ขอเล่าย้อนถึงสาเหตุที่พระซนมาอีสาน ทีแรกมาหาหลวงปู่น้อยที่มุกดาหารก่อน
เพราะได้กิตติศัพท์ว่า ท่านเป็นพระปฏิบัติ และที่สำคัญมีคำล้ำลือว่าท่านอายุร้อยกว่าปี !
ที่หนักกว่านั้น บอกว่าท่านอายุ 250 ปี !!...โอ้ จริงเหรอเนี้ยะ
ทราบว่ามีคนเคยไปถามท่านว่าท่านอายุสองร้อยกว่า จริงเหรอครับ...
ท่านตอบว่า.. "คนห่าอะไรจะอายุมากขนาดนั้น.!!.."
เจอคำตอบอย่างนี้จึงหมดคำถามกันไป !!....
.
ขณะที่พระซนย่างก้าวเข้าสู่วัดของหลวงปู่น้อย เป็นเวลาฉันเช้า
พระนั่งเรียงกันในศาลารอฉันอาหาร แว่บแรกมองไป..หาหลวงปู่ไม่เจอ
เอ้..หัวแถวไม่มีพระ มีพระนั่งอยู่รูปเดียว...
แต่เดี๋ยวเดียว ก็มีพระเด็กๆ หรือเณร เดินดุ่มๆ มานั่งหัวแถว
หา..ไม่ใช่เณร นั่นคือหลวงปู่ ..โอ หลวงปู่...ทำไมตัวเล็กอย่างนี้
หลวงปู่เป็นพระอ้วนๆ แต่ตัวเล็กมากๆ ดูเหมือนเด็กอ้วนๆ เด็กประมาณ 12-13 เอง
ก็ดูท่านมีอายุแล้ว แต่ยังคล่องแคล้ว เดินไว ดูแล้วอายุไม่น่าถึง 100 นา...
ยังไงพระซนก็ตั้งใจว่าจะไม่ถามท่านเรื่องอายุนะครับ...เสียว
.
อยู่กันคล้ายชาวป่า วัดบรรยากาศเงียบเชียบ ชวนเหงาเป็นอย่างยิ่ง
พระซนคุยกับหลวงปู่ ท่านเล่าถึงตอนที่ออกไปธุดงค์ในป่าลึก ท่านชอบเดินตอนกลางคืน
แถมบางทีไปในที่ ที่มีกับระเบิดด้วย สมัยนั้นอีสาน มีคอมมิวนิสต์ ท่านก็ไม่กลัว
ถือว่าท่านเป็นพระปฏิบัติที่เข้มแข็งองค์หนึ่ง
.
มุกดาหาร หน้าหนาว นี่ครตหนาว......
ยิ่งเป็นพระนี่ใส่ชุดจีวรจะโปร่งๆ ...เวลาหน้าหนาวนี่สุดๆ
พอตกเย็นก็ต้องนั่งผิงไฟกันเลย จริงๆ พระผิงไฟนี่ ผิดวินัยพระนะครับ แต่นี่ไม่ไหวจริงๆ ต้องยอม
ขนาดแกล้งถีบหมา เข้าไปใกล้ๆ กองไฟ มันยังหน้าเฉย ไม่ร้องซักเอ๋ง
เวลานอน ชุดใส่นอนก็มีทั้งเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวกไอ้โม่ง ถุงมือ ถุงเท้า
เวลาลงจากกุฏิไปฉี่ ใครเห็นเข้า ไม่รู้เลยว่าพระหรือโยม
การนอนนี่ต้องเอาผ้านวมหนาๆ มาซ้อนๆ กัน 2 ชั้น เสร็จ "ห่อ" ห่อนะครับ ไม่ใช่ห่ม
คือนอนแล้วก็ม้วนๆ ให้แน่นเลย ไม่ให้ลมเข้า กลมเป็นแยมโรลเลย แค่ห่มเอาไม่อยู่
หลับๆอยู่ ถ้าขยับนิดนึง มีช่องลมเข้าปึ๊บ เย็นปั๊ป ตื่นเลยครับ ...รู้เลยว่านอนคืนนึงขยับตัวกี่ครั้ง
.
เวลาที่ทรมานที่สุดคือตอนตื่นเช้าไปบิณฑบาตร ลุกยากที่สุด ไม่อยากลุกเลย มันโอ้ยยยย หนาววว
ลุกขึ้นมาห่มผ้า ตัวสั่นแหง่กๆ เอาจีวรและสังฆาฎิมาซ้อนกัน 2 ชั้น
บิณฑบาตร เท้าเปล่า เหยียบไปบนน้ำค้างเย็นๆ โอยยยย จับใจเลยครับ
พอชาวบ้านใส่บาตร เป็นข้าวเหนียวร้อนๆ ควันฉุยเลย... โหย...กอดบาตรใหญ่เลย
ถ้าไม่ตั้งใจมั่นว่าจะค้นหาสัจจธรรมให้ได้ พระซนไม่อยู่แล้วครับ กลับกรุงเทพนานแล้ว
.
ครั้นจะสรงน้ำ(อาบน้ำ) ได้ตอนบ่ายสองบ่ายสามแค่นั้น นอกนั้นเวลาอื่น หมดสิทธิ์
ไปในลำธารหลังวัด เป็นลำธารที่ไหลมาจากภูเขา
เย็นสุดๆ ประมาณน้ำที่ใส่น้ำแข็ง แบบน้ำที่น้ำแข็งละลายน่ะแหละ
นี่หนาวสุดขีดไม่พอ ...มาเจอน้ำเย็นสุดขั้วอีก
เวลาลงไปต้องค่อยๆ จุ่มลงไปทีละนิด เอาเท้าจุ่ม... จี๊ด...หยุด.. หนาว...รอให้ชินก่อน
แล้วก็ค่อยๆ ขยับลงไปอีกนิด ...กว่าจะลงไปทั้งตัว ประมาณ 15 นาทีโน้น
ลงไปก็หนาวฟันกระทบกันกักๆๆๆ ตัวงี้ชาเลย
เณรน้อยมาจากไหนไม่รู้ วิ่งมาโดดตู้ม น้ำกระจายเลย
จ้าก...จะฆ่าตัวตายเหรอ!! .... เณรน้อยก็เล่นน้ำเฉ้ย ...โอ้..อะไรจะเก่งขนาดนี้
.
หนาวมากๆ แล้วเป็นไงครับ ง่วงครับ บรรยากาศพาไป พระซนเคร่งๆ ก็เริ่มคลาย
เริ่มนอนครับ อากาศมันน่านอนนี่ มันหนาวๆๆ มันนอนสบาย อืม... ล้มตัวก่อน
เช้าเอน เพลนอน บ่ายพักผ่อน ค่ำจำวัด
พระซนไม่เป็นพระปฏิบัติแล้วครับ กลายเป็นพระนอน ปางไสยยาศน์น่ะ......
ถีนมิทธะ คือ ความขี้เกียจเริ่มเข้าแทรก
อุปสรรคด่านแรกที่ผู้ปฏิบัติธรรมมักต้องเจอ และต้องผ่านมัน....ถีนมิทธะ
.
เรื่อง พระซนตอนอื่น อยู่ที่ https://www.gotoknow.org/blog/prason
.....(*_^)...
-สวัสดีครับอาจารย์
-จังหวัดมุกดาหารเป็นจังหวัดที่ถือว่าเป็นแหล่งให้ความรู้และประสบการณ์ชีวิตกับตัวผมครับ
-เส้นทางเดินของผม เกิดที่จังหวัดลำปาง เรียนหนังสือที่จังหวัดมุกดาหาร มาทำงานจังหวัดกำแพงเพชร
-จากบ้านเกิดสู่เมืองสุดเขตแดนสยามในปี 2539 ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม อาศัยอยู่จนถึงปี 2544 ได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตมากมาย
-พ่อฮักแม่ฮัก ผูกเสี่ยวกับหมู่เพื่อน เกิดขึ้นอย่างประทับใจ
-ทุกวันนี้ยังติดต่อเยี่ยมยามกัน...ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย
-หากมีโอกาสคงได้นำเอาความประทับใจมาเล่าสู่กันขอรับ...
-ขอบคุณครับ
ยินดีครับ จะปูเสื่อรอนะ
เขียนรวมเล่นเป้นประวัติได้เลย
ชอบใจเรื่องครับ
รออ่านอีกครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
พระซน มีเรื่องเล่าอีกเยอะเลย รับรอง หนุก มันส์ สาระ ซึ้ง ^_^