เปลี่ยนวันประชุมใหม่ จากกลางคืน เป็นช่วงเก้าโมงเช้า ย้ายวันมาให้ตรงกับบ้านยางคำที่จะเป็นตอนบ่าย ชาวดงหลวงก็สดใส สดชื่น รับลมหนาวยามเช้าของวันช่วงหลังปีใหม่
ดิฉันไปถึงก็เห็นกลุ่มพวกเขากำลังขะมักเขม้นจัดการการบันทึกเงินฝากเงินออมกันอยู่ สมาชิกก็เกือบพร้อมหน้าพร้อมตา
เริ่มประชุมวันนี้ พ่อบนทำหน้าที่เปิดประชุมพร้อมเสนอประเด็นสำคัญ
พ่อบน : ครับ วันนี้ พวกเราก็มาพร้อมเพรียงกัน ...อ้า...ผมก็มีเรื่อง....อ้า...แจ้ง..
พ่อยอด : ฮ่วย...อย่า “อ้า” หลาย มันเป็นหยังเดี๋ยวนี้ พูดไปเลยเป็นไร
พ่อบนหยุดพูด มองหน้าพ่อยอดนิ่ง ๆ ( ไม่รู้คิดอะไร ) ครู่หนึ่งจึงตอบ : ถ้าไม่ “อ้า “ ..หัวเราะหึหึ...มันพูดไม่ออก
พ่อยอด : งั้นจะ อ้า ก็ อ้า ไปซะ ถ้าเป็นอย่างนั้น
โล่งอกไปที เพื่อน ๆ นั่งฟังกันตาแป๋ว ดิฉันเดาไม่ออกว่าพวกเขารู้สึกอะไร
พ่อบน : ผมเจอนายกองค์การบริหารส่วนตำบล เขาถามผม
ปีนี้กลุ่มเราคิดจะทำอะไรบ้าง
ผมนึกถึงเรื่องปรับไร่นาขุดสระ จึงตอบไป จะปรับไร่นาและขุดสระน้ำในไร่นาครับ
งั้นผมจะให้สระ ๑ ลูก
แบบนี้มันไม่เป็นแหละครับ พวกผมมีกันทั้งหมด ๑๒ คนนะครับ
ถ้างั้นผมจะขุดลอกคลองน้ำให้ก็แล้วกัน (ง่ายดี ไม่ต้องคิดมาก ทำงานก็ง่ายจุดเดียว ทำงบก็ง่าย ไม่มีข้อโต้เถียง แย่งชิง ให้ปวดหัว)
ไม่ได้หล่ะครับแบบนั้น ไร่นาไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน มันจะต้องเอาไปลงในไร่นาของสมาชิกกลุ่มของเราแต่ละคน มันจึงจะเกิดดอกออกผล
เอ้า ถ้างั้นก็ทำแผนมา แล้วผมจะส่งคนไปสำรวจ ( คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำอะไรเพื่อให้เข้าเศรษฐกิจพอเพียง ) จะได้คำณวนค่าใช้จ่ายได้ จะได้ทำแผนรวมส่งไป อบจ. ( น่านแน่ เป็นโครงการของจังหวัดแจ้งมา ไม่แจ้งข้อมูลให้ชาวบ้านรู้เลย เจอใครก็บอกคนนั้นกระมัง หรือมิฉะนั้นก็อาจนำงบไปขุดห้วย ลอกคลองไปตามเรื่องตามที่ถนัดและง่าย )
ครับ ก็เป็นเรื่องที่เราต้องได้ร่วมมือกันทำแผนส่งเขา
นี่ไงคะ ช่องเปิดพอดีเลย การฝึกทำแผน ๓ ปี ๕ ปีของกลุ่มเป็นเรื่องค้างคามาตั้งแต่เดือน กันยายน ๔๙ จะฝึกทำ วันนั้น วันนี้ก็ไม่ลงตัวเสียที คราวนี้ก็จะเป็นการฝึกที่มีความหมาย ที่ไม่เพียงได้ทักษะแต่ได้เอาชิ้นงานที่ฝึกนั้นไปใช้เลย
มากไปกว่านั้น กลุ่มดงหลวงยังได้ทำให้ดิฉันได้ลิ้มรสของความชุ่มชื่นในใจรับศักราชใหม่ เดิมนั้นเป็นธรรมดาที่ระหว่างการประชุม พี่น้องชาวบ้านเกิดความคิดอื่นขึ้นมา ก็จะคุยกับคนที่นั่งใกล้ ๆ ดิฉันเผชิญตรงนี้ด้วยการหยุดพูดในบางครั้ง พูดแข่งกับพวกเขาบางครั้ง บอกเขาบางครั้งว่า ขอโทษเด้อ เดี๋ยวฟังก่อนค่ะ .....ก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง แต่ที่มันแย่คือพอเกิดเหตุการณ์นี้แล้วสมาธิเราเสีย คำพูด เนื้อหาที่เรากำลัง “โลม” ชาวบ้านอยู่ ซึ่งวางแนวทางไว้คร่าว ๆ ในใจว่าจะโยนอะไรออกไปในที่ประชุมก็ ดัน ลืม เสียนี่
ดิฉันพยายามมองในทางบวกด้วยเพราะในบางครั้ง ดิฉันจับได้ว่า เขากำลังเกิดความคิดจากประเด็นที่ดิฉันกำลังพูดอยู่ และกำลังต่อความคิดนั้น ๆ และจริง ๆ แล้วสถานการณ์แบบนี้ดิฉันชอบมากกว่าที่จะเห็นชาวบ้านนั่งนิ่ง ๆ ฟังเหมือนถูกสะกดจิต
และในวันนี้ ก็มีคนเกิดแรงบันดาลใจ ตั้งวงเล็กคุยกันซ้อนอยู่ในวงใหญ่ และครู่ต่อมาก็มีเสียงจากน้องฉันดี ปรามเบา ๆ “ หยุดคุยก่อนนะ ฟังก่อน ฟังก่อน “ แล้ววงเล็กนั้นก็กลับใจหันเข้ามาในวงใหญ่ใหม่
ดิฉันชื่นนน...ใจ ที่ชาวบ้านทั้งรู้ที่จะ ฟัง และได้เห็นอำนาจแห่งตน
ป้ายคำหลัก
น่าจะใช้ประจำตัวหนึ่งตัวใด
เจ้านี่..เขียนดีหลาย ดีวันดีคืน ดีก๊ะเด้อก๊ะเดี้ย
เปิดบ้าน 2 ก.พ.แน่นอน
ประสานLDI. แล่วบ้อ
ยังสนุกเหมือนเดิม
ขอบคุณครับ
ครูบาคะ แจ้งเรียบร้อยแล้วค่ะ
ก็เพราะ ๒ กพ. แน่นอนนี่แหละ ทางโน้นเขาอึกอักน่ะ
และขอบคุณค่ะคำแนะนำ เรื่องป้ายคำหลัก แม่ใหญ่เข้าใจว่า เป็นคำหลักของบทความแต่ละชิ้นที่เขียนค่ะ จะได้ปรับใหม่ค่ะ สงสัยป้ายคำหลักแม่ใหญ่ไปกินที่ของส่วนกลางเต็มไปหมดแล้วมั้งป่านนี้