๒๗ ปีเต็ม กับการปลูกสวนป่าสักทองของครอบครัวปู่จเรและย่าบุษ...นับจากที่ย่าบุษบรรจุเข้ารับราชการได้ประมาณ ๓ ปี...ก็ได้มาทำการปลูกสวนป่าสักทองด้านหลังบ้าน...ควบคู่ไปกับการรับราชการ ตอนแรกคิดจะปลูกถั่ว ข้าวโพด แต่เนื่องจากการทำงานรับราชการ...ย่าบุษต้องเดินทางบ่อยมาก เนื่องจากต้องไปทำงานต่างจังหวัดและอำเภอ ทำให้ไม่สะดวกในการดูแล...อีกอย่างทางปู่เรก็ไม่ค่อยมีเวลาเช่นกัน จึงตัดสินใจปลูกสวนป่าสักทองขึ้น ซึ่งสมัยก่อนนั้นเป็นการรณรงค์อนุรักษ์ป่าสักที่กำลังสูญพันธุ์...และเป็นโครงการที่ ร.๙ ได้มีพระราชดำรัสส่งเสริมให้ประชาชนรณรงค์ปลูกป่า...ทางครอบครัวของเราก็ได้ทำการปลูกป่าสักทองขึ้น เป็นเนื้อที่ประมาณ ๓ ไร่กว่า ๆ...
แรก ๆ ครอบครัวของเราจะปลูกพริกแจวแซมระหว่างต้นสักทอง โดยสับหว่าง ได้ค่าขนมหลายอยู่...แต่เมื่อต้นสักทองโตขึ้น จึงหยุดปลูกพริก...ปู่เรจะเป็นคนคอยละกิ่งสัก ไม่ให้แตกกิ่ง ก้าน คือ ให้ต้นสูงเข้าไว้ เพราะจะได้ลำต้นเปา ขยายพื้นที่โดยทำให้ต้นสักทองต้นโตและใหญ่มากขึ้น...ดีกว่าไปเติบโตที่กิ่ง ก้าน...เราทำกันมาแบบนี้ ตั้งแต่อาจารย์ภัครและพ่อเพรียงของฟ้าคราม อายุประมาณ ๓-๔ ขวบ จนพวกเขา ๒ คน มีครอบครัวแล้ว...นับเวลาได้ ๒๗ ปีเต็ม
มาบัดนี้คราวใด เวลาเข้าสวนสักทอง จะทำให้พวกเราอดภูมิใจไม่ได้ ที่พวกเรามิได้ทิ้งเวลาให้เสียไปเปล่าประโยชน์...ตอนนี้หากต้นสักทองล้มหรือหักลง เราจะตัดออกและปลูกต้นยางนาเพื่อทดแทนต้นสักทอง...ต้นยางนานั้น โตเร็วมาก ๆ ไม่กี่ปี ต้นก็โตเอามาก ๆ...ปู่เรจะคอยดูแลให้พวกเราแทน...นับว่าเป็นมูลค่าของครอบครัวเราอย่างมากมาย เป็นสิ่งที่ครอบครัวเราทำควบคู่ไปกับการรับราชการ
ในครั้งแรกพวกเราคิดว่า...ต้นสักที่เราปลูกกันจะมีสักขี้ควาย (สีดำ) ด้วย แต่เปล่าเลย...ไม่มีสักต้น มีแต่ต้นสักทองเท่านั้น นับว่าเราโชคดีมาก...ต้นสักทองจะมีเนื้อสีเหลืองทอง ไม่ดำเหมือนต้นสักขี้ควาย...เข้าไปในสวนป่าสักทองคราใด สุขใจมาก ๆ กับผลงานชิ้นนี้ของครอบครัวเรา
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้าอ่านบันทึกนี้ค่ะ
บุษยมาศ แสงเงิน
๙ เมษายน ๒๕๖๑
ป่าสักทองสีเขียว ชอบๆค่ะ มรดกถึงลูกหลานนะคะ และปวงประชารับผลดีจากป่าปลูก
ขอบคุณค่ะ คุณหมอธิ…ชอบบรรยากาศของธรรมชาติค่ะ