กินเลี้ยงอย่างไร อาจไม่อ้วน


อาจารย์เบรียน แวนซิงค์ นักจิตวิทยาการอาหารได้เขียนหนังสือชื่อ "การกินแบบขาดสติ: ทำไมเรากินมากกว่าที่คิด"

Hiker

คนไทยเป็นคนรักสนุก ไม่ว่าเทศกาลไหนๆ พี่ไทยฉลองกับเขาหมด... เว็บไซต์อินเทลลิเฮลธ์มีคำแนะนำดีๆ ในการร่วมงานกินเลี้ยง ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟัง

อาจารย์เบรียน แวนซิงค์ นักจิตวิทยาการอาหารได้เขียนหนังสือชื่อ "การกินแบบขาดสติ: ทำไมเรากินมากกว่าที่คิด" โดยนำผลการศึกษาวิจัยจากห้องปฏิบัติการอาหาร มหาวิทยาลัยคอร์แนลล์ สหรัฐฯ มาประกอบ

อาจารย์ท่านมีคำแนะนำสำหรับการจัดงาน และการร่วมงานเลี้ยงมาฝากพวกเราอย่างนี้ครับ...

  1. อย่ากินของเหลือ:                                               
    ของเหลือ (leftovers) มีไว้สำหรับทิ้ง หรือเก็บในตู้เย็น (กรณีตักแบ่งโดยใช้ช้อนกลาง และไม่ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนานเกิน 1-2 ชั่วโมง)
    ไม่ควรกินของเหลือ เพราะเสียดายของ คนที่ไม่กินของเหลือจะได้รับแคลอรีส่วนเกิน (พลังงานจากอาหาร) ลดลง 15-20%
  2. มอง(อย่างมีสติ)ก่อนกิน:                                     
    เวลาซื้อของอร่อยๆ... อย่ากินจากถุง ให้ถ่ายลงบนจานหรือชามก่อน มองดูอย่างน้อย 5-10 วินาทีก่อนกิน เพื่อให้สติสตางค์กลับคืนมาก่อน
    จากการศึกษาพบว่า คนที่รู้จัก "มองก่อนกิน" และ "กินอย่างมีสติ" จะกินอาหารส่วนเกินลดลง 134 แคลอรี
  3. เก็บหลักฐาน:                                                       
    การเก็บหลักฐานหรือ "ซาก" ภาชนะห่อหุ้มอาหาร เช่น กระดาษห่อ พลาสติกหุ้ม ฯลฯ และกระดูกไว้บนจาน มีส่วนช่วยให้กินอาหารส่วนเกินลดลงได้
    การศึกษาหนึ่งพบว่า ถ้าไม่นำกระดูกปีกไก่ไปให้พ้นหูพ้นตา... วางไว้บนจาน จะช่วยให้กินปีกไก่น้อยลง 30%
  4. เลี่ยงอาหารกระตุ้นน้ำย่อย:                                  
    ฝรั่งนิยมกินอาหารกระตุ้นน้ำย่อย (appetizers) เช่น ของทอดชิ้นเล็กชิ้นน้อย ฯลฯ ก่อนอาหาร ทำให้ได้รับแคลอรีมากเกิน
    ถ้ามื้อไหนตั้งใจจะกินขนมหวาน... ควรงดอาหารกระตุ้นน้ำย่อยเสีย เพื่อลดพลังงานส่วนเกินลง
  5. นั่งใกล้คนกินช้า:                                                 
    ถ้าเลือกได้... ให้เลือกนั่งใกล้คนที่กินช้า การนั่งใกล้คนกินเร็ว หรือกินเก่ง (เช่น ผู้เขียน ฯลฯ) มีส่วนทำให้กินมากเกินพอดี
  6. กินทีหลัง:                                                             
    ถ้าทำได้... ให้กินทีหลังคนอื่น ปล่อยให้คนอื่นนำไปก่อนสัก 3-5 คำ และไม่ต้องรีบกินตาม เพราะเราจะนั่งกินไปแบบช้าๆ และมีสติ
    อย่าลืมคำพังเพยที่ว่า "ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม"... เพราะพวกเราเร็วๆ มักจะได้ตุ่มได้ไหไปหลายกิโลฯ (อ้วน)
  7. วางให้ไกล:                                                          
    ถ้าเลือกได้... อย่านั่งใกล้อาหาร ให้นั่งไกลออกไปอย่างน้อยเท่ากับระยะแขนเหยียด
  8. น้อยอย่างเข้าไว้:                                                 
    รายการอาหารยิ่งหลากหลาย ยิ่งมีส่วนทำให้กินได้มาก... การศึกษาหนึ่งทดลองให้กลุ่มตัวอย่างกินช็อกโกแล็ต M&M 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งให้กินช็อกโกแล็ต 7 สี อีกครั้งหนึ่งให้กินช็อกโกแล็ต 9 สี
    ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างกินช็อกโกแล็ต 9 สีมากกว่า 7 สีถึง 85%
  9. เก็บอาหารโปรดไว้ในภาชนะทึบแสง-สีขาว:         
    แนะนำให้เก็บอาหารโปรดไว้ในภาชนะทึบแสง-สีขาว อย่าใส่อาหารโปรดในภาชนะโปร่งใส
    การศึกษาหนึ่งทดลองให้กลุ่มตัวอย่างกินลูกอมที่บรรจุในห่อสีขาวทึบแสง (ไม่มีลวดลาย) และลูกอมที่บรรจุในห่อใส (see-through) มองทะลุผ่านไปด้านในได้
    ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างกินลูกอมในห่อสีขาวทึบแสงน้อยกว่าห่อใสถึง 23%
  10. ชามเล็กๆ:                                                            
    การศึกษาพบว่า คนที่ใช้จานหรือชามใบเล็กกินอาหารน้อยกว่าคนที่ใช้จานหรือชามใบใหญ่ถึง 59%
  11. แก้วทรงผอมสูง:                                                
    การศึกษาพบว่า แก้วทรงผอมสูงมีส่วนช่วยลดปริมาณเครื่องดื่มลงได้มากกว่าแก้วทรงเตี้ยอ้วน
  12. อย่าทำงานหลายอย่าง:                                     
    การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เช่น กินข้าวไปด้วย ชมโทรทัศน์หรือเล่นเกมส์ไปด้วย ฯลฯ มักจะทำให้ขาดสติ... เลยอ้วนเลย วิธีที่ดีคือ เวลากิน... อย่าดูโทรทัศน์ เวลาดูโทรทัศน์... อย่ากิน
  13. วางช้อนส้อม:                                                    
    เวลากินให้ถือช้อน ถือส้อม... ตักอาหารใส่ปาก และวางช้อน วางส้อมทุกครั้ง... การถือช้อน ถือส้อมไว้ตลอดเวลามักจะทำให้ขาดสติ และกินมากเกินได้ง่าย.. เลยอ้วนเลย
  14. หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน:                                   
    ข้อ (14) นี่... ท่านอาจารย์แวนซิงค์ไม่ได้แนะนำไว้ครับ อาจารย์กังฟูแนะนำไว้ในหนังโทรทัศน์ตอนผู้เขียนเป็นเด็ก (ประมาณ 35 ปีมาแล้ว)
    อาจารย์ท่านบอกว่า "หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน" เรื่องกินเลี้ยงก็เช่นกัน... ถ้าจะควบคุมน้ำหนักให้ได้ผลดีจริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นอย่าไปงานเลี้ยงเลย เพราะมันต้านทานยากจริงๆ...

    แหล่งที่มา:

หมายเลขบันทึก: 70028เขียนเมื่อ 29 ธันวาคม 2006 10:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)
  • เห็นอาหารอร่อย  มักอดใจไม่ไหวทุกที คงต้องเอาสูตรที่อาจารย์หมอบอกมาใช้ค่ะ
  • ขอบคุณอาจารย์หมอค่ะ

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๐ ค่ะ อ. หมอวัลลภ ที่นับถือ

          Blog ช่วยให้เหมือนไม่ไกลกันเลยตลอดทั้งปีนะคะ  วันเวลาที่ผ่านมา อาจารย์ได้มอบแต่สิ่งดีดี ทั้งที่เป็นความรู้ แข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์  เหนืออื่นใด อาจารย์ได้มอบกำลังใจด้วยคำชื่นชมแก่ดิฉันและชาว Blog Gotoknow แห่งนี้อย่างสม่ำเสมอมิได้ขาด  ความรู้สึกดีดีอย่างนี้ ความรู้สึกอบอุ่นอย่างนี้  มีพลังอย่างมากค่ะสำหรับการขับเคลื่อนการทำงาน และการดำเนินชีวิต

          ดังนั้น ด้วยอำนาจแห่งความเป็นดิฉันเอง  ขอยกย่องอาจารย์ ให้เป็น *****สุดยอด Bloger แห่งปี 2006Best Bloger of The Year 2006***** ค่ะ

          ปีใหม่นี้ และทุกๆ วัน ขอให้อาจารย์มีแต่ความสุข  คิดหวังสิ่งใดขอให้สมปรารถนา เจริญสมบูรณ์ทั้งวรรณะ  สุขะ พละ  ด้วยศีล  สมาธิ  และปัญญา ที่ถึงพร้อมของอาจารย์ด้วยเทอญ..... : )  : )

 Happy New Year เรียนท่านอาจารย์หมอวัลลภ

 แบบไทย กินสบายๆ ด้วย "ส้มตำ" ครับ

 ท้าเลยครับ กินได้ไม่ยั้ง ไม่มีอ้วน แหงๆ ถ้ากินแต่ มะละกอสลัด

 สุขสันต์ใกล้วันภาระใหม่ งานเดิมที่พัฒนาไปกว่าเดิมครับ


  • อาจารย์ให้คำแนะนำในการกินเลี้ยง ได้เหมาะเจาะ กับบรรยากาศใกล้เทศกาลปีใหม่จริง ๆ ค่ะ แต่ทั้งหมดที่อาจารย์แนะนำมานี้ คงนำไปใช้ได้ไม่ครบทุกข้อในเทศกาลปีใหม่ที่หลายๆ  ครอบครัวกลับไปลิ้มรสอาหารที่ คุณแม่ เตรียมทำไว้ให้ เพราะถ้าทานน้อยไป ก็จะเห็นสายตาวิงวอนจากท่าน ถามเราเสมอว่า "ไม่อร่อยเหรอลูก"  ตบะเลยแตกทุกครั้งเลยค่ะ
  • กราบอวยพรปีใหม่ อาจารย์ล่วงหน้าค่ะ
  • ชอบข้อ ๑๔ ครับท่านอาจารย์หมอวัลลภ...ข้ออื่นๆ วิชาการมากไป..."หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน"
  • เพราะเดือนธันวาคมนี้ ไม่ยอมหลีกเลี่ยง..ไปงานเลี้ยงบ่อย..อดใจไม่ได้ น้ำหนักจึงขึ้นกว่า ๒ กิโลกรัมครับ...
  • ขออวยพรปีใหม่ให้คุณหมอวัลลภ มีสุขภาพแข็งแรงตลอดปีกุนนะครับ
  • และขอยกย่องตามอาจารย์มาลินีให้เป็น สุดยอด blogger แห่งปี ๒๕๔๙ ในฐานะผู้ให้กำลังใจบล็อกเกอร์ดีเด่นครับ

ขอขอบคุณคุณอ้อ-สุชานาถ และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • "หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน" อาจารย์กังฟูท่านสอนไว้อย่างนั้น...

คนส่วนใหญ่ (รวมทั้งผมด้วย) คงจะทำใจไม่ไหวเวลาอยู่ท่ามกลางของอร่อยๆ...

  • ทว่า...
    (1). ถ้าเราหลีกเลี่ยงไม่ไปงานเลี้ยงได้ นั่นน่าจะดีที่สุด
    (2). ดีรองลงไปคือ ทำตามที่ท่านอาจารย์แวนซิงค์แนะนำ

ขอส่งความปรารถนาดีในโอกาสปีใหม่สากล...

  • สวัสดีปีใหม่
  • ขอให้พวกเราทุกท่านทุกคนมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี มีแรง มีกำลัง... จะได้ทำอะไรดีๆ ไปได้นานๆ

ขอขอบคุณอาจารย์มาลินี และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบคุณสำหรับความปรารถนาดี และความเป็น "ครู" ที่อาจารย์มีให้พวกเราทุกคนบน Go2know และบนผืนแผ่นดินไทยมาโดยตลอด

ขอส่งความปรารถนาดีในโอกาสปีใหม่สากล...

  • สวัสดีปีใหม่
  • ขอให้พวกเราทุกท่านทุกคนมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี มีแรง มีกำลัง... จะได้ทำอะไรดีๆ ไปได้นานๆ

ขอแสดงความเคารพท่านอาจารย์หมอ JJ และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ผมคิดว่า คนที่คิดค้น "ส้มตำ" น่าจะได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ และวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นสุดยอดอาหารสุขภาพที่อร่อย ทรงคุณค่า และป้องกันโรคสารพัด เช่น โรคอ้วน ฯลฯ

ส้มตำมีจุดอ่อนที่น่าจะปรับปรุงได้ คุณแม่ค้าด้านหน้าโรงพยาบาล (ศูนย์มะเร็งลำปาง) ท่านพัฒนาจนเกิดเป็น "สุดยอดส้มตำอนามัย" เช่น

  • (1). มะละกอดิบไม่มีวิตะมินเอ... คุณแม่ค้าด้านหน้าโรงพยาบาลท่านผสมแครอทเข้าไป
  • (2). ถั่วลิสง... ท่านคั่วเองเลย เพื่อลดโอกาสเกิดเชื้อรา และลดสารก่อมะเร็งอะฟลาทอกซิน
  • (3). ปู + ปลาร้า... ท่านต้ม ฆ่าเชื้อเรียบร้อย
  • (4). กุ้งแห้ง... ท่านเลือกกุ้งแห้งสีซีด โอกาสใส่สีน้อยมากๆ ไม่เหมือนตอนเป็นนักศึกษา... ผมมีประสบการณ์ไปดูงานที่ปัตตานี คูน้ำบ้านที่ทำกุ้งแห้งสีแดงสดเลย เพราะใช้สีเต็มที่...

ขอประกาศ...

  • ให้ส้มตำของคุณแม่ด้านหน้าโรงพยาบาล (ศูนย์มะเร็งลำปาง) เป็นสุดยอดส้มตำอนามัยแห่งปี (hygiene papaya salad of the year 2006) ครับ...

ขอส่งความปรารถนาดีในโอกาสปีใหม่สากล...

  • สวัสดีปีใหม่
  • ขอให้พวกเราทุกท่านทุกคนมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี มีแรง มีกำลัง... จะได้ทำอะไรดีๆ ไปได้นานๆ

สวัสดีค่ะคุณหมอ... เห็นชื่อบันทึก รีบวิ่งตามเข้ามา เพราะใกล้ปีใหม่ มีงานเลี้ยงให้ทานจนพุงกาง ต้องรีบมาอ่านเคล็ดวิชาโยกย้ายไขมันซะก่อน

"หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน" แต่ตอนนี้คาดว่าคงจะกินต้านทานแล้วค่ะ หุหุ

ขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรงนะคะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

^____^

ขอขอบคุณ... คุณรัตติยาและท่านผู้อ่านทุกท่าน

  • งานเลี้ยงกับคุณแม่น่าจะเลือกได้ครับ... เน้นแบบที่หมอไทยแนะนำ (เข้าใจว่า เป็นคำแนะนำแห่งเดียวในโลก) คือ "ผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นครึ่งหนึ่ง"... น่าจะดีที่สุด

ขอกราบอนุโมทนา อนุโมทนา และกล่าวสาธุ สาธุ สาธุกับท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอสาธุกับทุกท่านที่ไปกราบ ไปไหว้ ไปพบ ไปหาคุณพ่อ คุณแม่ ครูบาอาจารย์ หรือญาติในโอกาสปีใหม่สากลครับ...

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงสังคหวัตถุ 4 หรือธัมมะเครื่องยังความเมตตา ความปรารถนาดีต่อกันให้บังเกิดไว้ 4 ประการได้แก่

  • (1). ทาน / การให้ การแบ่งปัน
    (2). ปิยวาจา / การกล่าวคำไพเราะ ประกอบด้วยเมตตา
    (3). อัตถจริยา / การช่วยเหลือกิจการงาน ไม่นิ่งดูดาย
    (4). สมานัตตา / การประพฤติสม่ำเสมอ ตามสมควรแก่ฐานะ...
  • ข้อ (4). นี่สำคัญกับพ่อแม่มาก... พ่อแม่ส่วนใหญ่ต้องการการเห็นหน้า การพบปะ การได้พูดคุย ได้ทานอาหารร่วมกับลูกหลาน

เรียนเสนอให้ท่านผู้อ่านอ่านเรื่องนี้ครับ...

  • เรื่องของทหารเกณฑ์ที่ไปทำงานในนราธิวาสน่าจะช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นว่า แท้ที่จริงแล้วพ่อแม่ต้องการอะไรจากลูกๆ...
  • โปรดคลิกที่นี่.... [     Click     ] หรือที่นี่... >>>>> http://gotoknow.org/blog/talk2u/69856

ขอส่งความปรารถนาดีในโอกาสปีใหม่สากล...

  • สวัสดีปีใหม่
  • ขอให้พวกเราทุกท่านทุกคนมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี มีแรง มีกำลัง... จะได้ทำอะไรดีๆ ไปได้นานๆ

ขอขอบพระคุณอาจารย์ beeman และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  •  ขอขอบพระคุณสำหรับกำลังใจ...

เรื่องการให้คำแนะนำวิธีเขียนบล็อกนี่... ผมขอยกความดีเป็นเครื่องบูชาคุณครูภาษาไทยทุกท่านที่วชิราวุธวิทยาลัยครับ

  • คุณครูภาษาไทยที่นั่นสอนด้วยใจ และมอบกำลังใจให้ลูกศิษย์อย่างเต็มที่...
  • ขอกราบแสดงความเคารพคุณครูวชิราวุธวิทยาลัย... โรงเรียนเก่าผู้เขียนด้วยเศียรเกล้าครับ

ขอส่งความปรารถนาดีในโอกาสปีใหม่สากล...

  • สวัสดีปีใหม่
  • ขอให้พวกเราทุกท่านทุกคนมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี มีแรง มีกำลัง... จะได้ทำอะไรดีๆ ไปได้นานๆ

ขอขอบพระคุณอาจารย์ iS และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอต้อนรับกลับบ้าน (เมืองไทย) ครับ

ใครมีวิธีอะไรก็รีบนำมาใช้เลย... ไม่ว่าจะเป็น "หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน" หรือ "กินต้านทาน" อย่างที่อาจารย์ว่า

  • เรื่อง "กินต้านทาน" ก่อนไปงานเลี้ยงมีคำแนะนำไว้เหมือนกัน...
    (1). ให้ดื่มน้ำก่อนไปงานเลี้ยง 2 แก้ว เพื่อลดปริมาตรกระเพาะอาหาร
    (2). ดื่มนมไม่มีไขมัน (หรือนมไขมันต่ำ) เพื่อให้อิ่มไปบางส่วนก่อน
    (3). กินผัก หรือสลัดผัก (ถ้าเป็นไปได้... ควรเลือกน้ำสลัดที่มันน้อยหน่อย) ก่อนเลย 1 จาน

เรื่อง "เดินต้านทาน" ก็มีคำแนะนำเหมือนกัน...

  • ให้เดินช้าๆ หลังกินเลี้ยง 30 นาที + เดินเพิ่มวันละ 30 นาที เช่น เดิมเดินเร็ววันละ 30 นาที... ให้เดินเร็วปานกลางเพิ่มวันละ 30 นาทีไป 1 เดือนต่องานเลี้ยง 1 ครั้ง ฯลฯ

ขอส่งความปรารถนาดีในโอกาสปีใหม่สากล...

  • สวัสดีปีใหม่
  • ขอให้พวกเราทุกท่านทุกคนมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี มีแรง มีกำลัง... จะได้ทำอะไรดีๆ ไปได้นานๆ
 3D Elf With CandyCane ส้มตำ ยำส่งใจ เพื่อชาติไทย ใจร่วมทำ

ขอบพระคุณอาจารย์วัลลภครับ

จะให้ดี ผมพอสรุปได้ว่า ให้ตั้งสติ และมีสัมปชัญญะ ก่อนกิน และขณะกินให้กินด้วยปัญญา 

หมอสุข 

ขอแสดงความเคารพท่านอาจารย์หมอ JJ และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอสนับสนุนส้มตำไทยครับ...
  • วัฒนธรรมอีสานดูจะเป็นวัฒนธรรมที่เข้มแข็งมาก... ไปไหนก็ชนะใจคนได้ทั่วโลก
  • ต่อไปอาจจะมีแฟรนไชส์ส้มตำ + ต้มยำกุ้งของไทยแพร่ไปทั่วโลกก็เป็นได้

ขอแสดงความเคารพท่านอาจารย์อีกครั้งหนึ่ง...

ขอขอบพระคุณอาจารย์หมอสุข และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบพระคุณสำหรับการสรุปที่น่าสนใจที่สุด...

เรื่องการบริโภคอย่างมีสติ...

  • (1). พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้บริโภคพอประมาณ (โภชเนมัตตัญญุตา) ว่า เป็นเหตุให้มีอาพาธ (โรค) น้อย อายุยืน
  • (2). พระภิกษุ (ตามพระวินัย) ท่านจะพิจารณา (ปัจจเวกขณพิจารณา) ว่า จักฉัน (บริโภค) เพื่อบรรเทาเวทนนาเก่า (ความหิว) เพื่อป้องกันเวทนาใหม่ (ความหิว และโรคจากการบริโภคมากเกิน) ไม่ใช่เพื่อประดับ (ความงาม) เพื่อเล่น (สนุกกับการกิน) เพื่อกำลังทางกาย (เช่น นักมวยกินให้มีกำลัง จะได้ทำร้ายคนอื่น ฯลฯ) จักบริโภคเพื่อความอยู่ผาสุก ประพฤติพรหมจรรย์

เท่าที่จำได้... อรรถกถาวิสุทธิมรรคกล่าวว่า

  • (1). โกรธมาก... แก่เร็ว เมตตามาก... แก่ช้า
    (2). โลภมาก... โรคมาก (เช่น กินมาก ฯลฯ) โลภน้อย... โรคน้อย (เช่น กินพอประมาณ ฯลฯ)
    (3). ปัญญาน้อย... อายุสั้น (เช่น ไม่รู้จักว่า อาหารอย่างไร เท่าไรดีกับสุขภาพ ไม่รู้จักออกกำลัง ฯลฯ) ปัญญามาก... อายุยืน (เช่น รู้จักพิจารณาก่อนกิน ขณะกิน หลังกิน + ออกกำลัง ฯลฯ)

ประเด็นที่ท่านอาจารย์สรุปมา (ให้ใช้สติ + สัมปชัญญะ หรือปัญญา) น่าจะเป็น "แก่น" ของอาหาร และโภชนาการ ตลอดจนเป็นแก่นของการใช้ชีวิตทีเดียว... สาธุ สาธุ สาธุ

  • ขอขอบพระคุณอาจารย์ และท่านผู้อ่านทุกท่านครับ...
  • ขอขอบคุณคุณหมอ
  • "หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน"เป็นข้อคิดที่ปรับใช้กับเรื่องอื่นนอกเหนือจากการกินได้ด้วยครับ เช่น อบายมุข
  • สวัสดีปีใหม่ครับ

ขอขอบคุณอาจารย์ wwibul และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ชีวิตของคนเราส่วนใหญ่... "หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน"

สำนวนไทยเราก็ว่า "น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง" เพราะการต้านทานกระแสอะไรที่แรงๆ มักจะมีต้นทุนสูง เช่น อาจจะตาย บาดเจ็บ โดนด่า ฯลฯ

  • ขอส่งความปรารถนาดีในโอกาสปีใหม่สากล...สวัสดีปีใหม่

ขอให้พวกเราทุกท่านทุกคนมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี มีแรง มีกำลัง... จะได้ทำอะไรดีๆ ไปได้นานๆ ครับ

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท