เธอมาทำอะไรที่นี่???


อีกฉากชีวิตหนึ่งของเราที่ต้องก้าวเดินต่อไป...แม้ไม่ยิ่งใหญ่แต่ขอให้มีใจที่มั่นคง..ความสุขและมิตรภาพ เกิดขึ้นได้เสมอ ณ ที่แห่งนี้...เพราะที่ีนี่คือ"บ้านฉันก็บ้านเธอ"

-หล้งจากเกี่ยวข้าวไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ตามบันทึกนี้ ข้าวขวัญ..พัทลุง แล้วนั้น...มาวันนี้(26/11/59)ก็ได้เวลาในการทำกิจกรรมต่อไป ซึ่งกิจกรรมนั้นก็คือ"การนวดข้าว"ครับ...และเมื่อมีโอกาสเหมาะๆ ในวันหยุดเช่นนี้ครอบครัวเล็ก ๆของเราก็ได้ชวนสาวน้อยเมืองกรุง นามน่ารัก ๆ ว่า"ไอด้า"มาช่วยกัน"นวดข้าว"และสัมผัสวิถีชีวิตแบบชนบท ณ บ้านของเราครับ....เมื่อทุกอย่างถูกกำหนด วัน เวลา เรียบร้อยแล้ว กิจกรรมตามรอยวิถีแบบไทย ๆ ก็เริ่มขึ้น ตามจังหวะการก้าวเดินของชีวิตแล้วล่ะคร้าบ!!!!!!




1.ฟ่อนข้าวในนา ที่เกี่ยวและตากวางรายเอาไว้ เพื่อให้แดดได้ช่วยลดความชื้นของเมล็ดข้าว ถือเป็นภูมิปัญญาดี ๆ ของคนรุ่นเก่าก่อน วิธีการเกี่ยวด้วยมือและวางรายแบบนี้เห็นได้น้อยมากแล้วในเวลานี้ครับ....จะด้วยเหตุผลอันใดก็แล้วแต่ที่ทำให้วิถีการจัดการผลผลิตของเกษตรกรในปัจจุบันนี้ผันเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่ครอบครัวเล็กๆ ของเราพอจะทำได้ก็คือ"การสืบทอดวิธีการเดิมๆ "เอาไว้ให้มากที่สุด ณ พื้นที่แห่งนี้ครับ...และเมื่อถึงเวลา เพื่อนบ้านที่คอยช่วยเหลือกันนำโดย "ผช.เล็ก/พี่ประนอม/ลุงจ๊อก"ก็มาช่วยกันมัดฟ่อนข้าวเพื่อเตรียมการ"นวดข้าว"ในวันรุ่งขึ้นครับ...


2.บ่าย ๆ ของวันเสาร์ เราก็เริ่มทำการ"นวดข้าว"โดยวิธีแบบพื้นบ้านครับ ก่อนที่เราจะทำการ"นวดข้าว"นั้น ผมขอแนะนำให้มิตรรัก G2K ได้ทำความรู้จักกับสาวน้อยน่ารักคนนี้"น้องไอด้า"ชื่อเสียงเรียงนามและเรื่องราวของเธอผมได้เคยนำเอามาบันทึกไว้เมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งเธอได้ติดตามทีมงานมาถ่ายทำเรื่องผักพื้นบ้าน ตามบันทึกนี้ครับ น้อยนิด.มหาศาล..และวันนี้เธอได้กลับมาเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตแบบชนบทอีกครั้ง.....วันหยุดนี้..เธอจะได้สัมผัสกับกิจกรรมอะไรบ้างนั้น...พร้อมแล้วตามไปชมภาพพร้อมๆ กันได้แล้วครับ....




3. วิธีการ"นวดข้าว"ในวันนี้ เราใช้วิธีการ"ฟาดข้าวแบบโบราณ"และ"การใช้รถไถเดินตามนวดข้าว"ครับ...ฟ่อนข้าวของเรามีไม่มากนัก เพราะว่าพื้นที่นาของเราถูกจัดแบ่งไว้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสร้างแหล่งอาหารหลักของเราเอาไว้บ้าง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในตัวด้านอาหารของเราครับ..ดังนั้นวิธีการและขั้นตอนต่างๆ ในการผลิตจึงพยายามนำเอาวิธีแบบเก่าๆ มาสืบทอดเอาไว้ เพราะอย่างน้อยๆ ก็จะทำให้เราและผู้ที่สนใจได้ร่วมศึกษาและทอดต่อภูมิปัญญาไปพร้อมๆ กันกับเราครับ...งานนี้สาวน้อย"ไอด้า"ก็ได้ลองเรียนรู้และ"สัมผัส"วิถีแบบไทยๆ โดยมีผู้ชำนาญการ"พี่ประนอม"เป็นผู้ส่งต่อภูมิปัญญาแบบนี้ให้กับสาวน้อยด้วยล่ะคร้าบ.....สรุปว่าปีนี้ผลผลิตในนาของเราได้ข้าวเปลือกทั้งหมด 16 ถังครับ ผลผลิตนี้อาจจะน้อยไปหน่อยเพราะว่าเราดูแลแบบต้นทุนการผลิตต่ำครับ แม้ได้น้อยแต่ก็คุ้มค่าและภูมิใจมากๆ เลยล่ะครับ..


4.ยามค่ำคืน ณ บ้านของเราเงียบสงัด มีเพียงแสงไฟและแสงดาวเดือนที่สาดเทลงมาในยามนี้...น้ำค้างพรมมาเป็นระยะ ๆ แสงดาวบนฟ้าระยิบระยับงามจับตา นั่งแหงนมองดาวสักพักสายตาของเราก็ได้สัมผัสกับ"เครื่องบิน"ที่บินไปยังจุดหมายปลายทาง ผมเห็นสิ่งนี้เหล่านี้บนฟ้าจนชินตา...แต่สำหรับสาวน้อยแล้วดูเธอตื่นตาตื่นใจ เพราะในเมืองนั้นจะหาสัมผัสได้ถึงความเนิบช้าของฉากชีวิตแบบนี้ได้น้อยนัก...ช่วงเวลาแบบนี้เราได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตต่างๆ กันอย่างอบอุ่นใจ ณ บ้านของเราครับ....



5.ก่อนกลับเข้าไปสู่เมืองหลวงและเดินตามความฝันของตัวเธอเอง วันอาทิตย์จึงเป็นวันแห่งการสัมผัสความงามของธรรมชาติ ณ เมืองคนแกร่งแห่งนี้ครับ....วันนี้ผมได้พาสาวน้อยไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของผมมากนัก สถานที่เดิมๆ ที่มักจะพาแขกคนพิเศษมาก็จะมี"วัดถ้ำพระใหญ่/บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง/เมืองมรดกโลก/น้ำตกคลองลาน"สถานที่อันงดงามในเมืองที่เงียบๆ แบบนี้ผมว่าเหมาะนักสำหรับผู้ที่อยากจะมาสัมผัสวิถีชีวิตแบบเนิบช้า...และเฝ้าดู...พร้อมกับปรุงแต่งใจให้กับตนเอง...ทั้งนี้ก็เพื่อกลับไปต่อสู้กับปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะครับ...

ก็เพราะเธอมาทำอะไร ดี ดี ณ ที่แห่งนี้ไง.....ยินดีที่ได้ต้อนรับเธอนะสาวน้อย"ไอด้า"

โชคดีที่ได้พบกัน.....

สวัสดีครับ

เพชรน้ำหนึ่ง+มดตะนอย

28/11/2559

ณ Hi Hug House@หนองราง



หมายเลขบันทึก: 619324เขียนเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2016 12:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2016 13:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

สวัสดีครับ อ่านเพลินเดินอักษร ช่วยสะท้อนให้เห็น เรียงเป็นขั้นตอน

ไว้ใช้สอนรุ่นหลัง เป็นคลังความรู้........ชื่นชมครับ

หนาวไวมากๆ

ติดถึงกองไฟเลย

ว้าว ๆ เดี๋ยวไปตามรอยน้องไอด้านะจ๊ะ ที่ ๆ ยังไม่เคยไปน่ะค่ะ ^_,^

นานๆแวะมาทักทายกัน...เปลี่ยนแปลงไปมากนะคะ...

เนิบช้า สโลว์ไลฟ์ ได้เก็บทุกในทางที่เดินมา

สวัสดีครับ
ดีจัง คนกรุงได้เห็นวิถีพื้นบ้าน

ขอบคุณครับ

-สวัสดีครับอาจารย์ธนา

-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้แบบเพราะ ๆนะครับ

-ด้วยความยินดีสำหรับการส่งต่อเรื่องราวดีๆ แบบนี้ครับ

-สวัสดีครับอาจารย์ขจิต

-หนาวนี้ที่"บ้านฉัน"นะครับ 55

-ขอบคุณอาจารย์ที่มาสัมผัสวิถีชีวิตแบบไทย ๆ ครับ

-สวัสดีครับพี่หมอธิ

-รอเลยครับพี่หมอ 555

-ตามรอยเท้าเธอนะ"ไอด้าาา"

-สวัสดีครับอาจารย์ pojana

-กำลังสานฝันต่อไปน่ะครับ

-เริ่มปรับเปลี่ยนไปทีละนิดน่ะครับ

-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ

-สวัสดีครับท่านวอญ่า

-เดินแบบช้า ๆ สบายใจ 55

-ขอบคุณท่านที่มาเยี่ยมยามนะขอรับ

-สวัสดีครับลุงชาติ

-คนเมืองกรุงพอได้สัมผัสวิถีแบบชนบทก็ตื่นเต้นและถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆของชีวิตครับ

-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ครับ

เพิ่งได้แวะมาบันทึกนี้

ธรรมชาติคือโอสถวิเศษ

บำบัดความว้าวุ่นในใจของคนกรุง

ได้เป็นอย่างดีนะน้องเพชร

คิดถึงจ้ะ

Thank you for the good story and the beautiful pictures. You definitely show that farmers life can be quite 'romantic' (and interesting for 'tourists').

It occured to me after seeing a 'Kubota' (in the pictures), we may have a reason for using more fertilizer in paddy fields, Kubotas don't fertilize paddy fields like buffalos do.

Cheer ;-)

-สวัสดีครับพี่ครูมะเดื่อ

-ยินดีที่ได้แบ่งปันเรื่องราวดี ๆ และได้ส่งต่อภูมิปัญญาชาวบ้านไปยังคนรุ่นหลังครับ

-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ครับ

-สวัสดีครับท่าน Sr.

-ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมและให้กำลังใจบันทึกนี้นะครับ

-วิถีแบบไทย ๆ น่ามองและน่านำมาเป็นแนวทางในการดำรงชีพมาก ๆ ครับ

-ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท