เวลาพูดคุยกันในกระบวนการทำงาน หรือนัดหมายกันก็แล้วแต่ เราชอบแบ่งเวลาเป็น
เมื่อวันก่อน วานนี้ วันนี้ เดี๋ยวนี้ สักครู่ และวันพรุ่งนี้
ผมต้องสอน "นักศึกษา" (ที่บางทีผมก็ไม่แน่ใจว่า ใช่/ไม่ใช่) และต้องนัดหมายเวลา และการส่งงาน
สิ่งหนึ่งที่ผมพบก็คือ ถ้านัดกันเป็นวันนั้น วันนี้ จะมีความชัดเจนว่าจะทำอะไรกันตอนไหน
แต่พอนัดวันพรุ่งนี้ทีไร ก็มักมีอุปสรรคเป็นเหตุให้ต้องเลื่อนไปเรื่อยๆ เพราะวันพรุ่งนี้ไม่เคยมาถึงสักที ไม่ว่าจะนัดหมายทำอะไรก็เป็นอันต้องพลาดทุกที สู้การนัดหมายเป็นวันที่ และเวลาไม่ได้
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การนัดวันที่ และเวลา จะได้ผลทุกครั้งนะครับ ก็มีบ้างที่พลาด แต่ก็น้อยกว่าครับ
ฉะนั้น ผมจึงพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการนัดหมาย และทำงานใน “วันพรุ่งนี้”ตอนนี้ ผมมาพิจารณาว่าทำไม “วันพรุ่งนี้” จึงใช้ไม่ได้ สำหรับผม ก็ดูจะมีสาเหตุนะครับว่า
1. คำพระท่านว่า “วันพรุ่งนี้” ไม่เคยมาถึง-อันนี้เถียงยากจริงๆ
2. และหรือ ผม และคนที่ผมทำผมทำงานด้วยมีภาระรับผิดชอบค่อนข้างมาก การจะจัด “วันพรุ่งนี้” ให้ว่างเป็นเรื่องยาก
การนัดหมายใดๆ ต้องให้โอกาสทุกคนจัดสับหลีกกิจกรรมอื่นๆ และทำให้ “วันนั้น” ว่างพอสำหรับกิจกรรมที่วางแผนจะทำกัน วันพรุ่งนี้มันกระชั้นจนใครคิดอะไร หรือเตรียมการอะไรได้พร้อมนั้น ยากเกินไป
การที่ผมไม่มี และเลิกใช้ “วันพรุ่งนี้” จึงคาดว่า อย่างน้อยจะเป็นข้อดีสำหรับผมเอง
แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นข้อดีสำหรับคนอื่น เพราะ “นักศึกษา” ของผม เพราะเขาก็ยังใช้ “วันพรุ่งนี้” ทำงานให้ผมอย่างเต็มที่อยู่ทุกครั้ง
ไม่ทราบว่า นักศึกษาที่เคารพ ทุกท่านจะใช้ “วันนี้” ในการทำงาน และเลิกใช้ “วันพรุ่งนี้” ได้หรือยังครับ
ผมไม่อยากรอ และผมก็ไม่รู้ว่าผมจะมีเวลารอถึง “วันพรุ่งนี้” หรือไม่
เพราะตั้งแต่เกิดมาจนถึงวินาทีนี้ ผมยังไม่เคยมี “วันพรุ่งนี้” เลยครับ
ถ้าไม่เชื่อ จะให้ไปสาบานที่วัดไหนก็ได้ทั้งนั้นครับ
สวัสดีตอนเช้าประมาณแปดโมงค่ะ...
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ...."วันนี้"..คือ ความจริงที่เรามี...
ยึดเรื่องการมี "วันนี้"....มานานแล้วค่ะ....เพราะนี่คือ สิ่งจริงแท้ที่จับต้องได้ เป็นจริงที่ไม่เป็นหลอกตนเอง
อยู่กับความจริงที่เป็นอยู่ในวันนี้ นั้นดีที่สุดสำหรับการเป็นอยู่ในโลกที่ยิ่งสับสนและวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ....เพื่อที่เราจะได้ไม่ไปวุ่นวายตามความสับสนนั้นของโลก
ขอบคุณสำหรับบันทึกเรื่องเล่านี้ค่ะ
(^______^)
กะปุ๋ม
เข้ากับบรรยากาศเรื่องของวันนี้คำกล่าวที่ว่า Today is the first day of the rest of your life, so why not do it now. น่าจะสอดคล้องกับที่อาจารย์ ดร.แสวง ต้องการทำวันนี้ให้ดีที่สุด ใช่ไหมครับ
หนูเป็นนักศึกษาค่ะ หนูมีความคิดเห็นว่า การไม่มีวันพรุ่งนี้ มีความหมายได้ว่า คือการทำวันนี้ให้ดีที่สุดใช่มั้ยค่ะ การทำงานในวันนี้ดีกว่าการพลัดวันประกันพรุ่ง เพราะว่าในวันพรุ่งนี้เราอาจจะไม่มีโอกาสทำงานหรือทำสิ่งอื่นได้และเราไม่สามารถรู้ถึงอนาคตได้ เพราะฉะนั้นบทความของอาจารย์ทำให้หนูคิดได้ว่าเมื่อมีงานหรือได้รับมอบหมายงานมาวันไหนควรจะทำในวันนั้นเลย
ขอบคุณครับ
บทความฉบับนี้ ผมพยายามสกิดคนที่ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง และชอบใช้คำว่า วันพรุ่งนี้เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ไม่เคยจริงจังกับคำพูดของตนเอง และทำให้ผมต้องรอ ว่า เมื่อไหร่วันพรุ่งนี้จะมาถึง ผมจะได้รับการติดต่อจากผู้ที่สัญญาผมไว้ว่าจะทำโน่นทำนี่
นี่คือสาระหลัก ครับ
และก็มีสาระรอง ในเชิงปรัชญาของการดำรงชีวิต ที่เราไม่ควรรอวันพรุ่งนี้ ทุกอย่างที่ทำได้ควรทำในวันนี้ และใช้วันนี้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เหมือนอย่างที่ ผอ.ดิศกุล กล่าวไว้นั่นล่ะครับ
อ่านแล้วนะคะอาจารย์ ก็เป็นจริงอย่างที่อาจารย์ว่าล่ะค่ะ