พลิ้วแผ่วแผ่วเพลงใบไผ่
ยามใกล้สนธยาฟ้าสลัว
ไหวไหวเงาไม้หม่นมัว
แลทั่วเหว่ว้าอาดูร
จันทรจรจับกับเหลี่ยมฟ้า
เมฆาเลือนลับดับแสงสูรย์
เมื่อความเงียบเหงาเข้าเพิ่มพูน
จะเกื้อกูลอย่างไรไม่นำพา
แลเห็นฝั่งน้ำอยู่ใกล้ใกล้
อีกมินานเท่าใดคงหมดค่า
เมื่อสังขารผ่านใกล้วัยชรา
หมดเวลาของชีวีที่ยึดครอง
บทเพลงแห่งใบไม้ในยามค่ำ
ฝากถ้อยคำจากกมลของคนหมอง
ข้ามฟ้าไปยังคนดีที่เคยปอง
สักวันฟ้าคงต้องอำนวยพร
......................................
คุณมะเดื่อ
ลูกบิดติดรีโมท
๒๐/๐๖/๖๐
มาแจ้งพี่ว่า 7-8 สค ขอเลื่อนไปก่อน
ติดงานอบรมครูครับ
ขอบคุณมาก
มาอ่านก่อนต่อเลย
เย้ๆ
กลอนไพเราะมากนะครับ
ดูเหงาๆเจือปนบ้าง
ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ นะครับ
ขณะหนึ่งความเหงา ก็ทำให้เราได้บ่มเพาะความเข้มแข็งอยู่ในที กระมัง ครับ
สวัสดีจ้ะน้องขจิต
คุณพิชัย
ท่านอาจารย์ยูมิ
น้องเพชร
และน้องอาจารย์แผ่นดิน
ต้องบอกว่า นาน ๆ ได้เขียนกลอน
คิดไม่ออกเลยจ้ะ อยากจะเขียนอีกเรื่องหนึ่ง
แต่กลับไปเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
จึงตอบไม่ได้ว่า มันเรื่องอะไรกันแน่...กลอนพาไป
จริง ๆ จ้าา ๕๕๕๕ ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะจ๊ะ