คดีหวย 30 ล้าน ยืดเยื้อหลายเดือน...
จนมีผู้เกี่ยวข้องโผล่มาเป็นตัวละครให้เราติดตามชมกันเพิ่มมาเรื่อยๆ.
ผมไม่เอ่ยชื่อละกัน เดี๋ยวจะติดร่างแหไปด้วย
.
ผมไม่แตะเรื่องคดี เพราะผมไม่เก่งเรื่องกฏหมาย.
และผมก็เชื่อว่าเบื้องหลังน่าจะมีอะไรซ่อนอยู่อีกเยอะ มิฉะนั้น คงไม่บานปลายยืดเยื้อกันมาถึงขนาดนี้
อันนี้ คือคิดจากจาก Common sense พื้นๆ ของผม ...อะไรจะยืดเยื้อขนาดนี้... !!
ก็ติดตามซีรีย์ยาวๆ นี้กันต่อไปนะครับ
.
ฐานะอาจารย์สอนเรื่องคน ผมอยากให้ความรู้ เรื่องการสังเกตคนเอาไว้ครับ
ซึ่งผมเคยสอนในวิชา "เคล็ดลับจับโกหก"
วิธีสังเกตุสิ่งผิดปกติของคน ที่เรียกว่า "พิรุธ"
เวลาดูสื่อ สังเกตคนแบบนี้นะครับ
..."อย่าฟังจากสิ่งที่เขาพูด แต่จงดูท่าทีที่เขาพูด"...
.
เข้าใจไหมครับ... คนเราจะพูดอะไรก็ได้
แต่กริยา บุคลิก (Body language) ในขณะที่พูด โดยเฉพาะเวลาที่อารมณ์กำลังพีค เช่น กำลังโดนซัก
จะแสดงอาการ ซึ่งบ่งบอกถึงความคิดที่แอบอยู่ในใจ
.
คนเรามีความรู้สึกอะไรสักอย่าง ร่างกายจะมีปฏิกริยา แม้จะพยายามเก็บซ่อนท่าทีอย่างไร ก็ไม่มิดครับ
จะมีบางจังหวะที่หลุดพิรุธออกมาให้เราเห็นได้ ถ้าสังเกตุดีๆ ...ซึ่งบางทีก็แว้บเดียว
อันนี้ต้องฝึกสังเกตุนิ่งๆ ด้วยใจที่เป็นกลาง จึงจะเห็นได้
ตั้งสมาธิ ทิ้งอคติ เราจะเห็นอะไรอีกเยอะครับ
.
.
ที่ผมเห็นๆ คนมักจะไปจับที่คำพูด ...แล้วคดีนี้นะครับ ยิ่งพูดยิ่งแตกประเด็นออกไปเรื่อยๆ
คนก็ไปถกกันตามประเด็นที่แตกออกไปอีก แถมมีผู้เกี่ยวข้อง (หรืออยากเกี่ยวข้อง) เพิ่มเข้ามาอีก
เพิ่มเข้ามาหมด ทั้งพยาน ทั้งตำรวจ ... ความยืดเยื้อจึงบังเกิด
.
นี่ถ้ามาจับกันที่กริยา ท่าทาง ดูว่าแต่ละคนเป็นอย่างไรนะ
รับรองคดีจบไปนานแล้วครับ
คนโบราณเขาจะดูกันตรงนี้ มีศาสตร์การดูคน สอนด้วย ปัจจุบันไม่ค่อยมีครับ วิชานี้
ฝรั่งมีสอนเหมือนกัน ค่าเรียนแพงมากๆ เหยียบแสนครับ
(อ้อ... อ.กล้วยสอนไม่แพงนะ ขอโฆษณานิด)
.
เรื่องการดูท่าทางนี้จึงสำคัญกว่า การไปถกกันที่เหตุผล
เพราะเหตุผลเป็นสิ่งที่ใครก็สร้างขึ้นมาได้ ยิ่งเรื่องที่ไม่มีหลักฐานชัดๆ ก็พูดสร้างเรื่องกันไปได้มากมาย
.
และถ้าผมจะพูดกันแบบตรงๆ เลยนะ เอาแบบตรงประเด็น ไม่เย้นเย้อ...
สมัยนี้ก็มีเครื่องจับเท็จนี่ครับ...!!
คดีนี้ แค่จับได้ว่าใครพูดเท็จ คดีก็จบแล้ว จริงไหมครับ ลองคิดตามผมดู....?
ไม่เห็นจะต้องไปสืบอะไรให้ยืดเยื้อจนจะครึ่งปีแล้วยังไม่จบเลย
จริงไหมล่ะครับ ?!!
ไม่มีความเห็น