วินาทีที่ 1 Start......+++++!!!!!!!!!!!!
"สุกบนโต๊ะไม่ใช่สุกบนเตา"
วันนี้ได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดเทศกาลกินปลาทูครั้งที่ 9 ตอน ปลาทูเต็มสาว
บอกเล่าเรื่องราวของความเป็นปลาทูแม่กลองได้เป็นอย่างดีว่าเหตุใดจึงได้เป็นยอดของปลาทูทั้งปวง
ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสได้รับชมรายการ กบนอกกะลา ตอน ปลาทูแม่กลองนำเสนอเรื่องราวที่กว่าจะมาเป็นปลาทูแม่กลอง ช่วงหนึ่งพิธีกรได้ถามถึงเอกลักษณ์ของปลาทูแม่กลองซึ่งเจ้าของเรือได้กล่าวว่าเป็นเพราะปลาทูแม่กลองเป็นปลาทูที่จับโดยใช้อุปกรณ์จับปลาที่เรียกว่า "โป๊ะ" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ภูมิปัญญาของชาวประมงพื้นบ้านของไทย ทำให้ปลาที่ได้นั้นเป็นการจับขึ้นมาอย่างนิ่มนวล ปราศจากกำลังเช่นการใช้อวนลากของเรือประมงขนาดใหญ่ แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ในปัจจุบันจำนวนโป๊ะเหลืออยู่แค่เพียง 5 ลูกจากทั้งหมดเกือบ 100 ลูกในสมัยปัจจุบันที่สมบูรณ์ถึงขีดสุด มันเป็นสิ่งบ่งชี้ที่สอดคล้องกับความอุดมสมบูรณ์ของทะเลไทยในปัจจุบัน
นอกจากนี้คุณสุรจิต ชิรเวทย์ ประธานหอการค้าของจังหวัดสมุทรสงครามและผู้ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียวประเภทบุคคลประจำปี 2549 ก็ยังได้กล่าวถึงสาเหตุอื่นด้วยว่า แม่น้ำแม่กลองเป็นแม่น้ำที่ไหลออกที่ปากอ่าวแม่กลอง เป็นแม่น้ำที่มีตะกอนมากที่สุดในแม่น้ำที่สำคัญของประเทศไทย ตะกอนที่พัดพามาจะเป็นสารอาหารให้แก่สัตว์น้ำบริเวณนี้มาก เห็นได้จากความหลากหลายความมากมายของสัตว์น้ำบริเวณนี้ แต่หลังจากที่มีการสร้างเขื่อนบริเวณต้นน้ำแม่กลองทำให้บริมาณน้ำที่ไหลลงมาลดลงไปมาก พร้อมทั้งยังทำให้ตะกอนที่ไหลลงมาลดเหลือ 25 % จากปริมาณตะกอนทั้งหมด (แล้วอีก 75 % มันไปอยู่ที่ไหนหว่า) ทำให้ความสมบูรณ์ลดลงไปมาก ทั้งการจับปลาย่างล้างผลาญ ความอุดมสมบูรณ์ที่ลดลงของสารอาหาร ยังไม่รวมน้ำเสียจากโรงงานที่จะส่งผลกระทบต่อปริมาณปลาอีกด้วย เป็นสาเหตุที่จะทำให้เราทุกคนจะได้บริโภคปลาได้น้อยลง....น้อยลง....และหมดไปตามเอกสารยืนยันงานวิจัยของต่างประเทศที่บอกว่าในอนาคตเราจะไม่มีสัตว์ทะเลให้บริโภคกัน
มาถึงงานปลาทูบ้างดีกว่า ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 9 แล้วยังมีเมนูที่ทำจากปลาทูอีก50 กว่าเมนูทุกเมนูล้วนทำจากฝีมือของแม่ครัวจากร้านอาหารชั้นเลิศ(อาหารทะเลต้องให้คนทะเลทำเพราะคนทะเลจะเข้าใจอาหารทะเลได้ดีที่สุด) ทำให้สุกเหมือนกับที่คุณสุรจิตได้พูดไว้ว่า
"สุกบนโต๊ะไม่ใช่สุกบนเตา"
ในงานไม่ใช่มีเพียงแค่ร้านอาหารเท่านั้นยังมีการแสดงของโขนกรมศิลป์และหุ่นละครของโจหลุยห์ด้วย นอกจากนี้ลานวัฒนธรรมยังมีการจัดนิทรรศการ การจำลองโป๊ะปลาทูไว้ในสระน้ำ การทำลานวัฒนธรรมให้เยาวชนได้มีโอกาสมาแสดงความสามารถและที่สำคัญที่เพิ่งได้ข่าวมาแว่วๆว่าจะมีการเสวนาเรื่องแม่กลองกับเศรษฐกิจพอเพียง มีชาวบ้านที่ดำรงชีวิตในแบบเศรษฐกิจพอเพียงบนวิถีของเมืองแม่กลองมาเสวนาด้วย และอาจจะได้นักประวัติศาสตร์ นักเขียนและนักพูดมาร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย นี่ไงหล่ะ งานเทศกาลกินปลาทู ปลาทูปลาประจำชาติไทย ของไทยทุกคนและทุกภาค ปลาที่เกิดมาเพื่อทุกคน........................ลองซะนะเดี๋ยวหมดเวลากิน
บอกเล่าเรื่องราวของความเป็นปลาทูแม่กลองได้เป็นอย่างดีว่าเหตุใดจึงได้เป็นยอดของปลาทูทั้งปวง
ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสได้รับชมรายการ กบนอกกะลา ตอน ปลาทูแม่กลองนำเสนอเรื่องราวที่กว่าจะมาเป็นปลาทูแม่กลอง ช่วงหนึ่งพิธีกรได้ถามถึงเอกลักษณ์ของปลาทูแม่กลองซึ่งเจ้าของเรือได้กล่าวว่าเป็นเพราะปลาทูแม่กลองเป็นปลาทูที่จับโดยใช้อุปกรณ์จับปลาที่เรียกว่า "โป๊ะ" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ภูมิปัญญาของชาวประมงพื้นบ้านของไทย ทำให้ปลาที่ได้นั้นเป็นการจับขึ้นมาอย่างนิ่มนวล ปราศจากกำลังเช่นการใช้อวนลากของเรือประมงขนาดใหญ่ แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ในปัจจุบันจำนวนโป๊ะเหลืออยู่แค่เพียง 5 ลูกจากทั้งหมดเกือบ 100 ลูกในสมัยปัจจุบันที่สมบูรณ์ถึงขีดสุด มันเป็นสิ่งบ่งชี้ที่สอดคล้องกับความอุดมสมบูรณ์ของทะเลไทยในปัจจุบัน
นอกจากนี้คุณสุรจิต ชิรเวทย์ ประธานหอการค้าของจังหวัดสมุทรสงครามและผู้ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียวประเภทบุคคลประจำปี 2549 ก็ยังได้กล่าวถึงสาเหตุอื่นด้วยว่า แม่น้ำแม่กลองเป็นแม่น้ำที่ไหลออกที่ปากอ่าวแม่กลอง เป็นแม่น้ำที่มีตะกอนมากที่สุดในแม่น้ำที่สำคัญของประเทศไทย ตะกอนที่พัดพามาจะเป็นสารอาหารให้แก่สัตว์น้ำบริเวณนี้มาก เห็นได้จากความหลากหลายความมากมายของสัตว์น้ำบริเวณนี้ แต่หลังจากที่มีการสร้างเขื่อนบริเวณต้นน้ำแม่กลองทำให้บริมาณน้ำที่ไหลลงมาลดลงไปมาก พร้อมทั้งยังทำให้ตะกอนที่ไหลลงมาลดเหลือ 25 % จากปริมาณตะกอนทั้งหมด (แล้วอีก 75 % มันไปอยู่ที่ไหนหว่า) ทำให้ความสมบูรณ์ลดลงไปมาก ทั้งการจับปลาย่างล้างผลาญ ความอุดมสมบูรณ์ที่ลดลงของสารอาหาร ยังไม่รวมน้ำเสียจากโรงงานที่จะส่งผลกระทบต่อปริมาณปลาอีกด้วย เป็นสาเหตุที่จะทำให้เราทุกคนจะได้บริโภคปลาได้น้อยลง....น้อยลง....และหมดไปตามเอกสารยืนยันงานวิจัยของต่างประเทศที่บอกว่าในอนาคตเราจะไม่มีสัตว์ทะเลให้บริโภคกัน
มาถึงงานปลาทูบ้างดีกว่า ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 9 แล้วยังมีเมนูที่ทำจากปลาทูอีก50 กว่าเมนูทุกเมนูล้วนทำจากฝีมือของแม่ครัวจากร้านอาหารชั้นเลิศ(อาหารทะเลต้องให้คนทะเลทำเพราะคนทะเลจะเข้าใจอาหารทะเลได้ดีที่สุด) ทำให้สุกเหมือนกับที่คุณสุรจิตได้พูดไว้ว่า
"สุกบนโต๊ะไม่ใช่สุกบนเตา"
ในงานไม่ใช่มีเพียงแค่ร้านอาหารเท่านั้นยังมีการแสดงของโขนกรมศิลป์และหุ่นละครของโจหลุยห์ด้วย นอกจากนี้ลานวัฒนธรรมยังมีการจัดนิทรรศการ การจำลองโป๊ะปลาทูไว้ในสระน้ำ การทำลานวัฒนธรรมให้เยาวชนได้มีโอกาสมาแสดงความสามารถและที่สำคัญที่เพิ่งได้ข่าวมาแว่วๆว่าจะมีการเสวนาเรื่องแม่กลองกับเศรษฐกิจพอเพียง มีชาวบ้านที่ดำรงชีวิตในแบบเศรษฐกิจพอเพียงบนวิถีของเมืองแม่กลองมาเสวนาด้วย และอาจจะได้นักประวัติศาสตร์ นักเขียนและนักพูดมาร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย นี่ไงหล่ะ งานเทศกาลกินปลาทู ปลาทูปลาประจำชาติไทย ของไทยทุกคนและทุกภาค ปลาที่เกิดมาเพื่อทุกคน........................ลองซะนะเดี๋ยวหมดเวลากิน
คำสำคัญ (Tags): #สายลมแห่งอิสระ
หมายเลขบันทึก: 66144เขียนเมื่อ 8 ธันวาคม 2006 23:55 น. ()ความเห็น (7)
ไปกันเลย.........!!!!
- อยากเห็นภาพ
- อยากทานปลาทูตัวอ้วน
- ชอบน้ำพริกปลาทูมากค่ะ
มาเลยครับที่แม่กลอง ไปเดินเตร็ดเตร่มา 2-3 วันแล้วครับกินเกือบครบทุกเมนูซึ่งมีกว่า 50 เมนูและหน้าจะเป็นปลาอยู่แล้วครับ
ไม่ค่อยได้ทานปลาเลยค่ะ..เนื่องจากตอนเด็กๆ โดนก้างติดคอ หุหุ
เรื่องบางเรื่องมันทำให้เราฝังใจครับ แต่คนเราไม่ค่อยกล้าที่จะทำอีกครั้ง ผมว่าถ้าคนเรากล้าที่จะทำในเรื่องที่เคยผิดพลาดอาจเจออะไรที่เป็นกำไรชีวิตให้กับเราได้ครับ
อยากกินปลาทูขึ้นมาซะแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งกินไปเมื่อหลายวันก่อน นั่งกินคนเดียวตัวครึ่ง อิอิ
แล้วก็..เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าปลาทูเป็นปลาประจำชาติ
ขวัญย้ายไปอยู่ ที่ http://learners.in.th/blog/sckimberly แล้วนะคะ ด้วยคำลั่งจากอาจารย์นั่นเอง
ปลาทู ตากลม-กลม ใครก็ชมเนื้อหอมหวาน
อร่อยตั้งแต่อยู่บนจาน เป็นอาหารคู่คนไทย
: )