๗๐๔. ขอโทษด้วยครับครู.. จากเด็กโง่หลังห้อง


คะแนนเปรียบเทียบ ๒๕๕๙ – ๒๕๖๐ ที่ติดลบ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายและง่ายดายมาก..ถ้าครูป.๖ ยึดหลักสูตรเป็นแกนในการสอน แล้วประเมินผลตามตัวชี้วัดในแต่สาระวิชา..เท่านี้เอง..คุณภาพเชิงบวก..จะเกิดขึ้นทันที..ทุกที่ทุกโรงเรียน

            เราจัดการศึกษาและวัดผลประเมินผลกันแบบเดิมๆ ชั้นป.๖ สอบโอเน็ตเสร็จสิ้น สทศ.ประกาศผล..โรงเรียนรับทราบ จากนั้น..เขตพื้นที่ฯก็ประกาศลำดับคะแนนเฉลี่ยของแต่ละโรงเรียน..จากสูงสุดไปจนถึงต่ำสุด..

            ปีนี้..ผลโอเน็ตในภาพรวมของ สพฐ.มิได้สูงขึ้นแต่อย่างใด ถ้าสพฐ.จะบอกว่าผลโอเน็ตเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพ..ก็แสดงว่า..สพฐ.ยังไปไม่ถึงคุณภาพ และยังพัฒนาได้ไม่คุ้มต้นทุนด้วยซ้ำ

            สพฐ.ยังไม่ได้ออกมา..บอกเล่าสาเหตุของปัญหา เพียงแค่บอกว่าให้โรงเรียนใช้ข้อมูลโอเน็ต..เพื่อพัฒนาตนเองต่อไป แต่โรงเรียนส่วนใหญ่ ทราบดีว่าที่คะแนนตกต่ำเช่นนี้..มาจากสาเหตุใด?

            ผมยังมองว่า..การศึกษาเป็นไปเพื่อพัฒนาตนเอง เต็มตามศักยภาพและบริบท ที่ไม่เท่าเทียมกัน..แต่เขตพื้นที่ก็ยังจัดอันดับอยู่ ถ้ามองในมุมบวก..อาจทำให้ ๑๐ โรงเรียนสุดท้าย มีลูกฮึดสู้ ที่จะลุกขึ้นมา สร้างสรรค์คะแนน  ในปีการศึกษาหน้า..

            แต่ก็อาจมีบางโรงเรียน ที่คิดไม่ออกบอกไม่ถูก กล้ำกลืนฝืนทนกับชะตากรรมเดิมๆ ตกเป็นจำเลยของสังคมร่ำไป ทำอย่างไรก็ไม่ดีไปกว่านี้แล้ว เพาะครูก็มีน้อย ผอ.โรงเรียนก็ไม่มี..นี่คือ..เรื่องจริงที่สะท้อนสุขและทุกข์ของครูและนักเรียนในปัจจุบัน..

            แนวทางพัฒนาโอเน็ตของผม..ทำควบคู่กับการสอนนอกกรอบ..เพื่อการอ่านออกเขียนได้..แต่ด้วยสภาพปัญหาผู้เรียน(บางคน) จึงทำคะแนนโอเน็ตได้ไม่สูงกว่า ป.๖ ปีที่แล้ว แต่ก็สูงกว่าระดับประเทศเล็กน้อย

            การจัดอันดับ..ไม่ได้สร้างปมด้อยให้ผม..แต่การพัฒนาที่ติดลบ..ช่วยสร้างแนวคิดที่เป็นมูลค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดี เพราะปีหน้า..ผมได้วางพื้นฐานผู้เรียนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

            คะแนนเปรียบเทียบ ๒๕๕๙ – ๒๕๖๐ ที่ติดลบ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายและง่ายดายมาก..ถ้าครูป.๖ ยึดหลักสูตรเป็นแกนในการสอน แล้วประเมินผลตามตัวชี้วัดในแต่สาระวิชา..เท่านี้เอง..คุณภาพเชิงบวก..จะเกิดขึ้นทันที..ทุกที่ทุกโรงเรียน

            ที่สุดแล้ว..ก็รู้สึกขอบคุณเขตพื้นที่ที่จัดอันดับโอเน็ตทุกปี..และโรงเรียนก็คงหนีไม่พ้นวงจรการศึกษา ที่ตีค่าหรือชี้วัดคุณภาพกันที่ผลโอเน็ต โดยหลงลืมกระบวนการบางอย่างไป..แต่เอาเถอะ ถ้าทำกันอยู่อย่างนี้..ผมจะสู้กับตัวชี้วัดให้ละเอียดมากกว่านี้แน่นอน

            สุดท้าย..ผมอ่านพบในเฟสบุ๊ค เป็นเสียงรำพึงรำพันของเด็กคนหนึ่ง น่าฟังมาก ลองอ่านดู ครับ

           “ครูครับ ผมได้ O-NETน้อย  ครูคงพลอยโดนตำหนิ มิใช่หรือ  สมองผมด้อยค่า เท่าฝ่ามือ  หัวทื่อทื่อไม่ค่อยมีวิชาการ  ให้ครูด่าครูตี ผมนี้เถอะ  ที่ชื่อผมมันไปเลอะ เป็นตัวหาร  ฉุดคะแนนเพื่อนให้ต่ำ น่ารำคาญ  ให้ครูตีผมประจาน หน้าชั้นเรียน"

            "น้ำตาผมคงไม่ได้ อธิบายหรอก  แค่อยากบอกผมเต็มที่ ที่ขีดเขียน  ทำคะแนนไม่ได้ดี น่าติเตียน  ให้ครูเฆี่ยนเพราะครูอาย ขายหน้าคน  แต่ครูครับถ้าครูให้ ผมไปบ้าน  ช่วยหุงข้าวล้างจาน กวาดถนน  ผมช่วยได้ทุกงาน ด้วยอดทน  เพราะผมจนทำได้ง่าย สบายเลย"

            "แต่สิ่งนี้ไม่มีค่า มีคะแนน  ให้คุณครูภูมิใจเท่า แผ่นเฉลย  ครูคงอาย คะแนนไม่พุ่ง ไม่สูงเลย  ครูโดนเย้ยด้วยเพื่อนครู ต่างโรงเรียน  ผมเรียนจบชั้นป.6 ด้วยบกพร่อง  คำยกย่องไม่มีให้วันเกษียน  คะแนนน้อยผลสัมฤทธิ์ น่าสะอิดสะเอียน  แต่แท่งเทียนแท่งนี้ ยังมีไฟ"

            "ผมขอโทษที่ทำตัว ไม่ดีมาก  แต่ผมอยากฝากครู นานแค่ไหน  ผมรู้น้อยแต่ก็รัก ครูหมดใจ  ขอครูให้อภัยศิษย์ นี้ด้วยเทอญ"             

             ขอโทษด้วยครับครู จากเด็กโง่หลังห้อง

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๙  เมษายน  ๒๕๖๑

 




หมายเลขบันทึก: 646344เขียนเมื่อ 9 เมษายน 2018 18:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน 2018 17:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ชอบบทกวีจังครับ ผอ. ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท