เพศศึกษาในภัตตาคาร


ค่ำคืนนี้ผมมีเดทกับสาวคนรักอายุ ๑๖ มันช่างชุ่มชื่นหัวใจนัก

น้องจ้า สาว ป.๖ เขามีปาร์ตี้กับเพื่อนร่วมรุ่น เธอบอกว่า นี่เป็นงานปีใหม่สุดท้ายของชีวิตนักเรียนโรงเรียนนกฮูก (แหม่ ฤดูนี้ อะไรๆก็เป็นครั้งสุดท้ายไปเสียหมดเชียวนะ)

อันที่จริง ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก ว่ามันเป็นปาร์ตี้ของเด็กป.๖ หรือของผู้ปกครอง เพราะเขาดูตื่นเต้นกว่าลูกๆเสียอีก

ผมว่า นี่คือเสน่ห์อันแท้จริงของโรงเรียนลูกสาวผมนะครับ พ่อ แม่ ครู และลูก ล้วนแล้วแต่สนิทกันเหมือนครอบครัวเดียวกันกระนั้น

แต่เมื่อถึงเวลาแยกย้าย ก็ต้องแยกย้าย เหมือนวัฏจักรของชีวิต รุ่นแล้วรุ่นเล่า (ยังครับยัง นี่แค่งานเลี้ยงปีใหม่ มิใช่ farewell party) งานเลี้ยงเมื่อเรียนจบ จะมีน้ำตามากกว่านี้แน่นอน

มาเรื่องของผมต่อ

เมื่อน้องมีปาร์ตี้ แม่ก็ต้องไปดูแล ผมเลือกที่จะนอนอยู่ที่บ้านเพราะลูกสาวคนโตเธอคงไม่ยอมไปร่วมงานของเด็กๆเป็นแน่แท้ (มันคงน่ารำคาญมากมาย) และท้ายที่สุด เราก็ต้องไปหาอะไรกินกันในมื้อเย็นสองต่อสอง

ฮ่าฮ่า พ่อชอบ

เวลาอยู่กับแป้ง ผมสบายใจเรื่องกิน เพราะ เธอไม่เรื่องมาก แค่พ่อบอกว่า อยากดื่มไวน์ เธอก็แค่พยักหน้า

ก็ไปกันเลยสิครับ

..........................

ทุกครั้งที่ได้อยู่กับแป้งเพียงลำพัง ผมรู้สึกมีความสุข

ความทรงจำตั้งแต่ลูกคลอดพรั่งพรูออกมาจากทุกซอกกลีบของรอยหยักในสมอง

แต่เอาเหอะ วัยรุ่นมันก็ไม่ค่อยชอบนักหรอกที่พ่อแม่จะมานั่งพร่ำเพ้อถึงความหลังที่มันจำได้ให้ฟัง แต่เดี๋ยวก่อน ในเรื่องที่มันจำไม่ได้ มันก็ยังคงฟังนะครับ แป้งจะแสดงแววตาของการรับฟังทุกครั้งเมื่อพ่อเล่าเรื่องเธอเมื่อครั้งยังเป็นเด็กในส่วนที่ไม่เคยเล่า หรือไม่ก็เธอยังคงเล็กเกินไปที่จะจดจำทุกเรื่องราวได้ เป็นต้นว่า การระบาดของโรค SARs ในวันที่ครอบครัวเราอยู่เกาะพีพี ช่วงเวลาที่ลูกติดตามพ่อไปประชุมเรื่องทำแท้งที่เชียงรายบ้าง ภูเก็ตบ้าง พ่อเป็นหมอหนุ่มที่อายุแทบจะน้อยที่สุดในทีมงานที่หิ้วลูกเมียไปด้วยกันทุกที่ และลูกก็ถูกบรรดาศาสตราจารย์อาจารย์พ่อหลายคนช่วยกันอุ้มบ้าง หยอกล้อกันบ้าง เป็นบุญของลูกนัก ซึ่งน้องจ้าแทบจะไม่มีโอกาสนั้นเลย เพราะว่าถึงเวลานี้ อาจารย์หลายๆท่านของพ่อก็แก่งอมเกินไปกว่าที่จะมาอุ้มลูกสาวของพ่อไหว

“ถามจริงเถอะ มีคนมาจีบลูกบ้างมั้ย” 

“นี่ นักเรียนในโรงเรียนของลูก ได้ข่าวว่ามีใครได้เสียกันแล้วบ้างมั้ย”

“มีใครเคยท้องกันมั้งมั้ยอ่ะ”

“เพื่อนคนนั้น พ่อมันยังก้าวก่ายชีวิตแบบสุดๆอยู่อีกมั้ย”

คำถามดิบๆแบบนี้ ผมใช้ถามลูกสาวคนโตอยู่บ่อยๆ

“มีคนได้เสียกันแล้วบ้างมั้ย” ผมถามอีกครั้ง

“มี” เธอตอบ

“แล้วลูกไปรู้เขาได้ยังไง ไม่ได้เห็นจริงๆเสียหน่อย และพ่อก็ไม่เชื่อว่าจะมีใครเอาเรื่องแบบนี้มาเล่ากัน” น่าน....พ่อแย้ง

“ผู้หญิงมันไม่พูดหรอก แต่ไอ้ผู้ชายมันมาพูด” เธอเล่ามา

“แล้วลูกเชื่อมันมั้ยล่ะ” ผมยังคงมีอะไรบางอย่างติดในใจอยู่

“เชื่อ เพราะแป้งดูพฤติกรรมของน้องผู้หญิงแล้ว ก็น่าอยู่นะ” คำอธิบายของลูกมันชัดเจนดี แต่พ่อก็ยังไม่ค่อยเชื่อสนิทใจเท่าไหร่นัก

“เห็นแค่พฤติกรรมภายนอก ลูกก็เชื่อแล้วเหรอ พ่อว่าอาจจะไม่เป็นจริงอย่างที่ลูกเห็นก็ได้นะ หลายๆครั้งเมื่อพ่อตัดสินคนอื่นจากภายนอกแล้วพ่อต้องมาขอโทษเขาในใจก็บ่อยไปนะลูก เด็กที่ดูแรด อาจจะดูแรดจริง แต่ภายในเขาอาจจะรักเนื้อรักตัวก็ได้นะ พวกนี้เก่งออก มีทางหนีทีไล่ที่ว่องไว ลูกลองคิดดู ใครจะเอาเรื่องบนเตียงระหว่างตนกับคนรักมาเล่ากันสนุกๆ มันอาจจะไม่ได้เอากันจริงๆ แต่เอามาพูดเล่นกันเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของก็ได้นะ แต่พ่อว่า ผู้แบบนี้มันก็จัดว่าเลวพอควร ลูกว่ามั้ย” คราวนี้แป้งแบะมุมปากเป็นการตอบรับ (มันหมายความว่าอะไรวะ)

“แล้วมีใครท้องกันบ้างมั้ยอ่ะ” เอาตรงประเด็นกันเลย

“ไม่มีหรอกพ่อ” เธอตอบ

“ลูกรู้ได้ยังไง”

“เอ๊า แป้งรู้ก็แล้วกัน” 

ฮั่นแน่ ท่าทางลูกสาวผมก็เป็นเจ้ากรมข่าวกับเขาเหมือนกัน 

“เอาเหอะ ใครท้องก็รีบบอกให้เค้ามาหาพ่อก็แล้วกัน” ผมบอก

“พ่อจะต้องให้ประกาศเลยเหรอ” ลูกสาวย้อนกลับมา

“อันที่จริง คนเดี๋ยวนี้เค้าก็เก่ง หาบริการง่ายอยู่แล้วล่ะ เพียงแต่จะปลอดภัยหรือไม่ก็อีกเรื่องนะ แต่พ่อว่าคุณครูของลูกหลายคนก็น่าจะรู้นะ ว่าพ่อทำแท้งเก่ง” 

คราวนี้เธอเหลือกตาขึ้นมอง แสยะยิ้มมุมปาก “พ่อดังขนาดนั้นเลยเหรอ” 

“หึหึ แล้วลูกว่าไงล่ะ” 

คราวนี้เธอทำท่ามองบน ยักไหล่นิด ๆ แบบให้ดูน่าตบหน่อยๆ

“แล้วเมื่อไหร่จะให้พ่อสอนวิธีการใช้ถุงยาง” 

ผ่าง....มันคงเป็นความกล้าหาญอย่างมากที่ถามคำถามนี้ออกไป

“พ่อสอนแล้วนี่” เธอตอบเรียบๆ

“เฮ้ย ตอนไหน ไม่เคยเลย” ผมตกใจ ตกใจที่เสือกลืม 

“จริงอ่ะ ไหนบอกหลักการมาดิ๊” ผมทดสอบลูกทันควัน

“ก็บีบหัวถุงยางก่อนให้แบน แล้วใส่รูดลงมาก็แค่นั้น” เธอทำท่าแสดงด้วย

ฮ่าฮ่า มันสุดยอดมากเลยลูกเอ๋ย

“ถ้าไม่บีบปลาย จะเกิดอะไรขึ้น” ผมยังคงไม่เลิกตอแย

“แตก” เธอตอบเฉยๆ (แบบว่าลูกพ่อชิ้บหาย)

“ฮ่าฮ่าฮ่า เชื่อมั้ย พ่อก็เคยทำแตก ถุงรูดมาอยู่ที่โคนไข่เลย” ผมนึกย้อนไปถึงคืนนั้น คงใส่เร็วไปหน่อย ประกอบกับดันไปใช้ถุงยางหมดอายุด้วย ไม่ใช่แค่เพิ่งหมด แต่มันหมดอายุไปเป็นปี ทำไงได้ อารมณ์นั้นมันขี้เกียจออกไปหาซื้อ (แบบถ้า ถ้าออกไปซื้อจริงๆ กลับมาถึงบ้าน เมียก็คงกรนไปแล้ว)

“ท้ายที่สุด ต้องวิ่งไปหาซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินกันตอนดึก ไปซื้อที่ร้านของเพื่อนลูกนั่นแหละ” แววตาของลูกดูสนใจขึ้นมาแวบหนึ่ง นั่นคงเป็นเพราะเรื่องนี้เธอยังไม่เคยฟัง

............................

เป็นไงครับ การพูดคุยของเราสองพ่อลูก เร้าใจไหม

เรื่องเพศ ไม่สอนตอนนี้ แล้วจะให้สอนกันตอนไหน 

สอนที่ไหนก็ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เรากล้าสอนลูกหรือไม่ จะให้เราเป็นคนสอน หรือจะให้แฟนมันสอน

ลองตอบคำถามง่ายๆ แบบนี้ดูนะครับ

.............................

บรรยากาศในร้านอาหารดูสงบ ไวน์แดงถูกบรรจงขึ้นมาจิบ

ชื่นใจ

แต่เอ๊ะ ....มันจะเงียบไปสักหน่อยมั้ย

แขกอีก ๒ โต๊ะของร้าน รวมถึงพนักงานเสิร์ฟอาหาร เขาหยุดกิน หยุดคุย และคงกำลังฟังเรา ๒ คนคุยกันเรื่องสำคัญพอดีสินะ

ธนพันธ์ ชูบุญสอนเพศศึกษาลูกสาวคนโต

๑๗ ธค ๖๐

คำสำคัญ (Tags): #เพศ#เพศศึกษา
หมายเลขบันทึก: 643496เขียนเมื่อ 21 ธันวาคม 2017 11:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม 2017 11:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

-สวัสดีครับพี่หมอ

-ไม่เพียงแต่คนในร้านที่เงียบนะครับ

-คนอ่านก็เงียบเหมือนกัน 555

-ลุ้นๆ ว่าสาวน้อยเธอจะตอบคำถามแบบไหน

-ขอบคุณประสบการณ์ชีวิตด้วยนะคร้าบ 55

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท