มหกรรม KM แห่งชาติ ครั้งที่ 3 : จากปิ้งแว๊บ ! สู่ ว้าว !


หลังกลับจากงานมหกรรมจัดการความรู้แห่งชาติ ครั้งที่ 3 มาผมยังอ่านแต่บันทึกของคนอื่น ยังไม่ได้ลงมือเขียนบันทึกของตัวเองเลย ผมไปร่วมงานมหรรมจัดการความรู้แห่งชาติเป็นครั้งแรกครับ ไปแล้วรู้สึกอยากจะเรียนรู้ไปหมด แต่ได้ฟังวิทยากรหลายท่านแล้วทำให้เราต้องรู้จักความพอดี เรียกว่า โลภมากลาภหาย

   งานวันแรกหลังจากได้ฟังศาสตราจารย์ภิชาน ไกรฤทธิ์
บุณยเกียรติ ใน KM วิถีไทยแล้ว สิ่งที่ผมตั้งใจอยากฟังมากคือ ห้องของดร.ประพนธ์ ผาสุกยืด ตอนที่ผมไปนั่งฟัง ก็นั่งอยู่ช่วงท้ายกับผอ.เที่ยง (ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ ม.สงขลาฯ) แต่คนจัดโต๊ะ เค้าบอกว่าจะเก็บโต๊ะให้ลุกไปนั่งข้างหน้า (เป็นเทคนิคให้คนไปฟังนั่งอยู่ด้านหน้า) ความจริงเค้าไม่ได้เก็บโต๊ะครับ เมื่อมีคนมาเยอะ ก็จะยกเก้าอี้มาเสริมใหม่ 

      ดร.ประพนธ์
บรรยายเรื่อง "ไหลลื่น...ไปกับคลื่นแห่งปัญญา" (wafe of wisdom) เป็นที่มาของคำว่า "wow" หรือ "ว้าว"
  เพราะแต่เดิมเมื่อ get อะไรสักอย่างดร.ประพนธ์ จะใช้คำว่า ปิ๊งแว๊บ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น "ว้าว" แล้วครับ 

     ทำให้ผมรู้สึก ว้าว ไปด้วยครับ ที่ว้าวไปด้วยเพราะมีอะไร ที่เหนือกว่า KM โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องลึก ๆ ทางด้านจิตใจ จะทำให้ผมหูผึ่งครับ

       KM หลายท่านมักจะพูดถึงการพบปะกันแบบ F2F , B2B แต่ดร.ประพนธ์พูดถึง H2H (Heart to Heart)  ตอนผมนั่งอยู่กันคุณเมตตาที่รถ ผมบอก Heat to Heat เลยอันพี่เมตตา งง ๆ คงนึกว่าผมคงจะเพี้ยนไปแล้ว เรื่องใจเป็นเรื่องสำคัญ การทำอะไรให้ประสบความสำเร็จใจต้องจดจ่อ และคนส่วนใหญ่เมื่อมีการรับรู้ทางประสาทสัมผัสแล้วมักตีความต่างกันไป ดร.ประพนธ์ ยกตัวอย่างให้ฟัง เช่น เมื่อได้ยินเสียงรถชนกัน เสียงที่ได้ยินนั้น หมอ และทนายความ จะตีความต่างกัน (Mind set : สิ่งที่กำกับอยู่ในใจต่างกัน) หมอจะนึกถึงการช่วยเหลือคนที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนทนายความก็จะนึกถึงเรื่องการว่าความ สิ่งที่สำคัญคือ การรับรู้ทางใจนั้นจะไม่ผ่านการตีความ เรียกว่า ผ่านสายตรง 
            
        ว้าว ต่อไป คือ การก้าวข้ามหลุมดำ ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ว่า หลุมดำคืออะไร เพราะยังไม่ได้ไปเยี่ยมชมห้องหลุมดำ หลุมดำของดร.ประพนธ์มี 5 หลุมครับ เล่นอักษรด้วยตัว P ให้จำง่ายคือ

  • People trap
    หลุมที่เกี่ยวกับคนที่ไม่เห็นคุณค่า บ้าอำนาจ Command&Control ขาดอิทธิบาท 4 ไม่มีคุณอำนวย
  • Perpose trap 
    หลุมที่เกี่ยวกับหัวปลาที่ไม่ชัด หัวปลาไม่สอดรับกับภาพใหญ่
    ทำ KM เพื่อให้ผ่านกพร.
  • Process trap
    หลุมที่ติดกับกระบวนการ แบ่งออกเป็นทางมืด VS ทางสว่าง
    ทางมืด : มัวแต่ติดเรื่องนิยาม เป็นขั้นตอนตายตัว สอนให้คนเดินตาม พยายามที่จะควบคุม
    ทางสว่าง : เข้าใจแก่นแท้ ไม่ติด Step แน่วแน่ที่จะทำ นำกลับมาแชร์ KM ซ้อน KM  แก้ไขปรับปรุง
  • Partform trap
    หลุมที่ติดกับเทคโนโลยี มีแต่ขยะ บรรยากาศแข็งเกินไป ให้ความสำคัญแต่ explicit
  • Performance trap
    หลุมที่ไม่มีผลงานสู่แนวปฏิบัติ ทำKMแล้วไม่มี Action ทำ KMเพื่อKM

          ฟังเรื่องหลุมดำแล้ว อาจารย์ก็ช่วยบอกทางสว่างแห่งปัญญาให้ว่าจะก้าวข้าวหลุมดำทั้ง 5 หลุมได้ จะต้องใช้ 3 L เรียนรู้เพื่อที่จะก้าวข้าม

  • Learning - ความสนใจใฝ่รู้ หมั่นฝึกฝนพัฒนาตน (Personal Mastery) การเรียนรู้มี 3 ระดับ
    - รู้จำ  (สุตตมยปัญญา)
    - ทำเป็น (จินตมยปัญญา)
    - เห็นชอบ (ปัญญา) เห็นตามสภาวะธรรมชาติ เห็นตามความเป็นจริง
    KM ช่วยได้ 2 ระดับแรก   การเรียนรู้ในระดับที่ 3 คือทำเป็น
    เป็นสิ่งที่เหนือ KM ฟังแล้วทึ่งครับ (จิตเหนือสำนึก : การหยั่งรู้)
  • Living (together) - ความสัมพันธ์กัน การอยู่ร่วมกัน ประกอบด้วย 3 C ครับ
    - Community : Cops , F2F , B2B
    - Connecting (people) : H2H (Heart 2 Heart)
    - Collaboration - ร่วมมือกัน (ผู้บริหารอาจต้องสร้างปัจจัย ทำให้ต้องช่วยเหลือกัน)
  • Leading - การนำ ภาวะผู้นำ (Leardership) สร้างวัฒนธรรมที่เอื้ออำนวย การนำต้องเป็นการนำทุกระดับ

       เรื่องการรับรู้ ดร.ประพนธ์ ได้บรรยายให้เห็นถึงความแตกต่างของโลกตะวันตกกับโลกตะวันออก โลกตะวันตกสอนให้ Reprogram จิตใต้สำนึก ส่วนโลกตะวันออกสอนให้ ฝึกสติ เรื่องการฝึกสติ ผมก็ได้เรียนรู้มาบ้าง แต่พูดถึงการ Reprogram จิตใต้สำนึก ทำให้ผม ว้าว ! ขึ้นมาอีก เพราะการรับรู้ที่ถูกบันทึกไว้ในจิตใต้สำนึกโดยที่เราไม่รู้ตัว วิธีแก้ที่ผมได้เรียนรู้มาคือ ต้องใช้วิปัสสนาเป็นตัวแก้

        ดร.ประพนธ์ บรรยายให้ผู้ฟังประทับใจได้ตลอดการบรรยาย ผมไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้หมด ผู้สนใจสามารถติดตามได้จากที่นี้ ครับ http://gotoknow.org/gotoknow/media/nkm3/C1_Prapon/WaveofWisdom3.pdf


          ทุกอย่างเน้นสิ่งสำคัญอยู่ที่ใจ ครับ (ประสาทสัมผัสที่ 6 ใจ ความรัก ความเมตตา) Heart 2 Heart บรรยายจบแล้วก็ใจเต้นตุ๊บ ๆ ไปด้วย เพราะ Powerpoint ของอาจารย์จะมีรูปหัวใจเต้นตุ๊บ ๆ ด้วย  ซึ่งเป็นที่มาของคำถามตอนจบว่า หัวใจใน Powerpoint ที่เต้นตุ๊บ ๆ มีทั้งหมดกี่ดวง โดยให้ผู้ที่ลุกขึ้นยืน เป็นผู้มีสิทธิ์ตอบคำถาม ตอนแรกคนลุกยืนมีน้อย แต่พอตอนท้ายมีหลายคนลุกขึ้นยืน แต่ให้ตอบด้วยการยกนิ้วว่ามีกี่ดวง ผู้ตอบถูกจะได้รับหนังสือแจกฟรีจากอาจารย์ (เป็นเทคนิคให้ผู้ฟังสนใจครับ)


         มีประโยคที่น่าสนใจตอนใกล้จบดังนี้ครับ


        "ถึงแม้เราจะบังคับคลื่นลมไม่ได้ แต่เราปรับตัวปรับใจของเราได้"


                                                                                       บอย สหเวช
                                                                                        12 ธ.ค. 49

หมายเลขบันทึก: 66775เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2006 20:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 10:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
ขอบคุณมากเลยค่ะ น้องบอย ที่นำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง ชอบมากเลยค่ะ H2H เห็นด้วยอย่างยิ่ง หากการทำ KM หรือแม้แต่ทำงานใด ๆ ก็ตาม ถ้าเราต่าง H2H คือให้ใจเราประสานกันเป็นหนึ่ง เชื่อแน่ว่า นอกจากเราจะได้ใจจากคนทำงานด้วยกันเองแล้ว งานนั้น ๆ ย่อมสำเร็จด้วยดีแน่นอนค่ะ
  • ดีใจครับที่คุณรัตติยา ชอบการสื่อสารแบบ H2H (แต่สิ่งที่กำกับอยู่ในใจของแต่ละคนต่างกันครับ)
  • ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ ยิ่งถ้าร้อยเรียงดวงใจให้เป็นหนึ่งเดียวได้ ผมว่าพลังมหาศาลครับ
  • ขอบคุณมากครับ ผมมัวแต่วิ่งไปห้องอื่น ๆ เลยพลาดห้องนี้ครับ
  • แต่เก็บภาพห้อง หลุมดำ มาฝากประกอบคำบรรยายครับ

ขอบคุณมากหนุ่มบอย

ที่บันทึกเรื่องดีๆให้อ่าน

มีความสุขตอนรับปีใหม่นะครับ

-H2H-

คุณบอยคะ

อ่านแล้วเข้าใจและมองชัดมากขึ้น

ในส่วนของคณะฯ ก็ยังขับเคลื่อน KM ไม่ถึงไหน เพราะเรายังไม่ได้ก้าวผ่านหลุมดำที่ว่าสักข้อเลย อืม.....

  • ขอบคุณมากเลยค่ะ  ไม่มีโอกาสไดเข้าฟัง เสียดายมาก 
  • ปีนี้ มัวแต่ลุ้นอยู่ในห้องของกรมส่งเสริมการเกษตร  
คุณบอยคะ ขออนุญาติ link เรื่องเล่านี้ไว้ให้ชาวกรมอนามัยได้เรียนรู้ ที่นี่ด้วยนะคะ http://gotoknow.org/blog/kmanamai-nonta/66774

เป็นบันทึกที่ดีมากนะคะ คุณบอยอย่าลืมเผยแพร่ใน E-News ของสหเวชฯ ด้วยค่ะ

บันทึกได้เยี่ยมมากครับ

F2F คืออะไรอ่ะ

B2B คืออะไรอ่ะ

แตกต่างกันตรงไหน

ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท