ก่อนอื่นให้ความหมายของเงินสดก่อน ก็คือ ธนบัตร เหรียญกษาปณ์ เช็คธนาคารรอเรียกเก็บ สำเนาการรับชำระหนี้ด้วยบัตรเครดิต และจะต้องคำนึงถึงเรื่องของสภาพคล่องทางการเงินด้วย เพื่อจะได้ดำเนินงานไปด้วยความราบรื่นและก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หน่วยงานหรือกิจการมีความจำเป็นจะต้องมีเงินสดไว้จ่ายเพื่อการดำเนินงานเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
1. จ่ายค่าวัสดุ 2. จ่ายเงินเดือน 3. จ่ายค่าสาธารณูปโภค 4. จ่ายค่าครุภัณฑ์ เป็นต้น
และในทุกวันทำการ เราจะต้องรู้ว่าเงินสดคงเหลืออยู่นั้นมีมากพอสำหรับค่าใช้จ่ายหรือการชำระหนี้ที่ถึงกำหนดในวันนั้นหรือไม่เพื่อจะไม่ให้เกิดการขาดสภาพคล่องของหน่วยงาน ดังนั้นเราจะต้องมีการวางแผนการใช้จ่ายเงินอย่างเป็นระบบ โดยอ้างอิงการคาดการณ์เงินรับรับจากกรณีต่าง ๆ ในอนาคต และเงินสดจ่ายจะต้องสัมพันธ์กันโดยไม่จ่ายเงินสดมากกว่าเงินที่ได้รับเงิน ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับหน่วยงานหรือกิจการต่าง ๆ จะต้องมีการจัดทำงบกระแสเงินสด ทุกเดือน เพื่อเป็นประโยชน์ดังนี้
1. ทราบสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของยอดเงินสดต้นงวดและปลายงวด
2. ทราบข้อมูลจำนวนเงินสดรับและเงินสดจ่ายจากกิจกรรมการดำเนินงาน
3. ทราบข้อมูลจำนวนเงินสดรับและเงินสดจ่ายจากกิจกรรมการลงทุน
4. ทราบข้อมูลจำนวนเงินสดรับและเงินสดจ่ายจากกิจกรรมจัดหาเงิน
5. ทราบแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงกระแสเงินสดในอนาคตตามประเภทกิจกรรม
6. ทราบกระแสเงินสดที่จะเกิดขึ้นจากโครงการลงทุนต่าง ๆ เพื่อพิจารณาตัดสินใจลงทุน
7. ใช้วางแผนทางการเงิน เช่น การพิจารณาจ่ายเงินปันผลหรือการลงทุนเพิ่ม
เมื่อเราได้จัดทำงบกระแสเงินสด เราก็จะทราบว่ามีเงินสดรับและจ่ายมีเงินคงเหลือเท่าไร ถ้ามีเงินคงเหลือจำนวนมากเพื่อที่ลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยง ก็คือ นำเงินสดฝากธนาคารพาณิชย์ ประเภทประจำที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งเราจะต้องสอบถามหรือติดต่อแต่ละธนาคารว่าให้อัตราดอกเบี้ยเท่าไร เราก็สามารถนำเงินไปลงทุนโดยฝากธนาคารประเภทประจำได้ โดยไม่กระทบรายจ่ายในการดำเนินงานด้วยจะต้องวิเคราะห์เงินสดคงเหลือด้วย ซึ่งจะเป็นการบริหารเงินสดที่ดีต่อไป
ขอบคุณครับที่ติดตามครับ