเรียนผมแทบไม่มีเงินค่าอาหารกลางวัน ตอนพักเที่ยงต้องหลบไปห้องสมุด อ่าน ๆ เขียน ๆ อะไรอยู่อย่างนั้นเสมอมา จนมีภูมิต้านทานสามารถอดข้าวได้หลายวันติดต่อกัน รวมถึงการมีหนังสือเป็นที่พักพิงชีวิตสืบมาจนถึงบัดนี้
นี่คือบางบทตอนของความลับ..ที่ห้วนแข็งระคนทุกข์โศกแบบรื่นรมย์เล็ก ๆ
ด้วยความเคารพในกติกาขอ tag ไปยังมือใหม่ชาว มมส เพื่อช่วยดันให้เป็นที่รู้จักมักคุ้นของชาวเรา อย่าง คนกิจกรรม (สุริยะ สอนสุระ) และ panatung (คุณอนงค์ ปะนะทัง) นะครับ
ชีวิตทรหดดีเนาะ
แต่คนเรา ถ้าจะดี อยู่ที่ใหน เกิดที่ใหนก็ดี
เหมือน เพชร จะคลุกฝุ่น เปื้อนโคลน ยังงัยก็ยังเป็นเพชร
ยินดีด้วยนะคะ กับความสำเร็จของชีวิต ณ วันนี้
อ. ขจิต
|