หลงภูเขียว: ความจำสั้นแต่บันทึกนั้นยาว


เกือบปีแระ ที่ได้ยินแนวคิด...คนภูเขียวบอกว่าอยากชวนคนมาเที่ยวบ้านเกิด ให้เกิดการกระจายรายได้ และคนในท้องถิ่นเกิดความรักในความเป็นมาของท้องถิ่น “ไม่ลืมของเก่าไม่เมาของใหม่” เพียงแค่รู้รากเหง้าเป็นฐานให้เกิดความมั่นคงทางสังคมวัฒนธรรม และส่งต่อวัฒนธรรมที่ดีงามให้ลูกหลานรุ่นต่อไป รวมถึงส่งถึงนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิถี หรือการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

จากบันทึกฉบับก่อน  "เที่ยวภูเขียวก็เปรี้ยวได้"   เกริ่นนำของบันทึกฉันพูดไว้ว่า ใครจะไปภูเขียวได้บ่อยๆ เป็นฉันปีละครั้งคงได้มั้ง  ถ้าไม่นับการไปกินลาบเป็ดบ้านบัว#สายกิน และฉันจบบันทึกฉบับนั้นด้วยคำว่า "ภูเขียวเป็นเมืองที่ต้องตั้งใจมา"

หลังจากนั้นปรากฏว่าฉันไปภูเขียวบ่อยมาก  ไปบ่อยจนจะเกิดปรากฏการณ์การแซวว่าไปเฝ้าผู้บ่าว   จะกลัวกันก็ตอนนี้หล่ะ โปรดระวังคำแซวเพราะมันอาจจะเป็นการชี้นำฉันก็ได้ ฉันเริ่มเห็นลู่ทางแล้วนะ 555+

โชคดีฉันมีบ้านเพื่อนให้พออาศัยเล่น เพื่อนมีร้านอาหาร ความพลาดประการเดียวของนาง...คือการเอ่ยปากชวน  ก็มาเล่นสิ...นางไม่รุหล่ะสิว่าฉันเป็นคนจริงจัง  ส่วนฉันไม่แน่ว่านางจริงจังไหม...แต่มีเพื่อนเล่นดีกว่าไม่มีนะ  ยิ่งพากันแก่ๆ แล้ว


ฉันไปขอความรู้จากแม่ครัว ขอความรู้จากเพื่อนในฟิลของคนทำร้าน การจัดการร้าน การแปรรูป  การทำแพคเกจจิ้ง  การตลาด ประชาสัมพันธ์ 

มาดูกันผลลัพธ์ของการแปรรูป...ลูกหม่อน เบอร์รี่สีสวย "ของเล่น"ที่ฉันไม่ได้ชวนเพื่อนคนอื่นไป เพราะมันใช้เวลาทั้งวันเลยทีเดียว


และสิ่งที่แถมมาในเวลาว่างๆ จากการเล่นขายของ  คือ การเรียนรู้เรื่องราวของคนภูเขียวและอยากบอกต่อกับทุกคนว่า....

มาเดินช้าที่ภูเขียวกันเถอะ ...#หลงภูเขียว


เรื่องราวในบันทึกนี้อาจจะเป็นแค่ส่วนน้อยที่ได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของชาวภูเขียว เพราะฉันก็แค่มาในบทคนมาเยี่ยมยาม...ถ้าว่ามาเที่ยว  การท่องเที่ยวของฉันก็คงจะเป็นการมาเที่ยวในรูปแบบใหม่...ไม่ละไม..แต่ถึงกึ๋น...เพราะได้ข้อมูลจากคนท้องถิ่นจริงๆ

เวลาผ่านในมุมนักท่องเที่ยวฉันยังมองว่า วันนี้ภูเขียวยังเป็นแค่เมืองผ่าน  

แต่ถ้ามองมุมวิถีชีวิตที่แฝงอยู่กับงานประเพณีวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของผู้คน อันนี้สิน่าสนใจ  

ความใสของผู้คน ความใสของเมือง ฉันคุยกับเพื่อนของเพื่อนในหลายๆเรื่อง โดยที่เราต่างคนไม่รู้ว่าใครชื่ออะไร ฮร่าา

CR: ภาพจาก FB คุณโต้ง วงษ์ศิริสุพรชัย   shorturl.at/hilvy  (20/12/2019)

ปี 2 5 6 2  ในตัวเมืองภูเขียว---ปรับปรุงถนนสวย เป็นเมืองรถน้อย  เดินเล่น ปั่นจักรยานเล่น  น่าจะได้บรรยากาศ หนองผักปังแหล่งน้ำขนาดใหญ่กลางเมืองได้รับการปรับปรุงให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย  ... มัน ดี มาก คนไปจากเมืองใหญ่อย่างฉันยังตาโตและแอบอิจฉา

CR: ภาพจาก FB เดินวิ่งตามรอยพ่อ ภูเขียวมินิมาราธอน  shorturl.at/gqTV9   (20/12/2019)

มีที่พักหลายราคาอยู่บริเวณรอบๆ เหมาะสำหรับสายออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน  แต่ที่พักที่เคยไปพักก็ยังไม่มีจักรยานให้เช่า บอกแล้วภูเขียวไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว  ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมีรถมาเอง---แต่อาจจะคิดใหม่  เอาไว้ทั้งให้นักท่องเที่ยวเช่าและคนภูเขียวที่ต้องการออกกำลังกาย ดูท่าหันไปเอาดีทางเมืองสุขภาพ-- จะวิ่ง จะปั่น  น่าจะรุ่ง เพราะข้อมูลของเมืองดูว่ามีการจัดกีฬาเดินวิ่งมาก่อน เห็นถนนและปริมาณรถ และทางเดินรอบหนองปัง สายเดินสายวิ่งคงน้ำลายหก ฉันยังอยากเอาชุดวิ่งวิ่งมากินกาแฟที่ไร่เพื่อน แต่ตอนจะกลับไปที่พักเพื่ออาบน้ำนี่สิเป็นปัญหาคงเหนื่อยเกินกว่าจะวิ่งกลับเอง... จึงต้องพับไป

คนภูเขียว เป็น อยู่ คือ---ก็คงไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติมนอกจากความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีคุณภาพชีวิตที่ดี  หากแต่ต้องการให้นักท่องเที่ยวมาเดินเพ่นพ่าน  อาจจะต้องให้ความช่วยเหลือด้านข้อมูล และทำรีวิวที่กินที่เที่ยวเผื่อให้หน่อยนะคะ   จะโกรธกันไหมถ้าจะขอเปลี่ยนรูปข้างล่างจากอุทัยธานีเป็นภูเขียว

อยากให้คนรักภูเขียวทำ  Map สำหรับการเดินชม/การปั่นภายในภูเขียว  ไม่ต้องพิมพ์หรอกต้นทุนสูงยกเว้นจะทำเป็นโปสการ์ด จ้างวาดหรือจัดโครงการประกวดให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม จะจ้างหาที่จ้างไม่ได้ ฉันช่วยได้นะไม่ได้วาดเองแต่เครือข่ายเยอะอยู่---แต่อาจจะไม่ฟรีนะ 555+ 

แล้ว  Up ขึ้นโซเชี่ยลอาจจะเป็นเครื่องมือดึงดูดความสนใจจากคนนอกให้หันมามองภูเขียวมากขึ้น แล้วหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องก็เอาไปแปะในสื่อที่เกี่ยวข้องได้....นักท่องเที่ยวหน้าแปลกก็ชอบด้วยค่ะ

รู้ยัง...ภูเขียวมีสตรีทอาร์ตนะ  พิกัดในซอยเล็กๆ ที่ฉันจำชื่อไม่ได้ คงเริ่มจากความชอบและความชำนาญของคนบางกลุ่ม  

ถ้าคุณภานุผู้เป็นเจ้าถิ่นไม่พาไปก็คงไม่เห็น---วันที่ไปยังไม่เห็นมีการปักหมุดเชคอิน  น่าจะทำจุดเชคอินไว้ด้วย---สายอินดี้มักจะตามหาความแหวกและแตกต่าง  ---ภาพนำเสนอเรื่องราวได้มากกว่าเรื่องเล่า อยู่ที่จะนำเสนอเรื่องอะไร...แต่ถ้าถ่ายรูปได้ นักท่องเที่ยวชอบเสมอ---ถ้าได้รับความสนใจเชื่อว่าแนวคิดนี้อาจจะถูกขยายไปยังพื้นที่ว่าง ณ จุดต่างๆ ในภูเขียว 

ฉันหวังว่าคงเห็น "ภูเขียวสตรีทอาร์ตบ้าน..." ปรากฏในหมุดของโซเซี่ยล เพิ่มเติมจากการแชร์รูปสวยๆ

สำหรับสายกิน ต้องไปในตลาด ฉันเลย ไปกี่รอบๆ ต้องหาเรื่องแวะ ทั้งตลาดเช้าและตลาดเย็น

อยากกินยำผักกูดใส่กุ้งตัวใหญ่กร๊วมๆๆๆ ขึ้นมาทันใด

อันนี้ก็อยากกินน้ำต้มรากบัว หรือไม่ก็รากบัวเชื่อม...

คนในตลาดใจดี  เห็นฉันไปยื้นเอ๋อๆ เก้ๆ กังๆ ก็จะมาชวนพูดคุย ดูน่ารั๊ก...ยังจำโมเม้นต์แม่ค้า งงๆ กับฉัน  แต่เป็นคุณตำรวจมาสอนกรรมวิธีต้มปลา555+  สาคูไส้ทะลักอีกเมนูที่ไม่ควรพลาด ราคาถูกมากกกกกก  กล่องละ 20 หรือ 25 บาทนี่หล่ะ สำคัญตรงความอร่อย ใครรู้พิกัดร้านแจ้งหน่อยนะคะเผื่อฉันไปซื้อเอง ที่ผ่านมาเป็นการฝากซื้อกับการฝากมาให้ทาน

ไส้กรอก กับ หม่ำ นี่อร่อยทุกร้าน  ร้านขึ้นชื่อก็มีหลายร้าน เช่น หม่ำแม่คำตัน 


ภูเขียวยังทำร้านอาหารให้คนในชุมชนกิน  ไม่ใช่แนวจัดหนักปรับรสชาติให้ถูกใจนักท่องเที่ยว  สูตรอาหารจึงเป็นรสชาติท้องถิ่น ออริจินัล  มีโอกาสได้ลองซาลาเปาและกะยาสาตร ข้าวมันไก่และเนื้ออบร้านโกตี๋ ร้านกาแฟโบราณเจ้หวังในตลาด ครัวไร่ภูแสงทอง ส้มตำลาวได้ใจปลาร้านัว ยังมีหลายร้านที่สนใจแต่ยังไม่โอกาสได้แวะ   

ซาลาเปาเจ้หมวย  อยู่ในซอยที่ตัดมาจากเส้นตลาด โทร. 044052184 ต้องลองโดยเฉพาะไส้เค็ม หน่อไม้หมูสับ  มีไข่ต้มด้วย แป้งนุ่ม กินทีไม่น้อยกว่า 2 ลูก---สมัยนี้หากินยาก -- มีกระยาสาตรด้วย

ส่วนอีกเมนูที่อยากให้คนไปเยือนได้ชิม คือ ต้มเก้า...ต้มหน่อไม้ใส่เครื่องยาจีนแบบพิเศษ กินกับน้ำจิ้มถั่วเต้าหู้ยี้...มีที่ภูเขียวที่เดียว   The must เลย

แถวๆตลาดจะมีร้านหนึ่งชื่อร้านอภิสิทธิ์ เป็นร้านขายของชำ หน้าร้านจัดธรรมดามาก เพื่อนจอดซื้อของแล้วบอกว่า ลงมาดูนี่ มีเครื่องจักสานค่ะ  น่าสนใจมาก น้ำลายก็ไหลด้วยความอยากได้อีกแระ มันเป็นกองมหาสมบัติของเครื่องจักสานที่ทำในท้องถิ่น และได้มาจากแหล่งอื่น

รู้จักกันไมคะ  อันนี้คือมาตรวัดโบราณตีตราไว้ที่ถังตวงข้าว  ถังตวงที่ได้มาตรฐานเท่านั้นจะมีการตีตรามาตรวัดนี้ เห็นที่ร้านนี้แหล่ะค่ะ

ออกไปนอกเมืองกันบ้าง มีวันหนึ่งไปหมู่บ้านปลูกต้นตะโกดัด  แต่วันนั้นทำไมไม่ลงเดินดู อดได้รูปเลย  ไม่ไกลจากเมืองค่ะ 5-7 กม.นี่หล่ะ  

ไปดูสนามบินลับ พร้อมเรื่องเล่าของคนที่เคยมาเล่นสมัยเป็นเด็ก สนุกนะ แต่ก็ไม่ลงไปถ่ายรูป—อดได้รูปอีกเช่นเคย

ออกไปอีก 10 กว่ากิโล หมู่บ้านทอผ้าขิดโนนเสลา  คุณสุขุม เพื่อนของเพื่อนยินดีต้อนรับแขกแปลกหน้าใต้ต้นมะขามต้นใหญ่เสมอ 

นอกจากการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายและไหมย้อมสีธรรมชาติแล้ว ยังได้เดินชมการทอและเรียนรู้ภูมิปัญญาของคนในชุมชนอีกด้วย บันทึกฉบับก่อนหน้าฉันเขียนถึงไว้มากเลยทีเดียว และฉันดีใจที่ความพูดมากของฉันได้ชักใยให้คนรักผ้ารู้จักกับคนทำผ้า...เป็นช่องทางการซื้อหามาสะสมสำหรับหลายๆคน

CR: ภาพจาก FB Sukhum Phlaengraksa  https://www.facebook.com/psukhum/photos (22/01/2019)

ณ โนนเสลา บางครั้งไปเจอวงห่อข้าวต้มมัด  วงส้มตำกับผัดหมี่ในงานบุญ งานโฮม และเสียงเรียกให้ไปร่วมวง ซึ่งจะหาไม่ได้จากเมืองใหญ่

CR: ภาพจาก FB Sukhum Phlaengraksa  https://www.facebook.com/psukhum/photos (22/01/2019)

จุดเชคอินสายวัฒนธรรม  คือ วัดพระธาตุหนองสามหมื่น  สายวัฒนธรรมน่าจะชอบเพราะมีความสัมพันธ์กับพระธาตุที่สำคัญอีกหลายองค์ ชมแล้วมีเรื่องให้คิดต่อเยอะ เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ตั้งอยู่บนฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นพระธาตุคู่เมืองภูเขียว ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า 

พระธาตุหนองสามหมื่นก่อนการบูรณะ  CR: คุณภานุพงศ์ เร่งรัดกิจ

รอบๆกำแพงองค์พระธาตุ เป็นภาพวาดและปูนปั้นเกี่ยวกับพระเวสสันดรชาดก 

วัดมีขนาดกว้างมาก ต้นไม้ร่มรื่น เดินเอาเหนื่อยต้องใช้รถ  มีจุดสำคัญๆน่าสนใจหลายจุด  มีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านอยู่ในศาลา 1000 ห้อง  

คนช่างเล่าก็สามารถเล่าได้ถึงเสาพระอโศก ที่ฉันสรุปว่า มันคือเสาของศาสนาพุทธ  เขาวงกตนรก-สวรรค์  เสมาโบราณสมัยทวารวดี



เสมาที่พบนั้นมีมาตั้งแต่สมัยทวาราวดี มีเสมาใบหนึ่งที่ถูกย้ายมาอยู่ที่ศาลหลักเมืองภูเขียว และอีกหลายใบๆถูกส่งไปเก็บอนุรักษ์ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ จ.ขอนแก่น


มีพระนอนองค์ใหญ่ ที่ใครๆ มาที่พระธาตุหนองสามหมื่นจะต้องถ่่ายรูปเชคอิน



ไกด์ท้องถิ่นความรู้ดีมาก เล่าถึงพระนอนปางโปรดอสุรินทราหู  เล่าได้สนุก แต่ในความสนุกปนมากับเสียงหัวเราะ  ทำให้ฉันรู้สึกถูกอำในความไม่รู้ของตัวเอง จนต้องพึง Google ค้นข้อมูลเพิ่ม โดยเฉพาะตอนที่ อสุรินทราหูอุทานว่า อุต๊ะ เมื่อเห็นพระพุทธเจ้าแสดงอภินิหาริย์

แต่ ข้อมูลก็เชื่อถือได้

...ถัดไปอีกประมาณ 1 กม.จะเป็นกระท่อมเจ้าเงาะ หรืออูบมุง  ที่ผูกกับเรื่องสังข์ทอง และโยงไปยังภูคี  ที่เป็นภูเขาในภูเขียว โยงไปตอนที่สังข์ทองตีคลี ตรงนี้ฉันได้รู้จัก ต้นแก้ง (หรือต้นแจง) ที่มีมากและสอดคล้องกับชื่อหมู่บ้าน-บ้านแก้ง  รู้สึกว่าจะเป็นต้นหนึ่งของตลาดไม้ล้อมที่มีการล้อมขาย ราคาสูงเพราะใบสวยและฟอร์มดี

ใกล้ๆ กับอูบมุงมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางปาลิไลยก์ (มักสะกดผิดเป็น ป่าเลไลย ป่าเลไลย์ ป่าเลไลยก์ ฯลฯ) เป็นพระพุทธรูปอยู่อิริยาบถประทับนั่งบนก้อนศิลา พระหัตถ์ซ้ายขวาวางคว่ำบนพระชานุพระหัตถ์ขวาวางหงายบนพระชานุ มีรูปช้างหมอบใช้งวงจับกระบอกน้ำ และ อีกด้านหนึ่งมีลิงถวายรวงผึ้ง

ผ่านจากอูบมุงขับรถผ่านเข้าไปหมู่บ้านไม่ไกลนัก คนนำไปบอกว่าเป็น Unseen ภูเขียว  ฉันแปลว่า "บ่เห็น-ไม่เห็น"... แอบอยู่ ซ่อนอยู่  ไม่ไปหาก็ไม่เห็น...คือจุดรอยพระพุทธบาท  มีรอยพระพุทธบาทจำลอง 4 รอยพร้อมสัตว์ในหิมพานต์เฝ้ารอยพระบาทไว้ไม่ซ้ำกันทั้ง 4 รอย 

มีปูนปั้นเรื่องราวปริศนาธรรมและเรื่องราวความเชื่อในพุทธศาสนา หากตัดหญ้าและปรับพื้นที่ดีๆ สามารถใช้เป็นพื้นที่การจัดกิจกรรมออกค่ายลูกเสือ  หรือค่ายการเรียนรู้ได้อย่างดีทีเดียวเลย

มักรีผล...ที่เคยฟังในนิทานตอนเป็นเด็ก....ไม่รุสมัยนี้  เค้ายังเล่านิทานเรื่องนี้กันอยู่ไหม


ระหว่างทางไปวัด หรือชุมชนแต่ละแห่ง ยังเป็นพื้นที่เกษตรกรรม  มีความสวยงาม ภูเขียวนอกจากปลูกอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลแล้ว  ยังมีการปลูกข้าวและยางพารา แต่ฤดูกาลของการปลูกพืชก็มีมิติที่แตกต่างกันไป

  บริเวณฝายสมเด็จพระเทพ ที่สวยงามจนฉันต้องเดินผ่าแดดไปถ่ายรูป ข้ามสะพานไปฝั่งภูเขาคือหมู่บ้านโนนเสลา

ไม่เร่งรีบก็แวะดูสิมเก่าบ้านแก้ง เป็นโบสถ์หรือสิมโบราณมาตั้งแต่สมัยไหนฉันก็ไม่ทราบ แต่เห็นแล้วรู้สึกถึงคุณค่า 

ฉันไปหน้าเก็บเกี่ยวเห็นชาวบ้านใช้ลานวัดตากข้าว ตามองไปเห็นศาลาไม้หลังเดิม ชาวบ้านก็ได้เล่าถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชนที่ใช้ศาลาหลังนั้นในการเตรียมอาหารเวลาวัดมีงาน ความเป็นอยู่ยังเป็นแบบพึ่งพาแบบสังคมสมัยก่อน--บ้าน วัด โรงเรียน...ในขณะที่โลกทุกวันนี้หมุนไปเร็วด้วยแรงขับของอินเทอร์เน็ต 5G

ส่วนของกินนี่ เห็นเจ๊ๆเค้าเล่าให้ฟังยังไม่มีโอกาสได้ลอง ก็มีข้าวไข่เจียวหมูกรอบ—เฮียธี ที่ เช่นเดียวกับหมกหม้อหน่อไม้ที่หาได้ง่ายในภูเขียว--ก็ภูเขียวติดภูเขานี่คะ  น้ำยาปลาน้ำยาไก่ ผัดหมี่ส้มตำบ้านโนนเสลา ฉันเห็นร้านผัดไทเตาถ่านในตรอก งานหน้าไม่มีพลาด ถ้ามีเวลาก็คงต้องไปกินให้ถึงกึ๋น

ในใจฉัน ฉันคิดว่าคงมีเมืองเล็กๆ อีกหลายเมืองที่คล้ายกับภูเขียว เหมาะกับการพักร่างคนวัยทำงานเหมือนฉัน 

มาหาอะไรทำที่ดูเหมือนว่างเปล่า---ภาษาวัยรุ่นอาจจะว่ามานั่งโง่ๆ 555+ ตอนนี้ขนาดนั่งร้านกาแฟฉันยังเบื่อเลย ระหว่างการนั่งโง่ๆของฉันก็มีคนแปลกหน้าแวะเวียนมาให้รู้จัก ฉันมีเพื่อนใหม่ที่ทำงานหลากหลายอาชีพมาขึ้น  ทำให้ฉันมีความสนใจและความรู้ใหม่ ๆ เช่น โครงการธรรมะยาตราของหลวงพ่อไพศาล วิสาโล ที่เห็นผ่าน---ได้สัมผัสก็ตอนมาหลงภูเขียวนี่หล่ะ

 เวลาที่เดินช้าของฉันจึงไม่ได้เป็นความน่าเบื่่อหรือเสียเวลาทิ้งโดยเปล่าประโยชน์
เบื่อๆหน่อยก็ชะโงกไปดูแปลงปลูกผัก พอได้ความรู้ติดปลายสมองมาเกี่ยวกับการปลูกและทำปุ๋ยไว้ทำเล่นๆหลังเลิกงาน เหอะๆ ทำไม่ได้เหมือนเค้าหรอก...แค่แรงบันดาลใจ  

หรืออีกมุม ภูเขียวก็อาจจะเหมาะกับวัยรุ่นที่ไม่ต้องการอะไรเลย  มาค้นหาความน่าสนใจเอาที่นี่  มาหาความใหม่สด บางทีฉันก็แอบคิดรึฉันมามุมวัยรุ่น 555...มาเฉยๆ มาหาความสดใหม่ให้ชีวิต

ภูเขียวยังเป็นจุดเชื่อมต่อทุ่งกระมัง ลำน้ำพรม ที่มีแหล่งท่องเที่ยวใน อ.เกษตรสมบูรณ์  และข้ามขึ้นเขาภูเขียวไปฝั่งชัยภูมิ ที่มีความสวยงามของธรรมชาติ...อาจจะมีแค่คนกลุ่มเล็กๆที่มีโอกาสเห็นความสวยงาม

ซึ่งสิ่งนี้...อาจจะต้องอาศัยการสื่อสารของในคนในพื้นที่แบ่งปันความสวยงามให้คนภายนอกเห็น จะได้มา"หลงภูเขียว"ด้วยกัน

จริงๆเรื่องราวของภูเขียวจะจบที่ Ep.2 ที่บันทึกฉบับนี้  อาจจะมี Ep.3 สำหรับโปรเจกค์คนเก่าเล่าเรื่องเมืองภูเขียว...จากนิทรรศการภาพเก่าเล่าเรื่อง และเรื่องสั้นเรื่องภูเขียว ของคุณ ปกรณ์ ปิ่นเฉลียว รอดูว่าฉันจะมีเวลาว่างไปนั่งโง่ๆ หาข้อมูลเหล่านี้ได้หรือไม่  ถ้าได้ก็น่าสนใจมากเลยทีเดียว

FootNote---------------------------------

ทริป 2 วัน 1คืนของฉัน ตื่นเช้าเปิดเพลงเพราะๆขับรถมาจากขอนแก่น ชงกาแฟกินมาในรถ หรือแวะร้านระหว่างทาง โดยใบสั่งความเร็วไปบ้าง 2-3 ใบ 555+ จนเข็ด  ถึงภูเขียวสายๆหาของกินเช้า  ไปเล่นทำ Workshop ไร่เพื่อน ระหว่างนั้นก็ไปทิ้งรถให้เค้าล้าง  บ่ายแก่ๆก็ไปเลาะเมือง  หรือเดินเล่นหนองปัง ไปโนนเสลา ไปดูเกษตรอินทรีย์ของน้องๆรุ่นใหม่ที่ฉัน Follow บ้าง 

เย็นมาหาก็หาของกิน ตั้งวงสังสันท์ แล้วเข้าที่พัก เช้าอีกวันไปเลาะตลาดหรือไปเล่นฟาร์มผักออร์แกนิค อยากกินอะไรพิเศษซื้อไปขอให้แม่ครัวไร่ภูแสงทำให้กิน ฉันชอบกินไส้กรอก—จนได้สูตรการทอดที่สวยงามมา (ขอบคุณพี่จิตรแม่ครัวแห่งไร่ภูแสงทองสอน ทำให้ฉันมีฝีมือทำอาหารติดตัว)  

555 ดูแล้วๆแล้วฉันก็คงไม่ได้ไปนั่งโง่ๆอ่ะนะ มีของเล่นเย๊อะ  เล่นนู้นนี่นั่นอีกสักพักก็กลับ...ระหว่างทางมีที่ให้แวะเยอะถ้าสนใจแนวธรรมชาติกับแนววัฒนธรรม

มาดู Workshop ที่ไปเล่นเก็บผักในไร่มาทำเมนูอาหารกัน...เห่อจ้นนน คุยลั่นออฟฟิศ

เมนูสลัดวอเตอร์เครสกับฟักทองและข้าวโพดต้ม โรยงาคั่ว Healthy มาก สลัดนี่สูตรฉันเอง หัดทำน้ำสลัดกับทางไร่

สเต๊กไก่นิวออร์ลีนส์สูตรจากทางไร่  หัดทำ White BBQ Source  กำกับโดยเจ้าของไร่

อันนี้ฝีมือฉันกวนแยม เริ่มจากไปเก็บลูกหม่อนล้างทำความสะอาดเอง ควบคุมการผลิตจากทางไร่  ต้องมาเช้ามากๆ จะได้ไม่ร้อน  ใครสนใจเมนูนี้แนะนำให้นอนค้างตื่นเช้ามาค่อยทำ ทำเสร็จทางไร่ให้เอากลับมา 1 กระปุก และรู้ข่าวว่าขายได้ด้วย...สนใจทำ Workshop อาหารจากผลิตภัณฑ์ในไร่...สอบทางไปทาง FB เพจ ไร่ภูแสงทองนะคะ

หมายเลขบันทึก: 673893เขียนเมื่อ 22 ธันวาคม 2019 03:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 ธันวาคม 2019 18:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อยากไปภูเขียวทันที….จริงๆแล้วภูเขียวคือเมืองสำคัญ มานานมากกว่าพันปี หลักฐานมีเต็มแผ่นดิน ของภูเขียว ไปค้นๆดู ปรากฎว่า มีผู้มากด้วยบารมี ผ่านมาแถวนี้หลาย ท่าน เช่น เจ้าอนุวงศ์ กษัติย์แห่งล้านช้าง เจ้าบุเรงนอง หรือผู้ชนะสิบทิศ ท่านก็ยังแวะมาแถบนี้ ยังไม่รวม เท้าเงาะ กับนางรจนา ท่านก็มาตีคลีที่นี่ อย่างงสิ ก็มันเรื่องจริง

อยากไปภูเขียวทันที….จริงๆแล้วภูเขียวคือเมืองสำคัญ มานานมากกว่าพันปี หลักฐานมีเต็มแผ่นดิน ของภูเขียว ไปค้นๆดู ปรากฎว่า มีผู้มากด้วยบารมี ผ่านมาแถวนี้หลาย ท่าน เช่น เจ้าอนุวงศ์ กษัติย์แห่งล้านช้าง เจ้าบุเรงนอง หรือผู้ชนะสิบทิศ ท่านก็ยังแวะมาแถบนี้ ยังไม่รวม เท้าเงาะ กับนางรจนา ท่านก็มาตีคลีที่นี่ อย่างงสิ ก็มันเรื่องจริง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท