เมื่อเอาคนปกติไปอยู่รวมกับคนเสียสติ
การกวาดจับคนไร้บ้าน คนเร่ร่อน ของภาครัฐมีเรื่องน่าตั้งข้อสังเกตและน่าสนใจที่จำเป็นต้องนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อนำเสนอทางออกที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน คนเร่ร่อนในอนาคต เพราะการกวาดจับคนไร้บ้าน คนเร่ร่อน ก็ยังคงต้องมีต่อไป
เมื่อเร็ว ๆ นี้ การกวาดจับคนไร้บ้าน คนเร่ร่อน ที่สนามหลวงเพื่อเคลียร์พื้นที่รองรับงานที่คู้สมรสคณะรัฐมนตรีจัดงานอะไรซักอย่างเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา ที่สามารถกวาดจับคนไร้บ้านคนเร่ร่อนจากสนามหลวงไป เป็นจำนวนไม่น้อย ซึ่งในจำนวนนั้น มีบางคนออกมาเล่าถึงเรื่องราวภายในสถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง อย่างน้อยสองแห่งให้ อิสรชนได้รับทราบเบื้องต้น และคนไร้บ้าน คนนั้น จะเขียนเรื่องราวโดยละอียดมาให้ได้เรียนรู้กันอีกครั้งนึง
สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง ที่อยู่ในความดูแลของรัฐที่หลายคนมองว่าเหมือนแดนสนธยา อะไรคือแดนสนธยา ??? ก็ในเมื่อคนที่อยู่ในความดูแลของรัฐ ภายในสถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งนั้น ส่วนให่ จะเป็นคนเสียสติ หรือมีสติไม่สมประกอบ ออกอาการไม่ต่างจากคนไข้ที่มีอาการทางจิตตามโรงพยาบาลเฉพาะทางในด้านนี้ บางคน เดินแก้ผ้าโทง ๆ บางคนน้ำลายไหลยืด บางคนขับถ่ายแบบไม่มีการควบคุม บางคน คุ้มคลั่งควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ???
และเมื่อกวาดจับเอาคนปกติที่เดินเร่ร่อน หรือ นอกหลับอยู่ตามที่สาธารณะต่าง ๆ เพื่อข้ออ้างว่า เพื่อความสงบเรียบร้อย แต่เอาคนปกติ ไปอยู่รวมกับคนที่มีอาการทางจิตดังกล่าว ?? การจัดสวัสดิการให้การสงเคราะห์ ก็จะดูแตกต่างไปจากคนปกติโดยทั่วไป มีการใช้อำนาจนิยมทั้งทางตรงและแอบแฝง มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งแบบที่เจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กันบ่อยครั้งและเป็นประจำในรายละเอียด จะได้นำเรื่องราวที่คัดออกมาจากประสบการณ์ของคนที่เข้าไปอยู่ในเหตุการจริงมาให้ได้อ่านแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในโอกาสต่อไป
รัฐเองควรจะต้องทบทวนวิธีการ กระบวนการเรียนรู้และการบริหารจัดการที่จะนำมาใช้กับการทำงานกับคนไร้บ้าน คนเร่ร่อน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะให้เกิดการพัฒนาและเป็นไปอย่างถูกต้องทั้งตามหลักการทางสังคมสงเคราะห์ หลักนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และ สิทธิมนุษยชน ไม่ใช่เอาคนปกติ ไปอยู่รวมกับคนเสียสติอย่างวที่ทำกันมาเช่นที่เป็นอยู่
ไม่มีความเห็น