คุยกับคนรุ่นใหม่ หัวใจแช่มชื่น (2) : น้องๆ อยากเขียนบันทึกตามสไตล์ของตัวเอง


ต่อจากบันทึกเรื่อง คุยกับคนรุ่นใหม่ หัวใจแช่มชื่น   ตอนแรก    จบลงตรงที่  เมื่อถามว่าแล้ว...อยากจะเขียนต่อกันมั๊ยเอ่ย...น้องๆ ตอบว่า....อยากเขียน  แต่...

  • ไม่อยากเขียนเรื่องงาน   เพราะทำงานแต่ละวันก็เครียดพอแล้ว   แล้วยังจะต้องมาเขียนเรื่องเครียดๆ อีก...เฮ้อ   แค่คิดก็กลุ้มใจ
  • เขียนแบบที่พี่ๆ เขียนใน smartpath  น่ะ   เขียนไม่เป็น  ไม่ใช่แบบที่ถนัด  (สงสัยว่าสำนวนของพี่ๆ ไม่จ๊าบพอ..)
  • เขียนเรื่องงาน...ก็ไม่รู้จะเขียนอะไร   มีแต่เรื่องเดิมทุกวัน  ไม่มีอะไรพิเศษจนต้องมาเขียน
  • ขอเขียนเรื่องสบายๆ  เรื่องทั่วไป  เรื่องหนุกๆ  ได้ไหมคะ

และนี่เป็นคำตอบจากรุ่นพี่

  • อ.ปารมี  แย้งว่า   ใครว่าเขียนเรื่องงาน  แล้วจะต้องเขียนแบบเครียดๆ แบบเป็นวิชาการ    เขียนแบบสบายๆ สนุก ๆ ก็ได้   (อันนี้  nidnoi คิดในใจว่า   เขียนวิชาการให้อ่านสนุกน่ะทำยากนะคะท่าน)
  • อ.ปารมี  บอกว่า   ไม่ใช่เขียนว่า   การย้อม gram stain มีขั้นตอนดังนี้   ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ   แต่อาจจะเป็นว่า   ไปพบโดยบังเอิญว่าเพิ่มเวลาย้อมสีจากเดิม 3 นาทีเป็น 5 นาที  ปรากฏว่า  ติดสีชัดเจนขึ้น    อะไรประมาณนี้
  • พี่ไมโต  บอกว่า   เรื่องงานประจำที่ไม่พิเศษของเรา   อาจจะพิเศษและเป็นประโยชน์สำหรับคนอื่นก็ได้
  • พี่นิดหน่อย   บอกว่า  เขียนเรื่องที่อยากเขียนก่อนค่ะ   อย่างเช่น  น้องอร   ชอบภาษาอังกฤษ  ก็เขียนเรื่องการสนทนาปราศัยภาษาอังกฤษก็ได้
  • อ.ปารมีบอกว่า  ให้เขียนเป็นแบบเรื่องเล่า   อย่างเช่นไปเจอเหตุการณ์ที่ประทับใจ    ก็เก็บมาเล่า    เล่าไปเรื่อยๆ มันจะมีประเด็นที่น่าสนใจอยู่ในนั้น    ถ้าเกรงว่าจะจำไม่ได้ก็ให้จดบันทึกในสมุดไว้ก่อน

พูดถึงเรื่องจดบันทึก  มีน้องสองคนคือน้องอร  และน้องลิ  เขียนไดอารี่  เป็นประจำอยู่แล้ว    อ้อ...อย่างนี้แจ๋วเลย   นำเรื่องในไดอารี่นั้นแหละ  มาถ่ายทอดลงในบล็อก   และถ้าพิมพ์ไม่เก่ง  อ.ปารมีแนะนำว่าใช้แบบ scan จากบันทึกโดยตรงก็ได้นะ   เก๋ไปอีกแบบ   ส่วนพี่ไมโตบอกว่า    พี่ช่วยพิมพ์ให้ได้นะ (เต็มใจบริการครับผม)

และเมื่อน้องๆ อยากเขียนบันทึกในสไตล์ของตนเอง (แบบไม่เครียด)   อ.ปารมีเลยยกตัวอย่างบันทึกของคุณจตุพร  (เป็นคนที่ อาจารย์ เครซี่ ม๊ากๆ..มาก)  จากบันทึกนี้ค่ะ แค่คิดถึง...ก็ชื่นใจ    

อาจารย์ print บันทึกนั้น  มาให้น้องปาย  อ่านออกเสียงให้เพื่อนๆ ฟัง  ปรากฏว่าน้องปายอ่านได้น่าฟังมาก     มากพอที่จะ build อารมณ์ของเพื่อนๆ ได้   ทำให้หลายคนเห็นภาพว่าจะเขียนยังไงดี

ประเมินจากที่คุยกัน...คิดว่าน่าจะมี blogger หน้าใสๆ   มาเพิ่มความคึกคักใน smartpath อีกหลายคน   ดีใจจังเลย   เห็นแต่หน้าเดิมๆ มานานแล้วๆๆๆๆ   มีคนใหม่ๆ แนวคิดใหม่   smartpath ของเราคงสดใสขึ้นเป็นกอง

หมายเลขบันทึก: 77673เขียนเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2007 20:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
  • บันทึกนี้จะเป็นทางเลือกของอีกหลายคนในการเขียนบันทึกที่ง่ายและงาม...มีเนื้อหาไม่เคร่งเครียด
  • (นอกรอบ)  คุณเอกเป็นอีกคนที่ทำให้ผมมั่นใจที่จะเขียนบันทึกในแบบฉบับที่ตนเองถนัด เพราะ ณ วันที่อ่านบันทึกคุณเอกยังไม่จบเรื่อง...ผมก็เริ่มลงมือเขียน..และเขียนมาจนบัดนี้
  • ดีใจเสมอถ้ามีคนมาแลกเปลี่ยน  และถึงแม้ไม่มีคนแลกเปลี่ยนก็ยังสุขใจที่ได้เขียนบันทึก
  • ขอบคุณบันทึกนี้ด้วยน้ำใจใสจริง...ครับ

 

สวัสดีค่ะ  คุณแผ่นดิน (ประธานชมรมคนชอบกินหน่อไม้)

  • คุณเอกเป็นต้นแบบของคนที่เขียนบันทึกได้ดี  และถูกใจคนอ่านค่ะ   เป็นคนเขียนเรื่องเล่าได้แบบมีประเด็นน่าสนใจ   โดยที่ไม่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องอะไร    
  • วันนั้นยังบอกน้องๆ เลยว่า  คุณเอกเขียนหลายแบบ  ทั้งแบบที่มีสาระเข้มข้น  และแบบสบายๆ  สลับกันไป
  • ทั้งพี่ไมโตและดิฉันมีความเห็นว่า   เราน่าจะเขียนจากเรื่องอะไรก็ได้ที่อยากเขียนก่อน   แล้วต่อๆ ไป  จะเขียนเรื่องงานได้เอง

จากสมาชิกชมรมคนรักหน่อไม้

  •  สวัสดีครับ...
  • เป็นมติแล้วใช่มั๊ยครับ.ว่า...ผมคือประธานชมรมคนชอบกินหน่อไม้.. (แม่ผมคงดีใจมากเลย เพราะท่านชอบทำซุบหน่อไม้ให้ผมทานเป็นว่าเล่น)
  • แล้วคณะกรรมการบริหารชมรมที่เหลือทำไงต่อ หรือผมต้องส่งเทียบเชิญไปเอง..
  • ขอยืมถ้อยประโยคนี้ไปใช้กับ จนท. ต้นสังกัดหน่อยนะครับ เราน่าจะเขียนจากเรื่องอะไรก็ได้ที่อยากเขียนก่อน   แล้วต่อๆ ไป  จะเขียนเรื่องงานได้เอง
  • ขอบคุณครับ

 

ยินดีครับท่าน...ประธาน

อีกอย่างหนึ่งนะคะ   มองว่าน่าจะให้เค้ามีก๊วนของตัวเองใน gotoknow  จึงจะอยู่ได้นาน    กลุ่มวัยรุ่นเค้าคงอยากจะมีวัยเดียวกันเป็นเพื่อนที่สามารถแสดงความเห็น  หรือแซวกันได้อย่างสนิทใจ

ใน gotoknow  มีแต่ผู้ใหญ่ๆ   บางทีเด็กๆ เค้าก็เกรงนะคะ

ก็ชวนน้องมาผูกเป็นเรื่องเป็นราว เป็นนิยายก็ได้นี่คะ

  • อย่างเช่น สำนักฮีมาโต มีพระเอกคือเม็ดเลือดแดง เพราะว่าชาติกำเนิดถูกปกปิด จึงทำงานในห้องครัว มีหน้าที่ คอยส่งอาหารและโอสถวัฒนะ (ออกซิเจน)
  • มีมือกระบี่คุ้มกฏ (ออกแนวหนังจีนอีกแล้วเรา อิอิ) เรียกว่าหน่วยเม็ดเลือดขาว บางคนอำมหิตมาก เจอใครแงกายเข้ามาสอดแนมในสำนัก ก็จะฟัน ฆ่าไม่เลือก
  • พวกมือกระบี่คุ้มกฏเหล่านี้ ถูกฝึกมาจากสำนักไขกระดูก มีบางครั้ง.. สำนักถูกจู่โจมจาก พรรคมารเคโม ทำให้เหล่าปรมาจารย์เรี่ยวแรงถดถอย สั่งสอนศิษย์ผิดพลาด จึงส่งแต่มือกระบี่รุ่นเยาว์มาให้สำนักฮีมาโต มือกระบี่คุ้มกฏจึงไร้ประสิทธิภาพ
  • แล้วพระเอกของเรา เป็นเพื่อนกับ เพล็ตเลต ที่เป็นช่างปูนโบกซ่อม
  • บลาๆๆๆๆ.... การผจญภัยมากมายก็เกิดขึ้น

 

  • 55555 ขอโทษค่ะ k-jira เพี้ยนไปแล้ว  ^____^
ตอนแรกๆอาจจะเขียนไม่ค่อยออก...ลงมือเขียนเถอะครับ เขียนในสิ่งที่อยากเขียน เขียนตามที่ปราถนา..เขียนแบบไม่ต้องกังวลใจ ...เขียนๆ ไปเดี๋ยวก็ดีเอง แม้แต่ผมเองก็ยังหารูปแบบของตนเองไม่เจอ พยายามเขียนไปเรื่อยๆ ..เขียนเพื่อค้นหาตนเอง..นั่นแหละครับ..
เรื่องเกร็งในระดับคุณวุฒิและวัยวุฒินี่เป็นเรื่องที่ฝังลึกอยู่ในวัฒนธรรมไทยค่ะ ทำอย่างไรก็แยกไม่ออกค่ะ 

แต่มีวิธิีหนึ่งที่อาจจะแก้ไขได้บ้างค่ะ คือ ปกปิดตนเองในระดับหนึ่ง เช่น ใช้นามแฝง ไม่ใส่รูปถ่ายตนเอง เป็นต้น แต่ยังคงใช้บล็อกเพื่อบันทึกเรื่องงาน หรือสิ่งที่ตนถนัดค่ะ 

ผู้ดูแลระบบไม่ได้บังคับนะค่ะว่าต้องเปิดเผยตนเอง แม้อยากจะให้เปิดเผย เพราะอยากให้คนเหล่านี้ได้เป็น somebody และได้เชื่อมโยงแผนที่ผู้เชี่ยวชาญที่ถูกต้อง 

แต่ถ้าเขายังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรค่ะ ขอเพียงให้เขาได้มีตัวตนที่เขาอยากจะเป็นในโลกออนไลน์เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างสมัครใจก็เพียงพอแล้วค่ะ
โห...คุณ k-jira
  • แต่งเป็นเรื่องเป็นราวเลยหนา   (ต้องแอบไปบอกพี่เม่ย  เจ้าสำนักฮีมาโต   ให่แต่งเป็นกลอนออกมาบ้างซะแล้ว)
  • ตกลงว่าพระเอกเป็นเม็ดเลือดแดง   แล้วนางเอกเป็นใครน๊อ...เป็นแอนตีบอดี  ดีมั๊ยคะ   เป็นลูกของเม็ดเลือดขาว (มือกระบี่คุ้มกฏ)  ที่ชื่อว่า B- cell
อืม...จริงค่ะ  คุณภูคา
ขอเพียงแต่เริ่มต้นลงมือเขียน
แล้วจะพบทางไปเอง
อ. จัน คะ
  • เห็นด้วยค่ะว่าการใช้นามแฝง      เป็นทางเลือกที่ดี   เป็นการฝึกฝนการเขียน   และระหว่างนั้นจะได้ตัดสินใจได้ถูกว่า  จะไปทางไหน  เขียนอย่างไรดี
  • เรื่อง "เกรง"  ยังมีอยู่มากค่ะ   โดยเฉพาะถ้าเขียนเรื่องงาน   ต่อให้เขียนชนิดที่ว่าไม่กระทบใครแล้ว   สุดท้ายก็มีหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ดีค่ะ

กำลังภาวนาให้น้องๆมาลุยเล้ย....

ขอเป็นสมาชิกชมรมคนรัก(ซุป)หน่อไม้ด้วยได้ไหมคะ ท่านประธานและคุณเลขา คิดถึงจัง เพิ่งนึกได้ว่ากลับมาตั้งปีกว่าๆแล้ว ยังไม่ได้กินซุปหน่อไม้ให้สมอยากเลย วันก่อนมีเลี้ยงได้กินนิ้ดเดียว....อยากกิน...อยากกิน....น้ำลายสอ....หากินที่ไหนดีคะคุณ nidnoi

นิดหน่อยค่ะ เราเขียนเทคนิคและประสบการณ์ในการทำงานแม้ว่าจะมีคำที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานก็ไม่เป็นไรนี่ค่ะ  แต่การที่เขาไม่เขียน อาจจะเป็นที่นโยบายขององค์กร และ แรงจูงใจที่ยังไม่ชัดเจนสำหรับเขาก็เป็นไปได้มากทีเดียวนะค่ะ 

 

ก็พยายามลุ้นอยู่ค่ะพี่โอ๋   ว่า...นอกจากน้องศาน่าจะมีอีกซักคนสองคน   เป็น blogger มือใหม่ขึ้นมา
***
ส่วนซุบหน่อไม้  (ที่ไม่ใช่ bamboo soup)   หาได้ง่ายมากค่ะ   ตามร้านอาหารอีสานทั่วไป   ถ้าหาไม่เจอนะ   แวะมาถามชมรมกินส้มตำได้ค่ะ  (ชมรมนี้มีพี่ถ่าวเป็นประธานกิตติมศักดิ์ ค่ะ)
อ. jan คะ
  • เรื่องนโยบาย (แบบไม่เป็นทางการ) ของหน่วยงาน  มีส่วนค่ะ
  • เรื่องเทคนิควิธีการเขียน  ว่าเขียนเรื่องงานอย่างไรให้น่าอ่าน   และไม่เป็นผลเสียต่อใครอื่น  เป็นเรื่องยาก   คือเขียนยากกว่าบันทึกเรื่องทั่วไป    ใช้เวลานานค่ะกว่าจะคลอดได้แต่ละเรื่อง
  • แรงจูงใจ  ที่ชัดเจน   สร้างอย่างไร ??   ข้อนี้ยากสุดเลยค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท