ร่วมถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมโกศ


ในฐานะประชาชนธรรมดา

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2559 ด้วยความตั้งใจแน่วแน่เข้ากรุงเทพมหานคร ไปกราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

หลังจากวางแผนล่วงหน้ามาประมาณสามสัปดาห์ และเฝ้าติดตามคำแนะนำในการเตรียมตัวเพื่อเข้าสักการะพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ในพระบรมโกศ รวมถึงการติดตามประกาศสำนักพระราชวังตามสถานการณ์ที่ปรับเปลี่ยนวันต่อวัน เพื่อความเหมาะสมต่อการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกสารทิศที่เดินทางเข้าไปยังพื้นที่ เฉลี่ยวันละหนึ่งหมื่นถึงสามหมื่น โดยเฉพาะในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

เมื่อใกล้ถึงเวลาเดินทาง เราทั้งสี่คนมาทราบในภายหลังว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในวันเดียวกันกับที่เราจะไปด้วย เจ้าหน้าที่จัดงานประเมินสถานการณ์ที่คาดว่าจะมีคนหลั่งไหลมาเจอกันบนเส้นทางการจราจร จึงมีการปรับแผนการเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพเร็วขึ้นในวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2559 จากเดิมเวลา 05.00 น. เป็น 04.00 น.แล้วค่อยคาดคะเนปรับเปลี่ยนเวลาวันต่อวัน ดังนั้นการวางแผนการเดินทางของเราจึงขยับขึ้น แต่ยังคงหลักการเดิมที่กำหนดตั้ง โดยเราจะไปให้ถึงบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้ามณฑลท้องสนามหลวงอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนประตูเปิด นั่นหมายถึงการนอนหลับพักและตื่นเร็วขึ้นคือ 02.00 น.เพื่อให้เวลา 03.00 น. คือเวลาที่เราปักเป้าหมาย และแล้วเราสามารถลงจากรถแท็กซี่ที่จอดเทียบพอดีกับปลายแถวของกลุ่มประชาชนที่ตั้งใจเดินทางมาเหมือนเรา (แต่มาเช้ากว่า) โดยที่มีสิ่งที่ทำให้ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกเดินทางเข้าในสนามหลวงโดยวิธีเดินตามเข็มหรือทวนเข็มนาฬิกา เพราะเข้าได้สองทาง


04.00 น. ประตูสนามหลวงเปิด แถวยืนเรียงสองตอนค่อยขยับ เราใช้เวลาในราว 10-15 นาที ผ่านจุดตรวจสอบการแสดงตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชน และรี่รุดเดินตรงไปยังจุดที่เป็นบอลลูนสีขาว ตามการสำรวจข้อมูลมาก่อนหน้าทั้งจากสื่อต่างๆ จากเพื่อนฝูงที่ได้มาในงานนี้ก่อนเรา เรายืนเข้าแถวยาวที่เจ้าหน้าที่จัดซึ่งมีสี่แถว และขยับอย่างช้าๆ แต่ไม่เกินชั่วโมง 1 ชั่วโมงและนับระยะทางได้เกือบรอบสนามหลวงพอดี




05.40 น. เราหยุดยืนบนถนนอมรวิถี ภายในพระบรมมหาราชวังแล้ว ขั้นตอนการคอยรอบริเวณนั้นไม่นาน ลมเย็นพัดผ่านมาเป็นระยะ ทุกคนที่ยืนรอต่างสงบนิ่ง เจ้าหน้าที่อนุญาตให้บันทึกภาพได้ตามสะดวก ในท่ามกลางท้องฟ้าที่ยังมืดสลัว พอเห็นดาวพรายบนฟ้า มีดาวไถและดาวเต่าสว่างเห็นเด่นชัด เป็นสัญญาณแห่งดาวฤดูหนาว


06.20 น. มารู้สึกตัวอีกที เมื่ออยู่ภายนอกเขตพระบรมมหาราชวังแล้วค่ะ แต่ความทรงจำของเราได้เก็บบันทึกภาพเบื้องหน้าพระบรมโกศ องค์พระเจ้าอยู่หัวพ่อของปวงชนชาวไทยในความรู้สึกยากหาคำบรรยายใดแม้เพียงสงบนิ่งเป็นเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที

(AAR- After Action Review) ข้อมูลต่อจากนี้เป็นการเรียบเรียงประสบการณ์การได้เข้าไปถวายสักการะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ของพวกเราทั้งสี่คนซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ โดยหวังว่าจะเป็นความทรงจำที่จะกลับมาย้อนนึกถึงครั้งหนึ่งในชีวิต ได้เกิดใต้ร่มพระบารมี รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้


ก่อนอื่นต้องศึกษาแผนผังและเส้นทางการเดินทาง เตรียมพร้อมเรื่องเครื่องแต่งกาย สิ่งของที่จำเป็นที่คิดว่าจะได้ใช้ในระหว่างการยืนรอ นั่งรอบนพื้นที่จัดให้รอ ตรวจสอบสภาพภูมิอากาศ สำรวจข้อมูลด้วยว่าวันที่จะไปนั้น ประตูสนามหลวงเปิดกี่โมง เพราะต้อง เข้าประตูของมณฑลพิธีท้องสนามหลวงก่อน ผ่าน เกทเวย์ รอบที่ 1 มายังจุดกึ่งกลางของสนามหลวงที่มีบอลลูนฝั่งหน้าศาล เพื่อเข้าแถว ปรับรูปขบวนเป็น 4 แถว เพื่อเดินมายัง ประตูทางออก ทางด้านหน้าวัดมหาธาตุ ซึ่งหน้าวัดมหาธาตุ นั้นจะมีเต้นท์พักคอย(มีเก้าอี้สีขาว) และมี เกทเวย์ รอบที่ 2 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร หลังจากผ่านจุดนั้น จะมี จนท. คอยตรวจเครื่องแต่งกาย เน้น ผู้หญิง ห้ามใส่กางเกงเด็ดขาด จากนั้นก็ดูว่าจะได้ผ่านเข้าไปทางไหน อยู่ที่ทางเจ้าหน้าที่จัด อย่างที่เราทั้งสี่คนไปตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่สว่าง ราวๆ ห้านาฬิกา จึงได้เดินแถวเข้าพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี ผ่านประตูพิมานไชยศรี ซึ่งจะเห็นพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทอยู่ตรงหน้าเลย แถวของเราตั้งรอบนถนนอมรวิถีเพื่อรอเดินผ่านประตูกำแพงแก้ว เข้าไปกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท


และเนื่องจาก สำนักพระราชวังเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าชมและสักการะภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 โดยให้นักท่องเที่ยวเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ระหว่างเวลา 08.00-15.30 น. ดังนั้น ถ้าหากใครที่ไปถึงจุดรอบริเวณทางประตูทางเข้าพระบรมมหาราชวังหลัง 08.30 น. หรือก่อน 15.30 น. เจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนเป็นให้ขบวนประชาชนเดินมาจากมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเข้าพระบรมมหาราชวังทางประตูมณีนพรัตน์และประตูเข้าวัดพระศรีรัตนศาสดารามฝั่งทิศเหนือ จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย เดินตามทางระเบียงคต จนถึงประตูวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนอมรวิถี หน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน แล้วเลี้ยวขวาตั้งแถวบนถนนอมรวิถี หน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เพื่อเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ระยะทางไกลกว่ามาก ใช้เวลานานกว่า แต่มีโอกาสได้ชื่นชมจิตรกรรม สถาปัตยกรรมอันงดงามของสถานที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเปิดให้เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ในเวลา 04.30-08.30 น. จากนั้นจะเปลี่ยนทางเข้าเป็นประตูมณีนพรัตน์จนถึงเวลา 16.30 น. และกลับมาใช้ประตูวิเศษไชยศรีอีกครั้งจนถึงเวลา 21.00 น.

เมื่อเดินผ่านประตูกำแพงแก้วด้านตะวันออกของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เปลี่ยนขบวนเป็นสองแถว ห้ามการบันทึกภาพใดๆ เจ้าหน้าที่จะแจกถุงสีดำสำหรับให้เราถอดรองเท้า ถุงเท้าถือนำติดตัวไปด้วย ซึ่งบริเวณนี้จะมีจุดนั่งพักรอ ก่อนไปยืนเข้าแถวรอเป็นกลุ่ม เพื่อขึ้นสู่พระที่นั่งด้านมุขตะวันออกของพระที่นั่ง รวมถึงเมื่อขึ้นไปนั่งพับเพียบภายในอาณาบริเวณที่จัดไว้ให้ประชาชนได้กราบสักการะ จะมีเจ้าหน้าที่คอยกำกับดูแลการนั่ง การกราบ 1 ครั้งโดยไม่แบมือ ใช้เวลาในราว 1 นาที ต่อ 1 กลุ่ม หลังจากลงจากพระที่นั่งทางมุขด้านเหนือ จะมีตู้ให้ร่วมทำบุญตามอัธยาศัย จากนั้นเปลี่ยนกลับมาสวมถุงเท้า รองเท้า คืนถุงสีดำเพื่อให้นำไปหมุนเวียนใช้ใหม่

จากนั้นเลี้ยวซ้ายเดินออกประตูกำแพงแก้วด้านตะวันตกของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ออกจากพระบรมมหาราชวัง สู่ถนนมหาราช ทางประตูศรีสุนทรและประตูเทวาภิรมย์ ตามลำดับ เส้นทางสองประตูดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง มอบภาพถ่ายพระบรมโกศขนาดโปสการ์ด ถุงพันธุ์ข้าวอัญเชิญลายพระหัตถ์ "ในหลวง" ติดฉลาก "พอเพียง" เพื่อเป็นของที่ระลึก ตลอดจนมีหน่วยงานต่างๆ นำน้ำดื่ม นม ยาดมสมุนไพร อาหาร แจกให้ประชาชนด้วย


ขอบคุณทีมบันทึกภาพ น้องแจ๋วและน้องใหม่แห่ง PRCMU ขอบคุณน้องๆ ทีมงานที่ดูแลจัดการเกี่ยวกับการเดินทาง การจองที่พัก การพาเที่ยวในกรุงเทพมหานครที่มีรถโดยสารสาธารณะแสนสะดวกสบาย

หมายเลขบันทึก: 618591เขียนเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2016 13:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม 2017 14:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

-สวัสดีครับ

-ตั้งใจจะไปร่วมถวายสักการะสักครั้งครับ

-ขอบคุณสำหรับภาพบรรยากาศอันอบอุ่นนะครับ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท