พวกเรา 8 ชีวิต ได้คุยกันนานมาแล้วว่าจะไปเลี้ยงผู้เกษียณในปีที่แล้ว คือ พี่แก้ว กับ พี่หยาด(2561) และปีนี้ คือ พี่แขก (2562) วางแผนกับน้องๆที่เคยทำงานกับกลุ่มวิจัย Research group Empowerment และ Research R2R มี นก นิ่ม นิกา กุ้ง แจ๋ว น้องหลายคนอยากไปทัวร์ภาคเหนือในฤดูหนาว อย่ากระนั้นเลยเราไปปายดีไหม? พี่แก้วก็คิดว่า ถามข้อมูลคุณหมอสุพัฒน์ ใจงาม ดีกว่า เลยถามไปทาง message face book จึงทำให้ทัวร์นี้เกิดขึ้น ดังนั้นการไปทริปเชียงใหม่ ปาย ปางมะผ้า จึงได้รับความกรุณาจากไกด์กิตติมศักดิ์ของเรา คือ คุณหมอสุพัฒน์ ใจงาม และน้องเปิ้ล ภรรยาคนสวยของคุณหมอ ซึ่งมารับทีมเราที่เชียงใหม่ ขอบคุณที่สุดและซาบซึ้งใจมากค่ะ
การท่องเที่ยวในวันที่ 22-25 พฤศจิกายน 2562 ได้ไปเที่ยวชมจุดสำคัญทุกจุด มีความสุขทุกที่ ขอบคุณไกด์ ขอบคุณทีมที่ไปด้วย ขอบคุณทุกคนที่เราได้ไปพบเจอ น้องต่าย น้องชุลี น้องโมเม ลูกศิษย์ครูกุ้ง ชาวบ้านลาหู่ น้องสกาว ลูกสาวคนเล็กของหมอ และคุณแม่ของน้องเปิ้ล ขอบคุณสิ่งดีดีที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้
ขอเล่าให้เห็นบรรยากาศเป็นวันๆไปนะคะ.....
Day 1 วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562
เราเดินทางโดยสายการบินแอร์เอเชีย จากขอนแก่น ถึงเชียงใหม่ 13.15 น ถึงเชียงใหม่ 14.30 น มีรถตู้มารอรับที่สนามบิน จุดแรกที่ไป เนื่องจากมีเวลาไม่มากนัก เราจึงเลือกจุดสำคัญของเมืองเชียงใหม่ คือ วัดที่สวยและมีเอกลักษณ์ สถานที่แรกเราไปชมวัดเจ็ดยอดและตามด้วยวัดต้นแกว๋น ตามรอยละครเพลิงเพลางเทียน และกลิ่นกาสะลอง กินอาหารเย็น อาหารก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นิมมาน นอนโรงแรมบีทูใกล้สนามบิน เราไปวัดแรก คือ วัดเจ็ดยอด สวยงาม ดูขลังมาก เราใช้เวลาเกินชั่วโมง แล้วไปต่อที่วัดต้นแกว๋น เราเคยมาแล้วหลายครั้ง เรายังรู้สึกชอบอยากให้น้องๆได้มากัน แต่มาครั้งนี้เป็นช่วงเย็น ซึ่งแสงแดดจะลับฟ้าอีกทางของโบสถ์ มาตอนเย็นก็ดีอย่าง คือ เห็นเขาเช่าชุดใส่เป็นกาสะลอง น้องในทีมบางคนอยากแต่งกายสวยงาม ดังนั้นทุกคนก็ไม่น้อยหน้ากัน ยอมเปลี่ยชุดสวยทุกคน ด้วยราคาชุดละ 100 บาท ไม่เสียทีที่พวกเราได้ตามละครดังมา ทีมเราออกจากวัดเมื่อตะวันลับฟ้า ความมืดมาเยือนเลยล่ะค่ะ
Day 2 วันที่ 23 พฤศจิกายน 2562
เวลา 6.30 น เดินทางออกจากโรงแรม ไปถึง ปตท แม่ริม เวลา 7.00 น. เพื่อพบกับคุณหมอสุพัฒน์ ใจงามและน้องเปิ้ล ไกด์กิตติมศักดิ์ของเรา แล้วออกเดินทางเพื่อแวะตลาดแม่ริม ซื้อผลไม้และอื่นๆ คุณหมอพัฒน์ชวนเราไปทานอาหารเช้าที่ร้านแป้นเกล็ด อาหารอร่อยทุกอย่างบรรยากาศดีด้วย ได้ชมภาพวาดสวยงาม และดื่มน้ำมัลเบอรี่ปั่นอร่อยละมุนลิ้น จากนั้นเราเดินทางไปถึงอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ถึงแม้จะเคยมาแล้ว แต่บรรยากาศยังคงงดงาม มองเห็นต้นสนที่ยืนต้นโดดเด่น รอคอยคนมาเยี่ยมเยือน ถึงแม้ว่าอากาศยังไม่หนาวมาก แต่ถือว่าอากาศกำลังดี มองเห็นม่านหมอกจางๆ ถ่ายภาพจนหนำใจ แล้วแวะซื้อส้มของชาวบ้าน อร่อยรสเปรี้ยวหวาน กินแก้เมารถได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เราใช้เวลาที่นี่นานพอดู แล้วไปต่อ เพื่อจะรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านปายนา ปายตา อาหารอร่อยทุกอย่าง เจ้าของร้านมีอัธยาศรัยดี มีเสื้อผ้าทำมือสวยงามให้เราเลือกชมอีกด้วย มีที่พักด้วยแต่ละห้องมีเอกลักษณ์เฉพาะสวยน่ารัก เห็นชาวต่างชาติมาเช่าพักกันหลายคน พวกเรานั่งบ้าง นอนบ้างเพื่อพักผ่อนอิริยาบท ที่นี่จนบ่ายแก่ๆ ได้เวลาเข้าที่พัก เผื่อจะได้แช่น้ำแร่กัน 15.30น เข้าที่พัก อ.ปาย ที่รีสอร์ทพริบตา ท่ามกลางหุบเขาที่มองเห็นวิวแม่น้ำปาย พร้อมอ่างน้ำแร่ที่ให้เรานอนแช่ได้และเพลิดเพลิน แต่เราอดใจไว้ก่อน เพราะเหลือเวลานิดเดียวจะต้องออกไปแล้ว
16.30 น คุณหมอสุพัฒน์ และน้องเปิ้ลมารับที่รีสอร์ทพริบตา เพื่อไปแวะนมัสการหลวงพ่ออุ่นเมืองพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ วัดน้ำฮู เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปที่ชาวเมืองเรียกคือ หลวงพ่ออุ่นเมือง ซึ่งไม่เหมือนพระพุทธรูปที่ใด เพราะยอดพระเกศสามารถยกขึ้นได้เหมือนฝาผอบ ภายในตัวพระเศียรกลวง ที่แปลกมากคือ ภายในจะมีน้ำเกิดขึ้นเอง จากคำบอกเล่าของลุงที่เป็นคนดูแลว่า ประมาณ 10 วันน้ำก็จะเต็ม น้ำที่ได้ในพระเศียรมีประมาณ 1 ขัน จะตักน้ำลงมาผสมกับอ่างน้ำใหญ่เป็นน้ำมนต์สำหรับผู้ที่เข้าไปกราบนมัสการ - เที่ยวชมหมู่บ้านชาวจีน ชิมชาที่หมู่บ้านสันติชล แล้วขึ้นไปทะเลหมอกหยุนไหล บนบ้านสันติชลในยามค่ำคืน สวยงาม มองเห็นเมืองปายยามค่ำก็ฟินไปอีกแบบค่ะ ถึงไม้ไม่ได้มาชมทะเลหมอกในช่วงเช้า เราก็ไม่ต้องเสียใจ
19.30 น ทานอาหารเย็นร้านเป็ดย่าง อิ่มอร่อยแล้ว พวกเราเดินเที่ยวชมบรรยากาศเมืองปายยามค่ำคืน การค้ายังไม่คึกคักนัก น้องเปิ้ลไปสั่งข้าวปุกให้เราได้ชิมคนละห่อ หอมงา กินกับกาแฟคงอร่อยสุดยอด ได้เวลาเรากลับเข้าที่พักเกือบ 21.30 น กลับถึงที่พักบางคนก็แช่น้ำแร่ต่อ ส่วนเราขอนอนเอาแรงดีกว่าค่ะ
ไกด์ของเราค่ะ คุณหมอสุพัฒน์
Day 3 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562
7.15 ตอนเช้าเราแวะที่ค๊อฟฟี่อินเลิฟ เพื่อไปถ่ายภาพ ระลึกถึงความหลังที่เราเคยไปและรู้จักปายครั้งแรก แล้วแวะจิบกาแฟที่ร้านกาแฟเข้าท่า เข้าท่าสมชื่อเพราะได้ชิมกาแฟดริป หอมละมุน แล้วไปต่อที่สถานปฏิบัติธรรมของคุณหมอสุพัฒน์ ถวายสังฆทานภิกษุณี 2 รูป ฟังธรรมมะกัน เล็กน้อย ท่านเล่าว่าที่มาบวช เพราะกลัวตาย พอมาปฏิบัติธรรมทำให้รู้ว่า ทุกสิ่งไม่ใช่ของเรา ทำให้อาการกลัวต่างๆลดลง แล้วเยี่ยมชมบ้านพักคุณหมอ บ้านน่าอยู่มาก จากนั้นเรายังได้ขึ้นไปดูบ้านที่เราเคยมาพักเมื่อ 10 ปีก่อน ช่วงมาทำจิตอาสาโกทูโน 11.00 เดินทางถึงปางมะผ้า แวะ รพ ปางมะผ้า เดินทางต่อไปผ่านบ้านจ่าโบ่ 12.30 เดินทางถึงบ้านผาเผือก ร่วมหน่วยแพทย์จิตอาสา เยี่ยมบ้านผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ชาวบ้านส่วนใหญ่ มีอาการปวดตามตัว หลังและขา เพราะเป็นฤดูเก็บถั่วแดงและคัดถั่วทั้งวันเพื่อส่งขาย และเลือกซื้ออุดหนุนสินค้า เสื้อผ้าสวยของชนเผ่าลาหู่ดำ ได้มาคนละตัว สองตัว รับประทานอาหารเที่ยงกับชนเผ่า เมนูชาวมูเซอ มีถั่วแดงทอด หมูสามชั้นทอดกรอบ น้ำพริกลาหู่ แกงไก่บ้านลาหู่อร่อยมากๆ ผักสดกรอบมาก (น้องหมอสุพัฒน์ ลี้ยงอาหารมือนี้) รวมทั้งได้นำเสื้อผ้าบริจาคให้กับชาวบ้านด้วย รู้สึกมีความสุขที่ไปครั้งนี้ 15.00 น เสร็จกิจกรรมจิตอาสาออกหน่วยแพทย์กับคุณหมอสุพัฒน์ เราออกมาแวะร้านกาแฟแถวบ้านจ่าโบ่และแวะร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ทีมเราแวะซื้อเสื้อสวยกัน 16.30 เดินทางไปถ้ำลอด แหล่งท่องเที่ยวอันซีน (UNSEEN) ที่มีหินงอกหินย้อยอันสวยงามพาไปเที่ยวถ้ำน้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปนั่งแพไม้ไผ่ เข้าไปในถ้ำน้ำลอด ชมเสาหินยักษ์สูง 21 เมตร ชมภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ในน้ำมีปลาดุกตัวใหญ่มาก แพ 1 แพนั่งได้สามคน รวมกับคนส่องตะกียงคนและคนพายเรือ คน รวมเป็นห้าคน เมื่อสุดปลายถ้ำ เขาให้เดินขึ้นไปตามบันไดชมบรรยากาศในถ้ำ แต่พวกเราขอชมในแพ จากนั้นก็นั่งแพกลับทางเดิม ระหว่างทางเดินกลับเราแวะถ่ายภาพมาเรื่อยๆ ได้ภาพอัศจรรย์มากทีเดียว 17.30 กลับเข้าที่พักรีสอร์ทบ้านแก้วโมรา และรับประทานอาหารเย็น เป็นอาหารไทยใหญ่ที่รีสอร์ทบ้านแก้วโมรา คืนนี้ลูกศิษย์ครูกุ้ง น้องโมเม เลี้ยงอาหารเย็นค่ะ อร่อยทุกเมนู ที่สำคัญได้กินส้มตำ พอให้หายคิดถึงบ้าน เรามีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานของพวกเราเล็กน้อย มีน้องชุรี ถอดบทเรียน เดี๋ยวตามไปเก็บประเด็นมาให้อ่านกันนะคะ จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้านอน
Day 4 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 (อ.ปางมะผ้า)
ตื่นแต่เช้าชม วิวสวยทะเลหมอก ที่บ้านแก้วโมรา บ้านสวย น้ำใส มีแม่น้ำไหลผ่าน บ้านน้องต่ายอยู่บนเขา เป็นบ้านในฝันของเราเลยล่ะค่ะ ถึงจะไม่มีบ้านแบบนี้แต่เรามีโอกาสได้มาพัก เราก็พอใจแล้วนะคะ บรรยากาศเป็นเลิศ น้องต่ายก็ใจดี น้องโมเมและน้องชุลีมารอส่งพวกเราด้วย หลังทานอาหารเช้า จิบกาแฟ แล้วเราขอชมบ้านน้องต่ายเจ้าของรีสอร์ท ถ้ามีโอกาสอยากมานอนเล่นสักสองวัน 55
เดินทางกลับเชียงใหม่ แวะชมสถานที่ท่องเที่ยวตามเส้นทางกลับ สะพานประวัติศาสตร์ แวะซื้อถั่วลายเสือ ดอยกิ่วลม แล้วยิงยาวมาที่ร้านแป้นเกล็ดทานอาหารกลางวัน ระยะทาง 197.5 km ตามถนนหมายเลข 1095 ก่อนขึ้นเครื่องบินแอร์เอเชีย เรายังมีเวลาไปแวะทานอาหารเย็นที่ร้านโอ้กระจู๋ได้แล้วค่อยไปสนามบินเชียงใหม่ ขึ้นเครื่องบินเวลา 19.25 ถึงบ้านขอนแก่นอย่างสวัสดีภาพ เกือบ 22.00 น
ทีมออกหน่วยแพทย์จิตอาสาบ้านผาเผือก
ชอบภาพนี้ เราถ่ายภาพแถวบ้านจ่าโบ่
โปรแกรมที่แนบมานี้เป็นแผน แต่ความจริงของเรามีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ค่ะ ต้องขอบคุณคุณหมอสุพัฒน์ที่ช่วยวางแผนและปรับแผนให้ราบรื่น ยืดหยุ่นตามเวลา
วัดเจ็ดยอด
วัดเจ็ดยอดสร้างขึ้นในพ.ศ. 1988 โดยพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์องค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์มังราย โดยทั้งตัวเจดีย์และพระวิหารได้ถูกสร้างขึ้นจากหินศิลาแลง และประดับลวดลายปูนปั้น ตามรูปแบบของเจดีย์พุทคายาในประเทศอินเดีย ในอดีตวัดเจ็ดยอดเคยถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ส่วนชื่อของวัดเจ็ดยอดนั้นมีที่มาจากพระเจดีย์หลักที่มีเจดีย์ขนาดเล็กเจ็ดยอดอยู่ด้านบน แต่ในปัจจุบันยอดเจดีย์บางส่วนได้พลังทลายลงมา แต่สภาพโดยรวม และโบราณสถานอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณวัดยังคงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์
วัดต้นแกว๋น
“วัดต้นเกว๋น” วัดเล็กๆ ที่อยู่ในตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ คำว่าต้นเกว๋นนั้น ก็คือ ต้นตะขบป่า มีผลลักษณะสีแดงเข้มถึงม่วงและกินได้ ภายในวัดมีต้นเกว๋นอยู่ เลยตั้งชื่อว่า วัดต้นเกว๋น ก่อนมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดอินทราวาส แต่คนเชียงใหม่ก็ยังนิยมเรียก วัดต้นเกว๋น
วัดต้นเกว๋น เป็นวัดเก่าแก่ที่มีลักษณะงดงามมาก สิ่งที่น่าสนใจ คือ ศาลาจัตุรมุข ซึ่งพบเพียงหลังเดียวในภาคเหนือ นอกจากนี้ ศิลปกรรมล้านนาดั้งเดิมภายในวัดนี้ยังจัดว่าเป็นต้นแบบที่สมบูรณ์และมีคุณค่ามาก สมาคมสถาปนิกสยามประกาศให้เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่นเมื่อปี พ.ศ. 2532 วัดต้นเกว๋น เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมที่แสดงออกถึงแบบแผนทางศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมล้านนา ที่งดงามและทรงคุณค่า แม้จะได้รับการบูรณะซ่อมแซม แต่ยังคงไว้ซึ่งศิลปะแบบดั้งเดิม วิหารวัดต้นเกว๋นต้นแบบหอคำหลวงที่งานพืชสวนโลก วัดนี้ยังเป็นฉากถ่ายละครหลายเรื่องเลยค่ะ
ปี พ.ศ. 2554 มีละครเรื่อง รอยไหม ทางช่อง 3 ปี 2560 ละครเรื่อง เพลิงพระนาง ต่อมาปี 2562 ก็ละครเพลิงเพลางเทียน และกลิ่นกาสะลอง
ข้างวัดมีต้นตาลสูงเด่นเป็นสง่า เราขอถ่ายภาพอีกที
ถึงจะวัยนี้แล้ว. เราแต่งชุดคล้ายกันก็มองดูดีได้ 555
ตัวผู้เขียนเอง ขอฝากภาพไว้ในแผ่นดินค่ะ
แก้วบันทึกไว้แค่นี้ก่อนนะคะ จะค่อยๆทะยอยภาพที่คิดว่าสวยที่สุดลงมาให้ชมอีกนะคะ
..........................
แก้ว...
3 ธันวาคม 2562
ได้บุญกุศลครับ พี่แก้ว ;)…
ได้เก็บความสุขอีกเรื่องหนึ่งในรอบปี 2562 ค่ะ อ วัต
มีคนเคยบอกว่า เพราะธรรมจัดสรรเราเลยได้เจอกัน คงจะจริง==================================…เมื่อวานได้มีโอกาสต้อนรับทีมคณะอาจารย์หมอจากขอนแก่น
….เราปลุกลูกน้อยตื่นแต่เช้า เพื่อให้ลูกรู้ว่าเราจะไปทำงานแล้ว เพราะเคยมีสองครั้งที่ไปแล้วไม่ได้บอก นางตื่นมาร้องไห้งอแงตลอด มีครั้งหนึ่งที่นางล้มป่วยเลย จากนั้นแม่ก็บอกกับเราว่าถ้าจะไปไหนให้บอกลูกไว้ด้วย ตั้งแต่นั้นมาก่อนเราไปทำงานจะปลุกลูกตื่นมาส่งตลอด ตามประสานเด็กนางก็จะยิ้มให้ทำท่าเหมือนขอไปด้วยเวลาเราโบกมือบ้ายบาย
…..เราขับรถออกจากบ้านตอน 06.00 น. แล้วไปเจอกับคุณหมอที่ปาย ก่อนที่จะได้เจอกับทีมอาจารย์ คุณหมอก็บอกกับเราว่า อาจารย์อายุประมาณ…นี้นะ เป็นศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ระดับบิ๊กๆทั้งนั้นเลย พอเราได้ยินที่หมอบอก เราเริ่มรู้สึกกังวล กลัวจะดูแลอาจารย์ได้ไม่ดี ไม่รู้จะวางตัวยังไง
….คุณหมอและภรรยาพาเราไปรออาจารย์ที่ ปายอินเลิฟ สถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะไปเช็ดอินกันเวลามาที่ปาย ซึ่งในความรู้สึกเราสถานที่ตรงนี้ไม่ค่อยมีอะไรที่น่าดึงดูดเหมือนแต่ก่อนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คือมองดูโดยรอบแล้วเหมือนสถานที่แห่งนี้ไม่ได้รับการดูแล หรือบูรณะภูมิทัศน์รอบๆเลย เราก็คิดในใจ เอ…พาอาจารย์มาที่นี่มันจะดีหรอ ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย
…แว๊บแรกที่เห็นคณะอาจารย์ลงจากรถเราก็เกร็งๆเข้าไปสวัสดี แล้วคุณหมอก็แนะนำเราให้กับอาจารย์ แต่ดูเหมือนอาจารย์ท่านๆจะตื่นเต้นใจลอยไปอยู่กับวิวรอบๆตัวแล้ว ใจไม่ได้อยู่กับคนตรงหน้าเลย…..จำไม่ได้ว่าเป็นอาจารย์คนไหนนะ เข้ามาถามเราว่าเป็นลูกคนโตคุณหมอเหรอ?? 555 เรานี่หัวเราะก๊ากข้างในเลย แต่ปากรีบบอกอาจารย์ไปว่า ไม่ใช่ค่ะ ทำงานเป็นเลขาคุณหมอ… อาจารย์ก็ถึงบางอ้อ แล้วรีบเดินไปหา แก๊ง F 4 4 ที่รอถ่ายรูปอยู่ ชื่อแก๊ง F 4 4 (อ่านว่า แก๊ง เอฟโฟร์โฟร์ เป็นฉายาที่อาจารย์นิ่มบอกเรียกทีมอาจารย์ที่มาด้วยกัน 8 คน….ที่เกาหลี จีน ญี่ปุ่น มี F4 แล้ว ที่ไทยเราเลยต้องมี F4 4 ตามนั้นค่ะ)??
…ไม่อยากเชื่อเลย การได้รู้จักกับคณะอาจารย์แค่วันเดียว แต่ทำให้เรารู้สึกผูกพันกับอาจารย์ท่านๆมาก บอกเลยอาจารย์ทุกคนทำตัวไม่สมกับอายุเลย?? แต่ก็นั่นแหละใครบังอาจมันสร้างวาทกรรมว่าคนอายุเท่านี้ต้องทำตัวแบบนี้ อายุเท่านี้แล้วต้องเป็นแบบนี้??
…อาจารย์ทุกคนน่ารัก แข็งแรง ดูสุภาพดีกันมาก เรายังอายที่หายใจเหนื่อยหอบ จะไม่ไหวแล้วตอนที่เดินไปถ้ำลอด เราสัมผัสได้ว่าอาจารย์แก๊งF 4 4 มีมุมมองบวกกันทุกคน เชื่อไหมว่าเวลาไปที่ไหนๆ ถ้าเจอกลุ่มคณะอายุเท่านี้ เรามักจะได้ยินการนินทากันด้านลบเกิดขึ้น แต่ตลอดทั้งวันเราไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งเหล่านั้นเลย มีแต่การพูดถึงกล่าวถึงบุคคลที่สามแต่ในทางบวก พี่โมเองยังบอกกับเราว่า คนอย่างอาจารย์ท่านๆนี่แหละ ตัวอย่างที่ดีที่ผู้บริหารควรจะเป็นกัน …คือทุกคนเก่งมีดีก็พร้อมส่งต่อความดีความเก่งนั้นให้คนรุ่นต่อๆไป มีอาจารย์ท่านหนึ่งไปช่วยเทรนให้โรงพยาบาลที่สุรินทร์ จนทำให้โรงพยาบาลนั้นกวาดรางวัลมาได้มากมายกว่า20 รางวัล หวังว่าวันหนึ่งโรงพยาบาลปางมะผ้าของเราจะได้รับโอกาสนั้นด้วยนะคะอาจารย์
….เราชอบโมเม้นตอนถ่ายรูปของอาจารย์จะเรียกหากัน ต่อแถวเข้าคิวถ่ายรูป ดูน่ารัก รักกันมาก??
อ้อ!!! เกือบลืม ทริปนี้เราได้เป็นตากล้องจำเป็นให้อาจารย์แก๊งๆ F 4 4 ด้วยนะ อาจารย์ได้สอนเทคนิคการถ่ายภาพให้ตากล้องจำเป็นคนนี้ด้วย ต้องขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ คงได้ใช้เทคนิคที่อาจารย์สอนไปใช้ต่ออีกหลายงาน….
อ้อ!!อีกอย่าง เราได้ชื่อใหม่จากอาจารย์ด้วยแหละจูนลี่ ชูสี 555
…ต้องขอบคุณคุณหมอสุพัฒน์ ที่ทำให้ได้มารู้จักกับอาจารย์ เสียดายเมื่อวานตอนมื้อค่ำคุณหมอไม่อยู่ด้วย อาจารย์ทุกคนพูดถึงคุณหมอเหมือนคุณหมอเป็นพระเอกของเรื่องเลย เปรียบดังพระเวสสันดร จนหนูต้องย้อนไปอ่านเรื่องพระเวสสันดรด้วยเลย หนูว่าอาจารย์ก็เปรียบได้เหมือนมากเลย….
น้องชุรี เขียนไว้น่ารักมากค่ะ ขอเก็บบันทึกไว้ให้จดจำนะคะ ชุรี
ร้านอาหารแป้นเกล็ด
ร้านอาหารแป้นเกล็ด
ขอบพระคุณพี่แก้วนะคะสำหรับบันทึกที่เปี่ยมคุณค่าบันทึกจากมือรางวัลสุดคนึงสุดยอดเห็นภาพตลอดการเดินทางทริปเพราะบุญสัมพันธ์
ขอบคุณกุ้งที่เก็บภาพตลอดการเดินทาง
การออกหน่วยแพทย์จิตอาสาเราประทับใจคุณหมอสุพัฒน์มากที่ทำเพื่อประโยชน์สุขของชาวประชา จะเห็นว่าหมู่บ้านผาเผือก ชาวบ้านดูแลชุมชน บ้านสะอาดน่าอยู่ มีธุรกิจขายเสื้อล่าหู่ ขายถั่วแดง อาหารอร่อย ถูกปาก ประชาชนดูขยันขันแข็ง หากสามารถพัฒนาห้องสุขาให้ดีขึ้น จะเป็นหมู่บ้านที่สมบูรณ์แบบมาก
มีคุณหมอสุพัฒน์คนเดียวก็เอาอยู่ค่ะ
น้องเปิ้ล คอยดูแลทีม
ร้านอาหารแป้นเกล็ด
ร้านอาหารปายนา ปลายตา ที่ปาย
เมนูอาหารปายนา ปายตา
เห็นกาต้มน้ำแบบนี้คิดถึงแม่
คุณหมอสุพัฒน์ น้องเปิ้ลและลูก น้องสกาว
สะพานประวัติศาสตร์ ปาย
สะพานประวัติศาสตร์ ปาย
หมู่บ้านชาวจีน หมู่บ้านสันติชล
ถ่ายรูปเล่นๆกันที่ถนนคนเดินปาย ยามค่ำคืน
ร้านขายของ จัดที่ถ่ายภาพด้วย
Coffee in love ถึงแม้จะมีร้านนี้นานมาแล้ว ก็ยังเป็นโปรแกรมที่เราควรแวะผ่าน
ร้านกาแฟเข้าท่า คาเฟ่ที่ใครหลายคนชอบในความเท่ วินเทจ บ้านไม้ สไตล์บ้านปาย และยังเป็นโรงคั่วในตัว ใช้เมล็ดกาแฟของเมืองปาย ด้านหลังเป็นถุงกาแฟนะคะ
หน้าร้านกาแฟเข้าท่า จัดให้ถ่ายภาพ เท่ห์ค่ะ
หน้าบ้าน หมอสุพัฒน์ ใจงาม
บริจาคเสื้อผ้าที่บ้านผาเผือก ปางมะผ้า
สังเกตุการณ์คุณหมอตรวจสุขภาพชาวบ้าน
วิวร้านกาแฟใกล้ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ่ วิวสวยต้องแวะนะคะ
ขอเก็บภาพตาหล้อง น้องกุ้ง สวยดีค่ะ
ขอเก็บภาพตาหล้อง น้องกุ้ง สวย ดูผ่อนคลายดีค่ะ
รีสอร์ทแก้วโมราเราก็ชอบบรรยากาศสดใส
รีสอร์ทบ้านแก้วโมรา
รีสอร์ทบ้านแก้วโมรา
รีสอร์ทแก้วโมรา
รีสอร์ทแก้วโมรา
รีสอร์ทแก้วโมรา
รีสอร์ทแก้วโมรา
รีสอร์ทแก้วโมรา
สวยมากค่ะพี่แก้ว. เพื่อนร่วมทางดีมีศีลเสมอกันต่างมีความสุขนะคะ
ต้องหาทางตามรอยการเดินทางบ้างแล้ว. ขอบคุณค่ะ
เมืองไทยยังสวยงามค่ะ ตามรอยได้เลยนะคะ สวยงามแน่นอนค่ะหมอธิ
แปลงปลูกกระเทียมสวยงาม
ของฝากจากขอนแก่น
หมอพัฒน์ เยี่ยมบ้าน