ดิฉันกับเพื่อนบ้าง กับน้องบ้าง ตัวคนเดียวบ้าง ปฏิบัติการล่าขยะที่งานกาชาดจังหวัดนครพนมเป็นเวลา ๗ วัน ได้เรียนรู้อะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับกิจการมะพร้าวน้ำหอม การขายที่ถูกแบ่งเป็นสามลักษณะ ขายเป็นผลสดและแบบเผา ( ที่จริงต้ม )ผู้ซื้อดื่มกินจากผลมะพร้าวโดยตรง แบบสำเร็จรูปคือเอาน้ำมะพร้าวและตักเนื้อมะพร้าวใส่โหลไว้เวลามีคนมาซื้อก็ตักใส่แก้วพลาสติก และแบบที่สามแปรรูปเป็นวุ้นมะพร้าว อย่างไรก็ตามมะพร้าวทุกประเภทต้องปอกเปลือกหมด ไม่มากก็น้อย เป็นที่มาที่ดิฉันไปเก็บ ในคณะผู้ขายประกอบด้วยชาย ๔ หญิง ๑ ฝ่ายหญิงอยู่หน้าร้านขายอย่างเดียว ฝ่ายชาย ปอก ขัดเปลือกมะพร้าว ตักมะพร้าว เก็บรวบรวมเศษมะพร้าวใส่ถุงปุ๋ย ยกมาใส่รถช่วยดิฉันแทนที่จะต้องยกไปวางบริเวณทิ้งขยะ ซึ่งดิฉันจะไปรับตอนเย็นประมาณห้าโมงเย็นก่อนที่คนจะทยอยมาเที่ยวงาน มะพร้าวที่เขาทิ้งแล้ว บางลูกเป็นมะพร้าวห้าว เขาจะทิ้งเลยใช้เฉพาะน้ำ บางลูกเขาก็ขูดเอาเฉพาะผิวเนื้อที่นุ่ม ๆ แล้วเหลือส่วนล่างไว้ทีเหลือโยนทิ้งเลย เสียเวลา ต้องเลือกเฉพาะที่นิ่ม ๆ ดิฉันเสียดายมากเลย เอาไปขูดทำอะไรได้อีกหลายอย่าง ทำกับข้าวยังได้ ว่าแล้วดิฉันก็เอาไปทำขนมตักบาตรแล้วหนึ่งครั้ง และที่เหลือแช่ไว้ในตู้เย็นก็จะทำข้าวหัวหงอกตักบาตรอีก แล้วก็จะลองขูดแล้วหมักเป็นน้ำหมักดู เด็ก ๆ ในหมู่บ้านยกขนวน ๔-๕ คนไปช่วยเทเศษมะพร้าวต่างก็ได้มะพร้าวไปกินกันถ้วนหน้า มะพร้าวน้ำหอมก็หอมสมชื่อของมัน
พวกเราทำอะไรกัน มะพร้าวเดินทางมาเกือบ ๙๐๐ กม. มาให้คนกินถึงที่ กินก็ต้องเลือกกินที่อ่อน ที่นิ่ม ที่เหลือไม่อร่อย ทิ้งไป ฉันมีเงินซื้อ ไม่ต้องไปสนว่ามะพร้าวเดินทางมาอย่างไร ใครเกี่ยวข้องบ้าง
ในหมู่บ้านช่วงนี้คึกคักสุด ๆ ใครก็กลับมาบ้าน กลับมาจากไหนก็ไม่รู้ เดินกันพล่านในหมู่บ้าน แต่ละบ้านก็อบอุ่นลูกหลานพร้อมหน้าพร้อมตากันล้อมวงกินข้าว ตั้งแต่วันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๔๙ แม่ค้าในตลาดยิ้มแต้ คนเริ่มซื้ออาหารตั้งแต่ลงจากรถโดยสาร แวะเข้าตลาดก่อนอื่นใด ซื้ออาหารกลับล้าน จนถึงบัดนี้ก็เริ่มทยอยกันกลับบ้านไปทีละบ้านสองบ้าน บ้างก็ซื้อพริก ซื้อหอมแห้ง จะเตรียมทำแจ่วส้มให้ลูกไปกินที่กรุงเทพ พ่อแม่ยืนส่งลูกเก็บข้าวของจัดใส่รถ ปิคอัพเตรียมออกเดินทาง คำพูดของพ่อเล็ก กุดวงศ์แก้วชัดขึ้นมาในสำนึก “ จะไม่ให้เขารวยได้อย่างไร ลูกหลานของเราไปรวมตัวกันไปทำให้เขา เอาแรงงาน เอาสมองไปให้เขาจนหมด “ อีกไม่นานหมู่บ้านก็จะกลับสู่สภาพเดิมเหลือคนกลางคน คนสูงอายุ และเด็ก และท้องทุ่งที่อ้างว้างสีเหลืองแห้ง
เกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคน เห็นเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะทิ้งบ้านทิ้งเรือน ทิ้งไร่ทิ้งนา ทิ้งตนเอง ไปทำให้กับคนอื่น
ทุกวันนี้มีการแต่งตั้งชาวบ้านให้มีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัย เป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจบ้าน ดูเหมือนจะเรียกว่า อปพร. ทำนองนี้ ทุกคนแต่งเครื่องแบบโก้สีกากี รองเท้าบู้ท หมวกแก๊ป และไม้กระบองในมือ ผู้เป็นหัวหน้ามักจะถือวิทยุตามตัว ดูสง่า น่าเกรงขาม หน่วยก้านขึงขัง เวลาเดินไป จะไปกันเป็นกลุ่ม คงไม่มีใครกล้าหือแน่เลย เพราะดูแล้ว ตำรวจบ้านเหล่านี้มีจำนวนพอ ๆ กับผู้ไปเที่ยวงานกาชาด ส่วนบริเวณทางเข้าหมู่บ้านก็จะมีการจัดเวรยามเฝ้ายาม อย่างแข็งขัน เอาจริงเอาจัง อุทิศตนเอง กับเกียรติยศที่ได้รับ ชุมนุมกัน มีเพื่อนจากในหมู่บ้านไปแวะเยี่ยมเยียนทักทายโดยเฉพาะในวันแรก ๆ
เกิดอะไรขึ้น ทำไมคนเอาจริงเอาจังกับเรื่องที่ไม่ใช่ชีวิตของตนเอง ไปดูและทำเรื่องที่มันทำได้ยาก และเป็นเรื่องที่ปลายเหตุ มันเอาจริงเอาจังกับเรื่องพวกนี้ได้ไหมนะ
ชีวิต ดำเนินไปตามปกติของเรื่องราวที่เกี่ยวข้องแต่มันเหมือนกับอยู่ในความหลับไหลอย่างไรพิกล
คุณตุ๊กำลัง "ติด" ขยะ
และกำลังใช้ขยะดำเนินเรื่อง "การใช้ชีวิต"
น่าสนใจมาก
ผมทำแบบเดียวกันในบางลักษณะ
แต่คนละแบบในรายละเอียด
เดินหน้าต่อไปเลยครับ
วิญญาณ "นักเล่า" กำลังเบ่งบานครับ
ขอเป็นกำลังใจ
ไม่รู้จะขอบคุณอาจารย์อย่างไร ที่กรุณาสละเวลาอ่านสิ่งที่ดิฉันเขียน
ดิฉันเขียนเพียงเพื่อที่จะบันทึก ความรู้สึกที่มันมีอย่างมากต่อประสบการณ์ที่ตนเองได้เผชิญแล้ว และอยากจะให้มีรอยไว้เผื่อว่าจะทำอะไรในภายภาคหน้า รวมทั้งเมื่อกลับมาอ่านอีกจะได้นึกบรรยากาศออก คิดว่าสิ่งที่ตนเองรู้สึกต่ออย่างรุนแรงนี้น่าจะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่จะอธิบาย ให้ความหมายบางสิ่งบางอย่าง
จึงเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ฟังความคิดของอาจารย์ประกอบการเขียนค่ะ
ผมก็ชอบอ่านการบันทึกความรู้สึกแบบนี้ครับ ตามมาให้กำลังใจครับ คุณตุ๊อยากจัดตลาดนัดความรู้อีกสักครั้งไหมครับ ผมจะให้อ้อมประสานงานนะครับ
วิจารณ์
วันนี้ดิฉันง่วนอยู่กับการเขียนและรียบเรียงบทความที่จะลงบล็อคตั้งแต่เช้ามืด และได้เปิดบันทึกเล่มใหม่อีกเพราะรู้สึกว่ามีบางแง่มุมที่อยากบันทึกและเพื่อให้แยกแยะประเด็นออกไป ดังที่ได้ทราบจากท่านอาจารย์จันทวรรณ ต่อจากนั้นก็พยายามคัดลอกบล็อคบางหน้าอันไปเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ จึงได้มีโอกาสกลับมาอ่านอีก จึงได้เห็นข้อคิดจากท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ที่กรุณาต่อบันทึกของดิฉัน ขอบพระคุณค่ะ
พออ่านเจอแล้วต้องหยุดไปทำอย่างอื่น เพราะทั้งเริ่มปวดตาและมีคำถามพุ่งขึ้นมาเยอะแยะไปหมด อะไรและอย่างไร ต้องทำอะไรบ้าง...ใคร ฯ ดิฉันอยากทราบรายละเอียดค่ะ
ตามมาอ่านเรื่องของคนสนใจเรื่องขยะ เพราะมีค่อนข้างน้อยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำด้วย