เช่น What is the purpose of your visit, business or pleasure?
มาประเทศนี้เพื่ออะไรคะ มาเที่ยวหรือมาพักผ่อน
How long will you be staying in the U.S.?
จะอยู่นานเท่าไหร่
Can I see your return ticket please?
ขอดูตั๋วกลับหน่อยได้ไหมคะ
Do you know anyone in the U.S?
รู้จักใครในประเทศนี้ไหมคะ
-à การถามตอบคำถามเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ต้องตอบคำถามให้ถูกประเภท
* กรณีที่คำถาม ถามขึ้นต้นด้วย WH (What/ Where/ When/ Why /Who/ Which / Hoe
ให้ตอบเป็นข้อมูล
เช่น Where is the nearest public telephone?
Answer = Next to the information counter. (เราตอบสั้นๆ ได้)
* กรณีที่คำถามขึ้นต้นด้วย Helping Verbs (Do/Does/Did/ Is Am/ Are/Was/Were/ Have ____ever/ Would / Will/ Shall/ Should/ May / Might/ Can/ Could …
for example: Are you hungry?
Answer: No. I've had some sandwiches.
Yes. Let's find something to eat.
โอ้ยสารพัด จำตอนเรียนมัธยมได้หรือเปล่า คืนครูไปหมดแล้วล่ะสิ อิอิ
มาเอาคืนไปบ้างก็ดีนะคะนิสิตทั้งหลาย ครูหนักเหลือเกิน
Here are some more questions at the airport custom
A: Welcome to Canada. May I see your passport please?B: Sure. Here it is.A: Where are you coming from? คุณมาจากไหน
B: I'm coming from Seoul, Korea.A: What is the purpose of your visit?A: Have you ever been to Canada before?
เคยมาแคนาดามาก่อนหรือเปล่า
A: Do you have anything to declare?
มีสิ่งของต้องสำแดงมั้ย (ของที่น่าจะห้ามนำเข้าประเทศ)
อาจารย์อ้อมครับ ผมเคยได้ยินว่าส่วนใหญ่จะใช้กันว่า
where are you from? และ
I'm from ....
ไม่ทราบว่าต่างกันยังไงครับ
ค่ะ
Where are you from?
Where do you come from?
เป็นประโยคพื้นฐานใช้ในการพบปะกันทั่วไป
แต่ถ้าเกิดเขาถามอะไรที่แปลกออกไป เราก็ควรจะรู้ว่า เขาถามว่าเราว่า
"คุณมาจากประเทศไหน"
Where are you coming from?
เนื่องจากเรายังอยู่ในกระบวนการการเดินทาง
การเดินทางของเราจะเสร็จสิ้นก็ต่อเมื่อ
กองตรวจคนเข้าเมือง ประทับตรา
และปล่อยให้เราเดินออกประตูไปเหยียบแผ่นดินของเขาน่ะค่ะ
ดีจังที่ถาม
ถามมาอีกนะคะ