บันทึกคนเดินทาง : เขาคิชฌกูฏ...ดินแดนรอยต่อ...ของ...สวรรค์และแผ่นดิน


ไม่เคยคิดว่าจะมาปีนเขาคิชฌกูฏ... แต่ก็มาถึง มีคนบอกว่า นี่แหละคนมีบุญ

คุณมะเดื่อได้ยินชื่อ " เขาคิชฌกูฏ " มานานแล้ว

ชาวบ้าน ผู้ปกครอง แม้แต่ประชาชนคนทั่วไป

ทั้งใกล้ และไกล ไปเขาคิชฌกูฏกันมากมายหลายคน

บางคนก็ " หลายหน" ด้วยซ้ำไป หลายคนกลับมา

บอกเล่าพูดคุยกันให้คุณมะเดื่อฟัง...สรุปได้เป็น ๒ นัยว่า:

" ไปด้วยแรงศรัทธา" กับ " ไปด้วยแรงแสวงหา (โชค) "

แต่....ไม่ว่าจะไปด้วยเหตุใด...คุณมะเดื่อไม่เคย...

คิดที่จะไป " เขาคิชฌกูฏ" เลยแม้แต่นิดเดียว



ครอบครัวของคุณมะเดื่อกลับไปยังเขาคิชฌกูฏ ในช่วงเวลาใกล้ค่ำแล้ว

ช่วงเวลานี้ เป็นเวลาที่ทางวัดเขาคิชฌกูฏจัดงาน และ

เปิดให้ประชาชนขึ้นไปไหว้พระบนเขาคิชฌกูฏพอดี

เข้าใจว่า ก็คงเป็นปีละครั้งน่ะแหละ ทั่วบริเวณงาน

มีผู้คนมากมายที่รอเวลาขึ้นไปบนเขาคิชกูฏในเวลาค่ำ

ซึ่งคงเป็นที่ทราบกันดีว่า การขึ้นเขาเวลาค่ำ

จะเป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะไม่ร้อน การขึ้นเขา

จะมี ๒ ช่วงเวลา คือ หัวค่ำ และหลังเที่ยงคืน



สมัยก่อน การขึ้นเขาคิชฌกุฏจะต้องเดินขึ้นไปอย่างเดียว

แต่ ปัจจุบัน จะมีรถขับเคลื่อน ๔ ล้อ รับคนขึ้นไปบนภูเขา

โดยมี ๒ ต่อ ช่วงแรก ไปลงรถครึ่งทาง แล้วไปต่ออีก

ช่วงหนึ่ง จนถึงบนเขา จากนั้นเดินเท้าไปอีกประมาณ

๑ กม. จึงจะถึงยอดเขา ช่วงที่นั่งรถนี้...สุดยอด !!!

ราวกับได้นั่งรถไฟเหาะตีลังกาเลยทีเดียว...

อยากจะถ่ายวิดีโอ...แต่..หมดโอกาส

เพราะสองมือต้องเกาะราวเหล็กข้างรถ

ไว้เหมือนตุ๊กแกเกาะฝา...พลาดนิดเดียว

มีหวัง...ไปนอนชมดาวในป่าข้างทางทันที

ใครเคยไปนั่งรถขึ้นเขาคิชฌกูฏแล้ว

คงทราบกันดีนะ


ตลอดทางเท้าที่ต้องเดินขึ้นไปยอดเขาประมาณ ๑ กม.

มีแต่ " ทางผ่านสร้างบุญสู่สวรรค์" ทั้งนั้น เตรียมเงินไปเยอะ ๆ

ละกัน ไม่งั้น " ศรัทธาหมด...จะอด.....ศรัทธา" นะจะบอกให้



การขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏในเวลาค่ำคืนนั้น คุณมะเดื่อคิดว่า

นอกจากจะไม่ร้อนแล้ว ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศ

ของเมฆหมอกที่ล้อมรอบตัวเรา มองไปทางไหน

ก็เหมือนมีแต่ควันไฟลอยเต็มไปทุกทิศทุกทาง

อยู่ใกล้ ๆ กันยังมองหน้ากันไม่ชัดเลย หากว่า

ไม่มีเหงื่อท่วมตัวยิ่งกว่าเดินตากฝนแล้ว....

คง.." หนาวสุด ๆ " ไปเลย


ทุกเพศทุกวัย เดินไป พักไป ไม่ต้องรีบร้อน

รู้จักกันหรือไม่รู้จักกัน ก็พูดคุย ทักทายกัน

เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศของ...คนแสวงบุญ



จนถึงยอดเขาที่เป็น " ลานบุญ" ผู้คนมากมาย

มีทั้งลูกเล็กเด็กแดง ผุ้เฒ่าผู้แก่...เดินกันขวักไขว่

เสียงประกาศเชิญชวนให้เข้าถึง " บุญ" ทั้งการ

สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา...ฯลฯ ดังไม่ขาดระยะ

แสงไฟสว่างไสว แต่ดูจางหายไปในไอหมอก

ที่หนาทึบ นี่ถ้าเป็นกลางวันคงน่าดูนัก

เมฆหมอกกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ หยดจาก

ใบไม้เปาะแปะไม่ขาดระยะ ถ้าไม่ร้อน

จนตับไตไส้พุงแทบสุก เพราะการ

เดินขึ้นเขา คุณมะเดื่อคงสั่นพั่บ ๆ

เพราะความหนาวเป็นแน่แท้



ใครจะสนใจลวดลาย งดงามที่ผนังก้อนหินสูงหรือเปล่า ไม่รู้ได้

แต่คงไม่มีใครสนใจเป็นแน่ เพราะคงมุ่งแต่ " สร้างบุญ"

กันมากกว่า แต่สำหรับคุณมะเดื่อ...ดูว่าลวดลายที่คงเกิด

จากพืชชั้นต่ำจำพวก ไลเค่นหรือมอส เห็ด รา บนก้อนหินนี้

เหมือนภาพวาดของจิตรกร เสียดายที่เป็นกลางคืน

จึงไม่เห็นความงามของมันได้มากกว่านี้



เขา (ไม่รู้ว่าใครเหมือนกัน) บอกว่า มาเขาคิชฌกูฏ ต้องขึ้นไปให้ถึง " ลานผ้าแดง"

หรือ " ลานพระอินทร์" เพราะเป็นจุดสูงสุดของที่นี่ เหมือน " ลานสวรรค์"

ว่างั้นเหอะ... คุณมะเดื่อไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนหรือ แต่เดินไปเรื่อย ๆ ก็ไปถึงจนได้


บนลานผ้าแดง ผู้คนไม่หนาตาเท่ากับด้านล่าง

คงเพราะ ไม่รู้ตำแหน่งว่าอยู่ตรงไหนก็เป็นได้

บนนี้ลมแรง ค่อนข้างมืด ใครขึ้นมาถึง

ก็นั่งพักสูดอากาศให้คลายเหนื่อย

กันได้เป็นอย่างดี



ไม่เคยคิดว่าจะมาปีนเขาคิชฌกูฏ... แต่ก็มาถึง

มีคนบอกว่า นี่แหละคนมีบุญ...เอ! ใช่เหรอ...

สำหรับคุณมะเดื่อแล้ว...ไม่แน่ใจอ่ะนะ...

พวกเรากลับลงมาจากเขาคิชฌกูฏ ประมาณ ตี ๓

ออกมาหาที่พักนอกเมือง เพื่อจะเดินทางกลับไป

ระยองอีกครั้ง แล้วกลับสู่เส้นทาง

สู่เมืองสามอ่าวต่อไป


หมายเลขบันทึก: 605317เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2016 23:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 เมษายน 2016 23:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดี

คุณมะเดื่อ ผมเองก็ไม่เคยไป(แสวงบุญ)เที่ยวที่นั่นเลย เคยแต่ได้ยินคนเขาพูดกันก็เฉยๆ

ด้วยความที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบเบียดเสียดแก่งแย่งกัน (แม้จะเป็นการแย่งเอาบุญก็ตามเถอะ)

ถ้าจะไปก็ประมาณคุณมะเดื่อนี้ละ คือไปดูเพื่อเรียนรู้ ได้เห็นความเป็นไป

สบายดีนะครับ



หวัดดีจ้ะคุณพิชัย

ใช่จ้ะ ไปดูเพื่อประดับปัญญา

การจะเชื่อหรือไม่เชื่ออะไร

มันก็ขึ้นอยู่กับเหตุผลของแต่ละคน

เราคงไปลบล้างความเชื่อของใครไม่ได้นะ

เอาเป็นว่า เชื่อแล้ว ทำแล้ว สบายใจ

ก็เป็นสิ่งดีละกัน

สำหรับคุณมะเดื่อ เชื่อในคำสอนของ

องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจ้ะ

ทำดี ละเว้นชั่ว ทำใจให้ผ่องใส...

พระ...อยู่ในใจ ไหว้ได้ทุกที่ ทุกเวลา

กับพระ ในบ้าน พ่อ แม่ บุพการี

ก็กราบไหว้ได้ทุกเวลาเช่นกัน

นอกนั้น....ไปดูเพื่อประดับปัญญาจ้ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจ สบายดีตามประสา

คนวัยใกล้เกษียณแหละจ้ะ

สาธุๆครับ

คนเยอะมากครับ

หวัดดีน้องขจิต

จ้ะคนเยอะมาก เขาเปิดปีละครั้ง

ปลายเดือนนี้พี่ล่องใต้นะ

ไปด้วยกันไหมล่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท