๓๙๙. ขอบคุณนะครับ...ที่ยายมาเล่าให้ฟัง


หลานยายชื่อ แค๊มป์..เรียนอยู่ชั้นป. ๔ ซึ่งจะต้องเรียนกับผมทุกวัน ผมสนใจแค๊มป์เป็นพิเศษ เนื่องจาก..ต้องการสังเกตการปรับตัวกับเพื่อนๆและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความถนัดและความสนใจของแค๊มป์ เพื่อส่งเสริมและพัฒนา...การเรียนรู้ต่อไป

ตอนแรกผมก็ดีใจ ที่ยายพาหลานชายผู้น่ารักมาเข้าเรียนที่โรงเรียน ยาย..ตัดสินใจทันทีเมื่อเดินทางมาดูโรงเรียน เดินชมบรรยากาศโดยรอบ..จากนั้นสามวันต่อมา..ยายก็นำหลักฐานการย้ายจากโรงเรียนเอกชนที่กรุงเทพฯมามอบให้ผม โดยไม่ยอมย้ายเข้าโรงเรียนใกล้บ้าน..ที่เป็นโรงเรียนอนุบาลประจำอำเภอ..ยาย..มีความมานะพยายาม ขับมอร์เตอร์ไซค์พ่วงข้าง(สามล้อ) ระยะทาง ๑๐ กิโลเมตร รับ - ส่ง หลาน เช้า เย็น ทุกวัน

หลานยายชื่อ แค๊มป์..เรียนอยู่ชั้นป. ๔ ซึ่งจะต้องเรียนกับผมทุกวัน ผมสนใจแค๊มป์เป็นพิเศษ เนื่องจาก..ต้องการสังเกตการปรับตัวกับเพื่อนๆและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความถนัดและความสนใจของแค๊มป์ เพื่อส่งเสริมและพัฒนา...การเรียนรู้ต่อไป

ขณะที่นักเรียน กำลังเรียนกับ DLTV (ครูตู้) แค๊มป์ อาจจะไม่คุ้นชินวิธีเรียนแบบนี้ จึงนั่งเล่น หันซ้ายหันขวา จับไม้บรรทัดมาเคาะ หยิยยางลบมาหัก ผมนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการ ให้เคลื่อนไหว ขยับแขนและมือ แล้วหมุนตัว ทุกคนทำอย่างสนุกสนาน..แต่แค๊มป์ไม่ยอมทำตามและบอกด้วยว่า..ทำไม่เป็น...

ถึงเวลาเปลี่ยนชั่วโมง นักเรียนชั้น ป.๔ ไปดื่มน้ำและเข้าห้องน้ำ ผมเตือนนักเรียนให้รีบไปรีบมา เพื่อจะได้เข้าสู่บทเรียนวิชาใหม่ได้โดยไม่เสียเวลามากนัก ผมอดไม่ได้ที่จะตามนักเรียนไปด้วย เพื่อดูพฤติกรรมของนักเรียน

ที่ห้องน้ำ..แค๊มป์จะพูดคุยเสียงดัง หยอกล้อกับเพื่อนตลอดเวลา โดยที่ไม่เห็นผม แล้วผมก็เห็นเพื่อนผลักแค๊มป์และตบที่หัวไหล่...พอเดินเข้าห้องเรียน..

แค๊มป์ก็บอกผมว่า..ครูครับ..ผมอยู่เฉยๆ...ตาล..ก็ตบหัวผมครับ.. เพื่อนๆก็มองหน้ากันอย่างงุนงง เพราะว่าแท้ที่จริงแล้ว..เล่นหยอกล้อกัน ซึ่งผมก็เห็น

ที่โรงอาหาร นักเรียนจะเข้าแถว หยิบช้อนและรับถาดอาหาร ทุกคนจะยินนิ่งเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่แค๊มป์จะยืนเคาะช้อนตลอดเวลา..พอเห็นอาหารที่เป็น ไข่เจียว แค๊มป์จะบอกว่า กินทำไม ไข่ไม่มีประโยชน์..

นับวัน..แค๊มป์จะมีพฤติกรรมแปลกๆแหวกแนว.ให้เรียนดนตรีก็บอกว่าไม่ชอบ..ถ้าให้.อ่านหนังสือจะอ่านได้เร็วมาก แต่อาจแบบไม่เว้นวรรคตอนและไม่ถูกต้อง เวลาให้อ่านทีละคน ถ้ายังไม่ถึงคิว แค๊มป์จะบอกว่า ผมอ่านได้แล้วครับ..ผมอ่านให้ครูฟังได้หรือยังครับ.

ตอนเช้า..ทำเขตพัฒนาสิ่งแวดล้อม ๑๕ นาที แค๊มป์จะคุยไม่หยุด จนผมต้องจับแยกให้ไปทำหน้าห้องพักครูกับน้อง ป.๓ อีก ๒ คน ซึ่งบริเวณนี้ มีใบไม้ไม่มาก..แต่ผมก็อยากจะฝึกให้รู้จักทำงานและมีความรับผิดชอบ....

๑๐ นาที...ผ่านไป..แค๊มป์ไม่ทำอะไรเลย เอานิ้วเขี่ยดินเล่น นั่งพูดคุยกับน้องอยู่ที่เดิม ไม่ไปไหนและก็ไม่ได้ผลงาน..

ผมเหลืออดแล้ว..รู้สึกโกรธสุดขีด เดินปรี่เข้าไปหาแค๊มป์ ผมยกมือขึ้น เตรียมจะฟาดลงไปให้สุดกำลังแขน..ได้ยินเสียงครูผู้หญิงดังมาจากข้างหลัง..”ผอ.ใช้ไม้เถอะ” ผมลดมือลง เอื้อมมือไปคว้าไม้ที่ครูส่งมา จากนั้นก็วางไม้ลงบะโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ เหงื่อผมออกมาเต็มตัว จนเปียกโชก รู้สึกหน้ามืด ใจสั่นหวิว ผมไม่ได้ตีแค๊มป็ แต่ก็รู้สึกตัวว่า ผมกำลังโกรธมาก ที่นักเรียนที่ผมรับย้ายคนนี้..ทำไมถึงเป็นได้เช่นนี้...ไม่เคยมีและไม่เคยเห็นมาก่อน

ทำไม..จึงไม่ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และข้อตกลงของโรงเรียน ทำไม..เข้าใจอะไรยาก ทั้งที่ก็บอกก็สอนอยู่ทุกวัน...

ตอนเย็นยายมารับแค๊มกลับบ้านตามปกติ..ยายถามผมว่า...”เป็นอย่างไรบ้างคะครู..” “เหนื่อยครับ..ไม่นิ่งเลย คุยเก่งมากๆ” ผมพูดเท่านี้จริงๆ ยายของแค๊มป์ ถึงกับอึ้ง หน้าถอดสี...

“ขอไปคุยกับครูที่บ้านได้ไหม” “ได้ครับ...”

ค่ำแล้ว..ยายมาที่บ้านผม..ดูสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ผมเปิดโอกาสให้ยายระบายความรู้สึกได้เต็มที่..

“...ฉันนำเขามาอยู่ด้วย เพราะเห็นว่าเรียนที่กรุงเทพฯไม่ได้แล้วจริงๆ..แม่เขามีสามีใหม่ แล้วสุขภาพไม่ค่อยดี สามีใหม่ก็ไม่ชอบแค๊มป์ ในครอบครัวจึงมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง แค๊มป์ถูกกดดันตลอดเวลา ยาย..เคยไปที่โรงเรียนของแค๊มป์ เห็นเพื่อนเขาแล้วรับไม่ได้เลย หลายคนเกเร พูดจาหยาบคาย ครูและเพื่อนก็ไม่ค่อยจะยอมรับแค๊มป์ ให้แยกอยู่ต่างหาก..บางคนก็ล้อว่า ปัญญาอ่อน”

“..ผอ..คะ..ฉันอยากบอกผอ.ให้รู้ไว้ อย่าไปบอกใครนะคะ ฉันกลัวเขาจะมีปมด้อย..แค๊มป์เป็นเด็กสมาธิสั้นค่ะ..หมอให้ทานยาต่อเนื่อง แต่พอทานแล้วเขาจะไม่กินข้าว ตอนนี้หยุดยามาหลายเดือนแล้ว...สิ่งที่ผอ.บอกเมื่อตอนเย็นน่ะ ใช่เลย อาการของเขา...”

ผมอึ้ง พูดอะไรไม่ออก...โธ่..ยาย ..แล้วเพิ่งจะมาบอก..ขอบคุณมากนะครับ..ที่ยายกรุณาเล่าความจริงให้ผมได้รับฟัง..ไม่เช่นนั้น ต่อไปผมอาจทำผิดอย่างมหันต์.....

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙

หมายเลขบันทึก: 607515เขียนเมื่อ 30 พฤษภาคม 2016 21:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2016 21:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ปีการศึกษานี้ ดุโรงเรียนคึกคักขึ้นนะจ๊ะ

ยินดีด้วยจ้ะ


สุดยอดครับ การเอาเด็กที่มีปัญหามาเรียนร่วมกับเด็กๆปกติ ถือว่าได้ทำบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ยินดีด้วยนะครับ

ไม่แน่ใจว่าการลงรูปนักเรียนแบบที่เห็นหน้าเห็นตาและเรื่องราวชัดเจน จะเป็นการล่วงละเมิดสิทธิของเด็กหรือเปล่านะคะ อาจารย์ โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องในเชิงความบกพร่องของเด็กน่ะค่ะ บันทึกนี้ยังดีไม่ค่อยเห็นหน้าน้องชัด แต่น้องข้าวโอ๊ต อาจจะเป็นการ"แปะป้าย"ให้น้องไปไหมคะ เพราะบันทึกจะอยู่ยาวนาน มีเรื่องราวได้ แต่รูปน่าจะเอาแบบเห็นไกลๆ บอกตัวตนของเจ้าของเรื่องไม่ถูกดีกว่าไหมคะ

ขออนุญาตทักท้วง ปรึกษามาด้วยความเป็นห่วงค่ะ

เรียน ท่านผู้อ่านด้วยความเคารพ

เรื่องแบนี้ ผมคำนึงในสิ่งที่ท่านเป็นห่วง เรื่องนี้..ไม่มีรูปของ..บุุคคล ที่กล่าวถึงเลย แต่เรื่องของน้องข้าวโอ๊ต เป็นเรื่องเชิงบวก ที่พ่อแม่ เข้าใจ ชุมชนรับรู้ และ เป็นเรื่องที่เด็กกำลังมีความสุขยิ่งขึ้น เมื่ออยู่โรงเรียน แต่เรื่องนี้..เด็กสมาธิสั้น ลงรูปไม่ได้เลยครับ ผมระวังมากอยู่แล้ว ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ

เด็กคงอยู่กับโรงเรียนของ ผอ อีกนาน ถ้า ผอ จะทำกรณ๊ศึกษาเคสนี้ ติดตามพฤติกรรม การเยียวยา แก้ไข การอบรมเลี้ยงดูที่บ้าน และโรงเรียน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เขียนให้พวกเราอ่านอย่างต่อเนื่อง ก็จะกลายเป็นบทเรียนสำหรับโรงเรียนและครูคนอื่น ๆ ได้อย่างดี เชื่อว่า ผอ จะทำได้อย่างดีค่ะ

ดีจังค่ะ มีสมาชิกอย่างพี่โอ๋ช่วยดูแลกันและกันนะคะอาจารย์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท