-พักรับประทานอาหารกลางวัน(ผัดคะน้าหมูกรอบ 555)ที่ร้านเจ้าประจำแสนอร่อย เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนลงมือปฏิบัติงานบนโต๊ะต่อนั้น ขอใช้ช่วงเวลานี้มาผ่อนคลายสมองโดยการเขียนบันทึกเรื่องราวเมนูอาหารแบบง่าย ๆ ตามสไตล์ของผมก่อนก็แล้วกันนะครับ...สำหรับวันนี้เป็นการบันทึกเรื่องราวต่อจากบันทึกนี้ครับ ก้านตัดใบข้าวไป"ส้าบะเขือแจ้" เพราะว่าก่อนจบบันทึกเรื่องนี้นั้น ผมได้ทิ้งท้ายเอาไว้ให้ผู้อ่านได้คาใจอยู่เมนนูหนึ่ง ซึ่งก็ทำจาก"บะเขือแจ้"เหมือนกัน....เอาเป็นว่าเพื่อเป็นการไม่เสียเวลาวันนี้ผมขอนำเอาเมนูแบบ"เกาหลี"มาฝากผู้อ่านให้ได้ร่วมติดตามกัน กับบันทึกนี้ที่ผมตั้งชื่อให้ว่า"กิมจิดอ 김치 " คร้าบ!!!!!!
1.บะเขือแจ้...คือวัตถุดิบ ที่จะใช้ในการทำเมนูอาหารเกาหลีในวันนี้ครับ ต้องขอออกตัวก่อนว่าตัวผมเองไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับ"อาหารเกาหลี"มากสักเท่าไหร่ แต่เท่าที่ฟังๆ และดูจากละคร"เกาหลี"แล้ว เมนูหนึ่งที่มักจะขาดไม่ได้ก็คือ"กิมจิ"ที่ผมดูทีไรก็จะเห็นตัวละครกิน"กิมจิ"อย่างเอร็ดอร่อย และตัวผมเองก็ยังไม่เคยที่จะได้ลิ้มลอง"กิมจิ"ซะด้วยสิ ดังนั้นจึงได้แต่จินตนาการถึงรสชาติอันอร่อยของเมนู"กิมจิ"นี้เอาเองครับ...และเมื่อลองสืบค้นข้อมูลดูจึงทำให้รู้ว่า"กิมจิ"ก็คือ"ผักดอง"ที่มีการปรุงรสชาติด้วยผักและผลไม้ชนิดต่าง ๆ และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเมนูนี้ก็คือ"เปรี้ยว/เค็ม/เผ็ด"ตามส่วนผสมหลักของ"กิมจิ"นั่นเองครับ....และเมื่อศึกษาข้อมูลคร่าว ๆ แล้ว ดังนั้นเมื่อผมมีโอกาสได้นำเอาวัตถุดิบจากบ้านไร่มาทำเมนูแบบพื้นบ้าน(ล้านนา)ของผมซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ กับอาหารเกาหลีชนิดนี้ จึงทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและยินดีปรีดากับเมนูพื้นบ้านของผมขึ้นมาอีกมากทีเดียว....และเพื่อเป็นการส่งต่อเมนูพื้นบ้านที่ทำง่าย แถมยังอร่อยด้วย วันนี้ผมจึงภูมิใจนำเสนอเมนูนี้ "กิมจิดอ 김치 " ว่าแต่จะมีวิธีการทำอย่างไรบ้างนั้น..เก็บ"บะเขือแจ้"เสร็จแล้ว ก็ตามผมไปชมพร้อมๆ กันได้แล้วคร้าบ.....
2.ได้"บะเขือแจ้"วัตถุดิบหลักมาแล้ว เราก็เริ่มทำการ"ผ่าบะเขือแจ้"และนำไปแช่น้ำเพื่อบีบเอาเมล็ดออกและลดความเฝื่อนขมของ"บะเขือแจ้"ออกไปบ้าง เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะครับ...
3.วัตถุดิบหลักอีกอย่างหนึ่งที่มาช่วยเพิ่มรสชาติให้กับ"กิมจิดอ 김치 "ก็คือ"ใบกุ้ยช่าย"ครับ ใบกุ้ยช่าย ปลูกง่ายมาก ๆครับ เพียงนำต้นพันธุ์มาปลูก ไม่นานนักเราก็จะได้"ใบกุ้ยช่าย"เอาไว้ทำเมนูต่าง ๆ ได้อย่างสบาย ๆ หากใครชอบกินใบกุ้ยช่ายแบบสด ๆ กับผัดไทย/ผัดหมี่ แล้วล่ะก็ ผมว่าควรจะหาต้นพันธุ์มาปลูกเอาไว้ที่บ้านบ้างก็จะดีไม่น้อยเลยนะครับ...หากไม่มีต้นพันธุ์ก็ขับรถมารับต้นพันธุ์กุ้ยช่ายที่บ้านไร่ของผมได้นะคร้าบ 5555555
4.หลังจากได้วัตถุดิบครบแล้ว เราก็จัดเตรียมวัตถุดิบตามภาพให้พร้อมก่อนนะครับ สำหรับเครื่องปรุงก็ไม่มีอะไรมาก มีเพียง"น้ำปลา/น้ำมะนาว"เพียงเท่านี้ ก็ได้เวลาที่เราจะลงมือทำ"กิมจิดอ 김치 "แล้วล่ะคร้าบ.....
5.นำเอาส่วนผสมทุกอย่างคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใช้มือขยำจน"บะเขือแจ้+ใบกุ้ยช่ายนิ่ม"เสร็จแล้วก็ชิมรสชาติออกเปรี้ยว เค็ม ครับ สำหรับ"กิมจิ"นั้น จะมีความเปรี้ยวจากการหมักบ่มเอาไว้เป็นเวลานาน แต่สำหรับเมนูนี้เราจะได้ความเปรี้่ยวจาก"มะนาว"ครับ ดังนั้นเมนูนี้หลังจากทำเสร็จแล้วเราก็สามารถรับประทานได้ทันที และเมนูไหนที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการหมักหรือรอเวลาให้ได้รสชาติ ผมจึงจะเรียกว่า"ดอ"ครับ ซึ่งเรื่องนี้ผมได้เคยนำเอาภาษาพื้นเมืองแบบนี้มาอธิบายเอาไว้แล้ว ตามบันทึกนี้ครับ ส้มดอ 55555
6.ตามข้อมูลที่ได้มา เขาบอกเอาไว้ว่า"รสชาติของกิมจิ"จะมีความเผ็ดด้วย แต่สำหรับเมนู"กิมจิดอ 김치 "ของผมนั้น จะเพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยการนำมาจิ้มกับ"น้ำพริกกะปิ"ฝีมือคนข้างกาย(มดตะนอย)ครับ 555 และเมนูนี้นอกจากจะนำมาจ้ิมกับน้ำพริกแล้ว ยังสามารถนำไปเป็นเครื่องเคียงในเมนูต่างๆ ของอาหารพื้นบ้านได้อีกมากมายหลายชนิด โดยเฉพาะ"ลาบหมู/ปลา/ไก่/เนื้อ"ตามชอบครับ...
7.ก่อนจบบันทึกนี้ ผมขอนำเอาข้อมูลเกี่ยวกับ"กิมจิ 김치 "มาเพิ่มเติมในบันทึกเอาไว้เป็นข้อมูลให้กับผู้ที่สนใจได้สืบค้นกันต่อครับ โดยเฉพาะ"ตัวสัญลักษณ์กิมจิ"ของประเทศเกาหลี ที่องค์การค้าเกษตรกรรมและการประมงเกาหลี (Korea Agro-Fisheries Trade Corporation) ได้สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมกิมจิแท้จากประเทศเกาหลี และสร้างความแตกต่างระหว่างกิมจิเกาหลีและกิมจิญี่ปุ่น (Kimuchi) ให้ชัดเจนขึ้น ติดตามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้จากที่นี่ครับ กิมจิ วิกิพีเดีย
เอาล่ะครับ....มาถึงตอนนี้ผู้อ่านก็คงจะรู้จักกับเมนูอาหารพื้นบ้านอีกเมนูหนึ่ง ที่ผมเชื่อว่าหากใครได้ลิ้มลองแล้ว รับรองว่าจะต้องชื่นชอบเมนูพื้นบ้านแบบนี้ และผมเชื่อว่าวัฒนธรรมการกินอาหารของไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ คร้าบ.....
บันทึกเอาไว้แบบเท่ห์ ๆ กับเมนูนี้ "กิมจิดอ 김치 " ณ Hi Hug House@หนองราง คร้าบ!!!!!!!
안녕하세요?
อัน นยอง ฮา เซ โย
สวัสดีครับ
เพชรน้ำหนึ่ง+มดตะนอย
07/09/2559
ขอแนะนำผู้ดูแลระบบนะคะ .. เพื่อลดผลกระทบต่อผู้อ่านบันทึกที่ไม่เหมาะสมกับกาละเทศะ ควรกำหนดระยะเวลาการเข้าถึงบันทึกต่างๆ ใน GTK ด้วย .. ตัวอย่างบันทึกนี้ ไม่ควรเปิดอ่านหลังสามทุ่ม เพราะกระตุ้นความอยากอาหาร มีอาการน้ำลายสอเป็นต้น (ฮา)
ตามมาอ่านเมนูพื้นบ้านน่าสนใจค่ะ
ง่ายๆ แต่น่าทานนะครับ ยิ่งจิ้มน้ำพริกกะปิ..
เมนูแห่งปัญญา อบอวลคุณค่าแบบพื่้นถิ่นที่น่ายกย่อง และชวนชิมเป็นที่สุดครับ
น่าทาน นะคะ น้ำลายสอ ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณเพชร
โห เล่นเอาน้ำลายสอเลย
คุณยายเคยกินนะ มีป่นปลา ป่นกบ ส้มปลาน้อยด้วยล่ะก็ เอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอมค่ะ
-สวัสดีครับอาจารย์ดารนี
-อ่านตอนแรกนี้ตกใจหมดเลยครับ 555
-นึกว่าบันทึกนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่าหนอ??
-ถึงบางอ้อ ก็ตอนที่บันทึกนี้ทำให้น้ำลายสอ นี่แหล่ะครับ 55
-ขอบคุณที่มาเยีี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ครับ
-สวัสดีครับป้าใหญ่
-เมนูพื้นบ้านที่อร่อยและแฝงไปด้วยวิถีแบบไทยๆ ครับ
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับอาจารย์ธนิตย์
-เมนูนี้ทำง่ายๆ และอร่อยด้วยครับ
-ผมว่าหากบ้านใครมีบะเขือแจ้ก็ทำกินได้นะครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้นะครับ
-สวัสดีครับอาจารย์แผ่นดิน
-เมนูแห่งภูมิปัญาไทยครับ
-ภูมิใจที่ได้นำเอาเมนูบ้านๆ แบบนี้มาบันทึกไว้แบ่งปันครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ
-สวัสดีครับพี่หมอเปิ้น
-ขอบคุณที่มาร่วมน้ำลายสอกับบันทึกนี้นะคร้าบ 555
-สวัสดีครับคุณยายมนัสดา
-แซ่บคักอิหลี...ป่นกบ ป่นปลา..อร่อยคัก ๆนะครับ
-ยินดีที่คุณยายมาร่วมให้กำลังใจในบันทึกนี้ด้วยนะครับ