บางเสี้ยว..แห่งลุ่มน้ำสาละวิน..มุมมองที่ถูกมองข้าม
กาสะลอง...เล่าเรื่อง
อ่อ ที กะต่อ ที อ่อ ก่อ กะต่อก่อ
…กินน้ำรักษาน้ำ อยู่ป่ารักษาป่า
เกอะตอ เส่ เลอะ ทีโพคี เกอะตอ หว่า เลอะ ทีโพคี
…เรารักษาไม้ที่ขุนน้ำ เรารักษาไผ่ที่ขุนน้ำ
เกอะตอ ฉ่าโพ อะหล่อมี เกอะตอ ก่อโพ อะหล่อมี …
ให้เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า ให้เป็นที่นอนของสัตว์ป่า
เส่กลอ เหน่ กลอ เหลอะ เตอะเก ปะ เหน่ บิเบโหม่ จ่อ เก …
ตัดไม้อย่าตัดหมด เหลือไว้ให้นกพญาไฟมาเกาะ”
อ่อ ที กะต่อ ที เหม่ เก อ่อ ก่อ กะต่อ ก่อ เหม่ เก …
ใช้ผืนน้ำให้รักษาไว้ ใช้ผืนดินให้รักษาไว้
แพะ คึ ขุ ซี เส่ เตอะ เก แพะ คึ ขุ ซี หว่า เตอะ เก …
ถางไร่อย่าฟันไม้ให้ตาย ฟันไร่อย่าถางไผ่ให้ตาย
เส่ หว่า เมะ ลอตุ ลอเช เปอะ บะ กอวี บะ กอเจ …
หากไม้และไผ่หมดไป เราจะอดน้ำอดข้าวตาย
เปอะ โอะ ฮี่ เลอ โหม่ แดลอ เปอะ โอะ ฮี่ เลอ ป่า แดลอ …
หมู่บ้านที่แม่เราเคยอาศัย หมู่บ้านที่พ่อเราเคยอาศัย
สะสวีส่า เลอ โหม่ สู่ ลอ มะแงส่า เลอ ป่า สู่ ลอ …
ส้มโอที่แม่ปลูกไว้ มะนาวที่พ่อปลูกไว้
เปอะอ่อกะต่อ อ่อกะต่อ กุ อ่อ ปกา เล ตื่อ เล ตอ …
เรากินไปเรารักษาไป เราจึงมีกินตลอดไป
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="center">คำกล่าวเพลงทาจากบทความ โรงเรียนแม่น้ำ กลางป่าสาละวิน
เพียรพร ดีเทศน์ เครือข่ายแม่น้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (searin)</p> แม่น้ำสาละวินเป็นแม่น้ำนานาชาติที่ยาว ที่สุดสายสุดท้ายในภูมิภาคอุษาคเนย์ ที่ยังคงไหลอย่างอิสระ สาละวินมีต้นกำเนิดจากการละลาย ของหิมะบริเวณที่ราบสูงธิเบต เหนือเทือกเขาหิมาลัย แม่น้ำสาละวินไหลลงสู่มลฑลยูนนาน ประเทศจีน ที่ซึ่งเรียกสายน้ำนี้ว่า นู่เจียง จากนั้นก็ไหลต่อเข้าสู่แผ่นดินเขต ประเทศพม่าผ่านรัฐฉาน รัฐคะยา ก่อนที่จะกลายเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดน ระหว่างไทยกับพม่าที่จังหวัด แม่ฮ่องสอน ตรงข้ามกับรัฐกะเหรี่ยง <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">หลังจากไหลกั้นพรมแดนไทยกับพม่า ๑๑๘ กิโลเมตร จึงไหลลงมาบรรจบกับแม่น้ำเมย ที่บ้านสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังจากนั้นแม่น้ำสาละวินจึงไหลวกกลับเข้าประเทศพม่า และไหลลงสู่มหาสมุทรอินเดียที่อ่าวเมาะตะมะ ที่รัฐมอญ รวมระยะทางทั้งหมด ๒,๘๐๐ กิโลเมตร นับเป็นแม่น้ำสายที่ยาวเป็นอันดับที่ ๒๖ ของโลก</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ลุ่มน้ำสาละวินเป็นบ้านของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ กว่า ๑๔ กลุ่มทั้งในจีน พม่า และไทย ปัจจุบันลุ่มน้ำแห่งนี้เป็นเป้าหมายของโครงการเขื่อนมากมาย ได้แก่เขื่อนชุด ๑๓ แห่งในเขตจีน เขื่อนท่าซางในรัฐฉาน และเขื่อนสาละวินบนพรมแดนไทย-พม่า </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> การเดินทางครั้งนี้แฝงไปด้วยความตื่นเต้น เพราะเป็นการมาเยือนและทำความรู้จักกับลุ่มน้ำสาละวินเป็น ครั้งแรกของชีวิตผู้เขียน หลังจากที่ได้ยินเพียงเสียงเล่าลือถึงลุ่มน้ำสาละวินนี้ผ่านสื่อสาธารณะต่างๆ มานาน หลายคนอาจรู้จักสาละวินเพียงเฉพาะเรื่องการสร้างเขื่อนบนผืนแผ่นดินที่มีผู้คน (ไทย) ไร้สัญชาติอยู่มากมาย แม่น้ำสาละวินในช่วงปลายฝน ดูเชี่ยวกราดแต่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ระยะทางจากท่าเรือบ้านแม่สามแลบประมาณ 50 นาที เรือด่วนของชาวบ้านแถบนั้นก็พาเรามาถึงชุมชนเล็กๆ ที่แฝงตัวอยู่ริมน้ำสาละวิน เป็นอีกหนึ่งที่มีชุมชนปกาเกอะญออาศัยอยู่ บ้านท่าตาฝั่ง…ชุมชนท่องเที่ยวเล็กๆริมน้ำสาละวิน <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ชุมชนปกาเกอะญอขนาดย่อมประมาณ 80 หลังคาเรือนอาศัยอยู่ริมน้ำสาละวินมานานแล้วตามคำบอกเล่าของพะตี (ลุง) ปรีชา ปัญญาคม ปราชญ์ชาวบ้านที่มีความรู้ ความสามารถในการทำผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากหวาย พะตี่ ปรีชา เล่าให้ฟังต่ออีกว่า บ้านท่าตาฝั่งสนใจเปิดหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวก็เพียงเพื่ออยากจะสื่อสารกับคนในเมือง ชนชั้นกลางทั้งหลายที่มักกล่าวหาว่าชาวเขาเป็นคนทำลายป่า แต่ในชีวิตพะตี่นั้นตลอดชีวิตเพียรสอนให้ลูกหลานรู้จักป่า ใช้ประโยชน์จากป่า ก็ต้องดูแลรักษาป่าด้วย ตามคำทาด้านบนที่ชาวปกาเกอะญอต่างพร่ำสอนลูกหลาน และบอกต่อกันมาเรื่อยๆ เพียงแต่ไม่ถูกสื่อหรือคนภายนอกไม่รู้เท่านั้น เมื่อถูกสังคมตีตราประทับว่าเป็นคนทำลายป่า ชาวบ้านจึงคิดว่าน่าจะมีทางใดที่จะสามารถสื่อสารความจริงที่อยู่ในซอกหลืบเล็กๆ นี้ ให้ส่งเสียงดังไปถึงคนปลายน้ำ คนในเมือง ที่แทบไม่เคยใช้ชีวิตอยู่กับป่าเลย เมื่อมีนักพัฒนาและองค์การบริหารส่วนตำบลเข้ามาส่งเสริม ชาวบ้านจึงสนใจใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับคนภายนอกให้ทำความรู้จักและทำความเข้าใจกับคนที่อยู่กับป่าให้มากขึ้น</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">จุดเริ่ม CBT (Community based Tourism)</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ในช่วงปี พ.ศ.2544 คุณภากร กังวานพงศ์ (นายกอบต.แม่ยวม) ได้เข้ามาส่งเสริมชาวบ้าน ชวนชาวบ้านคุยเรื่องการจัดการท่องเที่ยว ภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่ และพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชนให้มีความรู้และทักษะในเรื่องการจัดการท่องเที่ยว โดยเน้นการรักษาฐานทรัพยากร ฐานวัฒนธรรมที่มีอยู่ของชุมชนให้คงอยู่และเกิดการจัดการที่นำไปสู่ความยั่งยืน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">การเข้ามาเรียนรู้กระบวนการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนของบ้านท่าตาฝั่งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการวิจัยเรื่อง การสังเคราะห์องค์ความรู้การท่องเที่ยวโดยชุมชน จังหวัดแม่ฮ่องสอน สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานภาค และมีคุณจตุพร วิศิษฎ์โชติอังกูร นักวิชาการอิสระ เป็นหัวหน้าโครงการ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของทีมวิจัยที่จะศึกษา เรียนรู้และถอดประสบการณ์การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนในแบบฉบับที่เป็นของคนแม่ฮ่องสอน บ้านท่าตาฝั่งจึงเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายของชุมชน CBT ที่มีในจังหวัดแม่ฮ่องสอน หากแต่จะเป็นประสบการณ์ในด้านงานพัฒนาที่สนับสนุนโดยหน่วยงานภาครัฐ ทีมวิจัยเล็งเห็นความสำคัญของประสบการณ์ที่ชุมชนมีจึงได้เดินทางมาร่วมเรียนรู้ด้วย</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ติดตาม “เรื่องของสาละวิน” ต่อไป ในตอนที่สอง ครับ….</p>
สวัสดีค่ะคุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
คุณแผ่นดิน
ยิ่งได้ศึกษา และได้สัมผัสกับชีวิตของปราชญ์แห่งขุนเขา ปกาเกอญอแล้ว...เราจะพบกับความยิ่งใหญ่ หลายสิ่งในวิถีของคนภูเขาครับ
คุณครูอ้อย ครับ
ขอบคุณที่ครูอ้อยติดตามเรื่องราวคนเล็ก คนน้อย ที่ผมบันทึกผ่านบันทึกของผมมาโดยตลอด ผมพยายามเขียนเพื่อให้สนุกสนานและให้เพลิดเพลิน...ขอบคุณกำลังใจดีๆครับ
อาจารย์หมอ นพ. สมบูรณ์ เทียนทอง
บรรยากาศดีครับ ธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ หากหลงทางแถวนี้ ยากที่จะหาเจอ เพราะผมเดินทางไปที่หมู่บ้านใช้เวลานานมาก...ผ่านเรือจากบ้านแม่สามแลบ ไล่ขึ้นมาตามลำน้ำสาละวินที่กว้างใหญ่อีก ราว ๒ ชม.
แต่คุ้มค่ามากครับผม
วิถีของปกาเกอญอนั้น เป็นวิถีของปราชญ์บนภูเขา ดังนั้นการแสดงออกทางสื่อ ไม่ว่าจะเป็นเพลง หรือลำนำ จะเห็นความยิ่งใหญ่อยู่ข้างในนั้นครับ
ติดตามได้เรื่อยๆครับ
ขอบคุณนะครับที่ติดตามเสมอมา
อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง
น้องเพียรพร เป็นลูกสาวของ คุณเตือนใจ ดีเทศน์ สว.เชียงราย แม่ฌิงเก่งอีกท่านของ เชียงราย และเมืองไทยครับ
มีต่อเรื่อยๆนะครับ