Hypothesis (H) : Deductive inference---> : I1, I2, I3, ...................In
(1): Consequence of H
(2):Empirical Test of (1)
(3):Evidence of (2)
(4)Confirm/Disconfirm H
ขอให้สังเกตว่า
(๑) การทดสอบ H นั้น ลึกๆแล้ว มีแบบฟอร์เชิง "ตรรกะ" แอบแฝงอยู่เบื้องหลัง คือ นิรนัย (Deduce) I มาจาก H แล้ว Test I
(๒) รายละเอียดเต็มรูปของกระบวนการจาก (๑) - (๔) ก็คือกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง
(๓) ที่เราพูดกันว่า "เราทดสอบ H " นั้น แท้จริงแล้ว เราตรวจสอบข้อเท็จริงด้านข้อมูลที่ I ของ H บาง I เท่านั้น ยังมี I อีกจำนวนมากของ H (ดูข้างบน) ที่เรายังไม่ได้ทดสอบ ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า "เราไม่เคยตรวจสอบข้อมูลของ H เลย เราตรวจสอบได้ก็แต่ข้อมูลของ I of H เท่านั้น ! " แต่กระนั้นก็ตาม "ไม่ผิด ! ที่เราจะพูดว่าเราทดสอบ H !! "
(๔) เราไมควรใช้ H (Hypothesis) กันให้พร่ำเพรื่อนัก เพราะมันจะเสียความหมายเชิงตรรกของมันไป
อาจารย์ช่วยยกตัวอย่างให้ฟังได้มั๊ยคะ พอดีสนใจเรื่องนี้อยู่พอดีคะ ขอบคุณคะ
Problem : เมื่อคืนนี้ฝนตกหนักหรือไม่?
H : เมื่อคืนนี้ฝนตกหนัก
I1 : ถนนหน้าบ้านเปียก
I2 : ถนนหลังบ้านเปียก
I3 : หลังคาบ้านแถวนั้นเปียก
I4 : หลุมบริเวณนั้นจะมีน้ำขังทั่วไป
ฯลฯ
นั่นคือ H : (Deduce)---> : I1, I2, I3, I4, ................In
เขียนในรูปของ Logical form of H จะได้ว่า
Major premise : If H is true, then so is I1.
Minor premise : But (evidence), I1 is not true.
Conclusion : H is disconfirmed.
คิดว่าที่จะให้ผมเพิ่มเติมก็น่าจะจุดนี้ใช่ไหมครับ ต้องการจะให้พูดตรงไหนอีกให้บอกนะ เรื่องเช่นนี้แหละครับที่ควรหรือต้องเป็นอาหารอันโอชะของนักศึกษาปริญยาเอก จะบอกให้นะ ถ้ากรรมการสอบชั้นเยี่ยม ในการสอบวิทยานิพนธ์เขาจะถามกันแบบนี้แหละ ถ้าน้องนิวโดนถามอย่างนี้ในขณะสอบ ก็ให้ดีใจเถิดว่า น้องนิวได้อาจารย์สอบชั้นเยี่ยมแล้ว และน้องนิวได้ Ph.D ที่น่าอิจฉายิ่ง Nongnew ต้องไปไกลสุดกู่แน่ๆเลย ระวังนะ เพื่อนๆเขาจะค้อนเอานะ !!