แฟชั่นประชาธิปไตย โยงใยถึงแฟชั่น KM


ก็เลยทำกันแบบผิด ๆ เมื่อผิดก็ไม่ถูก เมื่อไม่ถูกก็แพง เปลืองงบ เปลืองแรง เปลืองวัตถุดิบ ทำลายทรัพยากร ทำลายสภาพแวดล้อม ซ้ำร้ายยังเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของคนในหน่วยงาน

เช้าวันนี้ได้ทราบข่าวว่าประเทศภูฏานกำลังจะนำระบอบประชาธิปไตยมาใช้ ก็มีความรู้สึกแว๊ปขึ้นมาชั่วขณะหนึ่งว่าถึงเวลาแล้วหรือ? แล้วมันเหมาะสมกับภูมิสังคมของภูฏานหรือ?  ทำให้นึกไปถึงกรุงเทพฯเมืองแฟชั่น นึกถึงคณะราษฎร์ นึกถึงเรื่องตลกที่พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ปู่(ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้ใหญ่บ้าน) ต้องไปตามชาวบ้านที่บ้างก็กำลังเลี้ยงควาย บ้างก็กำลังทำนา ให้ไปเลือกผู้แทน ซึ่งชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าจะเลือกไปทำอะไร ที่สำคัญคือเลือกอย่างไร ปู่ก็เลยอธิบายตามที่ข้าราชการในอำเภอ(ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหัวคะแนนด้วย)แนะนำมาว่า หากอยากได้นายอำนาจเป็นผู้แทนก็ให้ทำเครื่องหมายถูกหน้าเลข ๒ หากไม่อยากได้นายอำนาจก็ให้เครื่องหมายผิดหน้าเลข ๒ หากรู้สึกเฉย ๆ ก็ให้ทำเครื่องหมายวงกลมหน้าเลข ๒ ไปทำแค่นี้แหละไม่เห็นจะยาก แล้วก็ค่อยกลับมาทำงานกัน ไม่ไปเดี๋ยวหลวงเขาจะเคืองเอา บ้านเราก็จะไม่พัฒนา ผลเลือกตั้งปรากฎว่า นายอำนาจได้คะแนนคนเดียวทั้งหมู่บ้าน (หมายเหตุ : สมัยก่อนบัตรเลือกตั้งสามารถทำเครื่องหมายได้ ๓ ลักษณะ)

แล้วก็ทำให้กลับมาคิดเกี่ยวกับสภาวการณ์การเมืองของประเทศขณะนี้ ทำให้หวนกลับไปคิดถึงการเกิดของถนนราชดำเนิน คิดถึงพระที่นั่งอนันตสมาคม คิดถึงพระบรมรูปทรงม้า และก็มาคิดถึงชะตาชีวิตของตนเอง คิดไปคิดมาก็คิดถึงหลุมดำ และที่สุดก็คิดถึง KM 

คิดถึง KM ในแง่มุมที่ว่า ผู้บริหารในหลายหน่วยงานพยายามยัดเยียด KM ให้กับหน่วยงานของตนเองเพราะTrend กำลังมา กำลังเป็นแฟชั่นยอดฮิต กลัวตกยุค กลัวไม่เท่ห์ กลัวคนอื่นว่าไม่ศิวิไล เห็นคนอื่นเขาทำแล้วก็อยากทำ แต่ตนเองก็ไม่รู้ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำ KM กัน ทำแล้วได้อะไร ทำไปทำไม และที่สำคัญทำย่างไร ก็เลยทำกันแบบผิด ๆ เมื่อผิดก็ไม่ถูก เมื่อไม่ถูกก็แพง เปลืองงบ เปลืองแรง เปลืองวัตถุดิบ ทำลายทรัพยากร ทำลายสภาพแวดล้อม ซ้ำร้ายยังเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของคนในหน่วยงาน

จึงอยากฝากถึงท่านผู้มีอำนาจในองค์การ หากจะนำ KM ไปใช้ก็พึงศึกษาสักนิด ว่าท่านจะทำ KM ไปเพื่อใคร อะไร ที่ไหน และอย่างไร ดูเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันแล้วย้อนนึกกลับไปในอดีตจนถึง พ.ศ. ๒๔๗๕ ว่า หากท่านเป็นคณะราษฎร์ท่านจะนำประชาธิปไตยมาใช้กับบริบทของสยามประเทศอย่างไร ฉันใดก็ฉันนั้น หากท่านจะนำ KM มาใช้กับองค์การของท่านจะทำอย่างไรองค์การของท่านถึงจะไม่เกิดความโกลาหนวุ่นวาย จนกระทั่งเกิดความไม่สมานฉันท์ขึ้นในองค์การ แล้วในที่สุดท่านก็จะโทษว่า KM มันไม่ดี อุปมาอุปมัยกับบุคคนกลุ่มหนึ่งที่ชอบฉีกรัฐธรรมนูญโดยมักจะอ้างว่ามันไม่ดีครับผม มันไม่เหมาะสม(สำหรับเจ้านายของกระผมเอง)

สำหรับผู้บริหารที่มีความจำกัดด้านเวลาท่านสามารถศึกษาแบบเร่งรัดได้จากสื่อต่าง ๆ ที่ สคส. ได้ผลิตออกมาหลากหลายรูปแบบ ทั้ง ซีดี วีซีดี ดีวีดี หนังสือ และจดหมายข่าว อย่าช้ารีบติดต่อเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้ สำหรับท่านที่ชอบของฟรีสามารถดาวน์โหลดบทความดี ๆ รวมถึงPower point ที่ท่านผู้ทรงคุณวุฒิรวมถึงภาคีต่าง ๆ ที่ได้บรรยายไว้ในงานมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติ ครั้งที่ 3 รีบติดต่อด่วน!! สำหรับ วีซีดี หลุมดำ ที่มีกระแสความต้องการอย่างมาก กำลังเร่งผลิตอย่างเต็มกำลัง และจะวางแผงเร็ว ๆ นี้ โปรดอดใจรอ (ไม่ใช่พื้นที่โฆษณา แค่อยากมาเล่าสู่กันฟัง)

คำสำคัญ (Tags): #kminternship
หมายเลขบันทึก: 68022เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2006 15:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • เขียนได้ตรงใจคนหลายคนด้วยคารมแสบทรวงจริงๆ
  • 555 ขอตามงานด้วยเน้อพี่พันธุ์บุณย์ ...ต้นฉบับจดหมายข่าว ขอด้วยเจ้าคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท