คราวที่แล้วครูอ้อยได้นำเสนอ ข้อคิดและข้อเสนอแนะในการจัดการเรียนการสอน (4) ซึ่งเป็นการกล่าวถึง เทคนิคการ warm-up มีผู้อ่านบางท่านสงสัยว่า การwarm-up คืออะไร ทำไมต้องมี และได้ประโยชน์อย่างไร ถามเป็นชุดเลย
การ warm-up ในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษนั้น มีความสำคัญมาก เพราะภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาของเรา ครูผู้สอนต้อง..เตรียมการให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแผนการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ อุปกรณ์ และเทคนิคการสอน การนำเข้าสู่บทเรียนและบรรยากาศ
ส่วนใหญ่ การ warm-up ที่ได้ผลคือการร้องเพลง ในชั้นเด็กเล็ก ช่วงชั้นที่ 1 .ป.1-3 แต่ในช่วงชั้นที่ 2 ป.4-6 นั้น น่าจะเป็นเทคนิคการนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการ ถาม- ตอบ ซึ่งครูอ้อยได้ทดลองใช้ เมื่อปีการศึกษาที่แล้ว ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ผลอย่างดี ทั้งฝึกการถามและการตอบอย่างมีคุณค่าให้แก่นักเรียนทั้งห้องทุกคน
ในระยะเริ่มแรก นักเรียนจะฝืดในการคล้อยตามเทคนิคนี้ เพราะนักเรียนยังไม่มีทักษะในการฟัง และการตอบคำถาม เมื่อครูอ้อยถามทุกๆวัน ถามในเรื่องใกล้ตัว โดยใช้คำถามง่ายๆสั้นๆก่อน ไม่นานนัก นักเรียนสามารถตอบและถามครูอ้อยได้ทุกคน
ฝึกการถามและการตอบ ซึ่งในชีวิตจริงนั้น คนเราต้องมีการพูดด้วยประโยคบอกเล่า ปฏิเสธและคำถาม สลับกันไป
ประโยชน์ที่ได้จากการ warm - up คือ นักเรียนจะมีความสนุกสนาน และเริ่มรู้ว่า การเรียนภาษาอังกฤษ ด้วยการพูดนั้น ไม่ได้ยากเลย
นอกจากการ warm-up แล้ว ครูผู้สอนต้องเข้าใจธรรมชาติของนักเรียนในแต่ละวัยที่ตนสอนด้วย นักเรียนในวัยประถมศึกษา ชอบการแข่งขัน สังเกตพบว่า เมื่อมีการแข่งขันทีไร จะสนุกสนาน มีความหมายการเรียน และดำเนินการสอนไปได้ด้วยดี
วันนี้จึงขอเสนอแนะข้อคิดในการจัดการเรียนการสอนในตอนที่ 5 ต่อไป ดังนี้
16. การจัดกลุ่มทำกิจกรรมเชิงแข่งขัน ควรให้นักเรียนแต่ละกลุ่มมีสมาชิกคละความสามารถกัน มีจำนวนสมาชิกเท่าๆกัน ครูผู้สอนควรสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในช่วงนี้ หากมีปัญหาเกิดขึ้นในกลุ่มใด ในคราวต่อไป ควรจัดกลุ่มใหม่ต่อไป ไม่ซ้ำกัน
17. ในระหว่างการดำเนินการเรียนการสอน นักเรียนควรได้รับการฝึกให้พูดด้วยน้ำเสียงที่ดังและฟังชัด ในการนำเสนอและมีบทบาทในการนำเสนอแต่ละครั้ง เพื่อแสดงความมั่นใจและเป็นธรรมชาติ
18. กิจกรรมการเขียนก็เช่นกัน ควรสร้างความมั่นใจในการเขียน โดยมีพจนานุกรมให้นักเรียนได้ค้นคว้าเพื่อความถูกต้องและมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งนักเรียนก็ให้ความร่วมมือดี ในการนำพจนานุกรมมาด้วยทุกครั้งที่เรียนภาษาอังกฤษ
19. เมื่อพูดถึงพจนานุกรม ครูก็ต้องฝึกให้นักเรียนได้ใช้พจนานุกรมให้ถูกวิธี มีความคล่องตัวในการใช้ และรู้สึกว่า เป็นเพื่อนกับพจนานุกรม เมื่อไม่รู้ความหมายของคำศัพท์ นักเรียนจะรู้จักการค้นคว้าทันทีโดยอัตโนมัติ
20. โรงเรียนควรจัดหาพจนานุกรม ที่ดี มีจำนวนพอเพียงสำหรับนักเรียนทั้งชั้นเรียน นักเรียนจะได้รับการฝึกไปพร้อมๆกัน
21. ทักษะการใช้พจนานุกรม ช่วยในการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นกระบวนการแก้ปัญหา เริ่มจากการรู้จักตั้งคำถามและคาดเดาความเป็นไปได้ของคำตอบ แล้วเสาะหาคำตอบ และยืนยันความถูกต้องด้วยตนเอง จนกว่าจะเป็นที่พอใจ การฝึกนักเรียนให้มีทักษะนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของนิสัย ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ซึ่งนำไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต Life-Long Learning
ผมไม่โชคดีเหมือนลูกศิษย์ครูอ้อย
ผมใช้วิธีเรียนด้วยตนเองกับเจ้าของภาษา แบบไม่กลัวผิด ก็เลยพูดได้นิดหน่อย เขียนได้นิดหน่อย ฟังพอได้นิดหน่อยเหมือนกัน
ผมใช้เทคนิคเดียวกันกับลูกสาวและลูกชาย เขาก็ได้ภาษากันทั้งสองคน ทั้งอ่าน เขียน ฟัง พูด
แต่ผมลงทุนกับลูกด้านภาษาค่อนข้างมาก บางคนอาจจะทำไม่ได้หรือทำไม่เป็น
ผมพยายามพาเพื่อนต่างชาติมาทานข้าวที่บ้าน ให้เป็นบรรยากาศของภาษาจริงๆ โดยให้ลูกรู้สึกว่าภาษาต่างชาติเป็นเรื่องไม่น่ากลัว
ผมเลยได้ข้อสรุปว่าทำให้ภาษาต่างชาติไม่น่ากลัวจะเป็นวิธีเรียนภาษาที่ดีที่สุดเหมือนเราไม่กลัวภาษาไทย อย่างไรอย่างนั้น
ในโรงเรียนเราพอจะทำได้บ้างไหมครับ ลูกศิษย์ผม ป โท เอก กลัวภาษาอังกฤษเหมือนเดินเข้าป่าช้าตอนกลางคืนไม่ผิดเลย
ไม่ทราบจะแก้ได้อย่างไร ผมลองวิธีของผมก็ไม่สำเร็จ เพราะไม่มีตัวช่วย และบริบทการพัฒนาก็ไม่ได้อีกต่างหาก
ทำไงดีครับ
สวัสดียามเช้าค่ะ ดร. แสวง รวยสูงเนิน
ครูอ้อยดีใจและยินดีที่จะได้เสวนาภาษากับท่าน
นักเรียนของครูอ้อยมักจะแสดงความดีใจออกนอกหน้าเสมอเวลาครูอ้อยไปสอนแทน หรือเปลี่ยนชั่วโมง
การพูดภาษาอังกฤษ ไม่ใช่การสัมภาษณ์ ครูอ้อยเคยเรียนมาตั้งแต่เด็ก ครูมักจะสอนแบบให้ตอบคำถาม แต่ลืมนึกย้อนว่า ในชีวิตจริงนั้นเรามักจะมีประโยคทุกชนิด บอกเล่า ปฏิเสธ คำถาม คำแสดงอุทาน หรือขอร้อง
ครูอ้อยโชคดีที่ได้แลกเปลี่ยนการพูดภาษากับครูจ้างชาวต่างประเทศบ่อยครั้ง ครูอ้อยจะบอกเธอเสมอว่า ครูอ้อยต้องการจะฝึกหัดการพูดกับเธอ ดังนั้นทุกครั้งที่ครูอ้อยพูดผิดหรือไม่ชัดเจน เธอจะย้ำคำนั้นหรือประโยคนั้นอีกครั้ง เป็นอันว่ารู้ว่าครูอ้อยต้องปรับปรุง
ดังนั้น เวลาครูอ้อยสอนให้นักเรียน จะไม่รู้เบื่อที่จะฟังนักเรียนพูดตาม ครูอ้อยจะใช้สำเนียงแปลกๆให้นักเรียนพูด ให้แตกต่างจากที่พวกเราชาวไทยพูด
โรงเรียนที่ครูอ้อยสอนมีครูจ้างชาวต่างประเทศปีนี้เป็นปีที่สามแล้ว พบว่า เบื้องต้นนั้นนักเรียนกล้าพูด กล้าทักทาย และไม่เคอะเขินที่จะได้พูด
ถามว่าพูดเก่งหรือเปล่านั้น มันต้องค่อยเป็นค่อยไปค่ะ
ครูอ้อยก็พูดไม่เก่ง จะพูดตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม
ฝรั่งบอกว่า No attraction , No attractive ครูอ้อยก็พยายามต่อไป พยายามฟังเธอพูดมากๆและพูดตาม หัดพูดคนเดียวในรถ ดูสิว่าจะพูดได้ยาวแค่ไหนในแต่ละครั้ง ฝึกทุกวัน ค่ะ
มีเรื่องเล่า วันหนึ่งในการอบรมการสอนภาษาอังกฤษ ครูอ้อยได้รับเลือกเป็นผู้ตอบขอบคุณฝรั่งวิทยากร ครูอ้อยก็ไม่มั่นใจเท่าไรในภาษา แต่ครูอ้อยพูดออกมาจากใจ ยิ้มแย้ม ฝรั่งเขาเข้าใจค่ะ
เลยมั่นใจขึ้น พอคราวต่อไป ครูอ้อยจะอาสาสมัครพูดเลยค่ะ มั่นใจขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นเรื่องธรรมดา
ขอบคุณค่ะที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครูอ้อยในเช้านี้ และหวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนกันอีกในโอกาสต่อไปค่ะ
คุณแอ๊ด
แต่พี่อ้อยไม่ได้ไป อย่างไรก็รักทุกคนค่ะ
สวัสดีคะครูอ้อย หนูมีเรื่องจะปรึกษาครูอ้อยนะคะ
หนูชอบภาษาอังกฤษแต่ไม่มั่นใจเวลาที่ต้องพูดกับฝรั่งหรือที่สาธารณะ เพราะกลัวผิด กลัวว่าที่พูดไปนั้นจะผิดหรือใช่คำศัพท์ที่ไม่เหมาะอะไรอย่างนี้นะคะ
ทำยังไงถึงจะมีความกล้าและมั่นใจคะ หรือว่าต้องไปเรียนกับชาวต่างชาติคะ
ครูอ้อยช่วยกรุณาบอกเคล็ดลับในการพูดภาษาอังกฤษให้หน่อยได้ไหมคะ
ได้ทั้งข้อคิดและไอเดียดีๆ จากพี่ครูอ้อย ขอบคุณมากๆ นะคะ
เป็นการสอนที่ดีมาก จะนำไปใช้ดูแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะว่าผลที่ได้จะเป็นอย่างไร
สวัสดีค่ะ น้องรัก ครูอรวรรณ
เอาน้ำหวานมาฝากครูอ้อยหรือคะ กำลังกระหายพอดีเลยค่ะ