รู้จัก Mambo

การจัดการความรู้

รู้จัก Mambo ให้ถึงแก่น

     ในปัจจุบันได้มีเว็บไซต์ ที่เกิดขึ้นใหม่ๆอยู่เสมอ เนื่องจากว่าเว็บไซต์ในปัจจุบันได้ถูกสร้างขึ้นได้อย่างง่ายดาย บางครั้งคนเราไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรมเขียนเว็บก็สามารถสร้างเว้บไซต์ส่วนตัวได้แล้ว และยิ่งตอนนี้เว็บกึ่งสำเร็จรูปหรือที่เราเรียกว่า CMS ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยให้การสร้างเว็บมีความง่ายดายมากยิ่งขึ้น
     Mambo หลายๆคน คงไม่รู้จักโปรแกรมตัวนี้และอีกหลายๆคน ก็คงใช้ไอ้เจ้าตัวนี้ในการสร้างเว็บไซต์ และผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ใช้เจ้าตัวนี้แหละที่ทำเว็บนี้ Mambo เป็น CMS ตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการสร้างเว็บไซต์ คงเนื่องมาจาก Mambo มีการจัดการที่ง่าย และมีความยืดหยุ่นสูงในการปรับปรุงรูปแบบให้ได้ออกมาตามความต้องการของผู้ใช้มากที่สุดในบรรดา CMS ทั้งหมด อีกทั้ง Mambo ได้รับรางวัลต่างมามากมาย ในฐานะ Freeware ยอดนิยม
     Mambo เป็นระบบบริหารจัดการเว็บไซต์ (Content Management System:CMS) ประเภท OpenSource ที่เป็น Free Software ภายใต้ลิขสิทธิ์ประเภท GNU/GPL ที่ใช้งานง่าย มีส่วนประกอบสำหรับใช้งานหลากหลายและสามารถพัฒนาโปรแกรมเพิ่มเติมในรูปแบบ Component หรือ Module ได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน และสามารถกำหนดหรือตกแต่งรูปแบบของเว็บไซด์ (Theme) เพิ่มเติมได้ตามความต้องการ

การสร้างเว็บไซต์ภายใต้ MOS
     นี้จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและใช้ต้นทุนในการพัฒนาไม่สูงมากนัก จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้ในหน่วยงานหรือธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีงบประมาณไม่มากนักแต่ต้องการมี Website ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเหมือนกับองค์กรใหญ่ๆ
      นอกจากนี้ผู้ดูแลเว็บไซต์ สามารถกำหนดโครงสร้างในแสดงข้อมูลของเว็บไซต์ในส่วนของการจัดตำแหน่ง Module ต่างๆในหน้าของเว็บไซต์และสามารถการกำหนดโครงสร้างหมวดหมู่ของบทความที่ต้องการแสดงและสามารถสร้างเนื้อหาบทความต่างๆ ได้อย่างไม่จำกัดจำนวนหน้า ได้ด้วยตัวเองผ่านโปรแกรมบริหารจัดการ Website แบบออนไลน์ และทางทีมงานพัฒนา( mamboserver.com)ได้พัฒนา MOS ออกมา 3 เวอร์ชั่นหลักคือ 4.0 , 4.5 และปัจจุบันได้ออกมาถึงเวอร์ชั่น 4.5.2 ซึ่งมีความสามารถในการบริหารเว็บไซต์ที่มากขึ้นและรองรับการใช้งานหลาย ๆ Template นอกจากนี้ Mambo สามารถเพิ่มเติมฟังก์ชั่นอื่น ๆ เข้าไปยังระบบได้ เช่นระบบซื้อ-ขายสินค้าออน์ไลน์ , มีเดียแกลเลอรี่ , กระดานพูด-คุย ซึ่งผู้ดูแลเว็บไซต์สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้เองผ่านหน้าผู้ดูแลระบบออนไลน์

MOS พัฒนาโดยใช้ภาษา PHP และระบบจัดการฐานข้อมูล Mysql และเปิดโอกาสใช้ผู้ใช้พัฒนาโปรแกรมเพิ่มเติมตามความต้องการใช้งานไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมด้านการจัดเก็บข้อมูล , ระบบ e-commerce , ระบบจัดการเอกสาร เป็นต้น

ความสามารถเบื้องต้นของ MOS
รองรับการใช้งานหลายภาษา
รองรับการใช้งาน wysiwyg editor ทำให้สามารถสร้างเนื้อหา/บทความได้ง่ายเหมือนทำงานกับโปรแกรม MS-Word
ระบบจัดการเนื้อหา/บทความ ( Content Management)
ระบบจัดการข้อมูลการติดต่อ( Address Book)
ระบบจัดการสมาชิก/ระบบส่ง Mail สำหรับสมาชิก ( Member System)
ระบบจัดการรูปภาพและมัลติมีเดียไฟล์ ( Media Galleries)
ระบบจัดการกระดานข่าว( Web Board)
ระบบจัดการสมุดเยี่ยม ( Guest Book)
ระบบจัดการเอกสาร/ระบบจัดการการ Download แฟ้มข้อมูล
ระบบแบบสำรวจความคิดเห็น( Poll)
ระบบจัดการป้ายโฆษณา( Banner)
ระบบจัดการ website สำหรับผู้ดูแลระบบ( Administration System)
สามารถเพิ่มโปรแกรมที่ทำงานด้านต่างๆ ได้ไม่จำกัด
สามารถพัฒนาโปรแกรมเพิ่มเติมโดยใช้ ภาษา PHP และฐานข้อมูล Mysql

ทำไม? ถึงต้องใช้ Mambo
     เนื่องจาก ข้อดีอย่างที่กล่าวมา คือ Mambo นั้น มีระบบในการจัดการนั้นง่าย แบ่งเป็นสัดเป็นส่วน มีระบบ อินเทอร์เฟด ที่สวยงามน่าใช้ และแถมยังเป็น ของฟรีที่คนไทยเราชอบอีกต่างหาก(รวมผมด้วย) ถึงเป็น CMS ยอดนิยม ในปัจจุบัน และอนาคตด้ว

ข้อเสีย
     สำหรับข้อเสีย Mambo จากที่ผมทดลองใช้มาคือว่า ตอนโหลดอาจจะมีปัญหาช้านิดหน่อย แต่ก็ยังคงพอทนครับ กับคุณภาพ ของ Mambo ที่แสดงให้เห็น

ถ้าอยากจะใช้บ้างล่ะทำอย่างไร
     ก่อนอื่นคุณผู้ใช้ก้ต้องหา Server เตรียมไว้ก่อน อาจจะเป็นเครื่องเราก็ได้ แต่ว่าเครื่อง Server นั้นต้อง Support PHP และ MYSQL ด้วยนะ และคุณผู้ใช้ก็ไปดาวน์โหลดตัวโปรแกรม Mambo มาจากเว็บไซต์ของผู้ผลิต คือ http://www.mamboserver.com หรือที่เว็บ http://www.mambothailand.com ของเราก็ได้นะครับ และวิธีการติดตั้งและการจัดการต่างๆ คอยติดตาม ในเว็บ http://www.mambothailand.com ของเราต่อไปนะครับ

ที่มา: http://www.mambothailand.com

[ดร. ดิศกุล เกษมสวัสดิ์]

ได้เข้ามาเรียนรู้  ขอบคุณครับ

[มะปรางเปรี้ยว]

ความสามารถเบื้องต้นของ MOS ถือว่าดีที่เดียวนะค่ะ

ขอบคุณมากจ้า ที่เอาข้อมูลดี ๆมาให้อ่านกัน