ท่านศาสตราจารย์ ทรงศักดิ์ ศรีกาฬสินธุ์ ครูของผมสอนไว้ประมาณว่า
..มนุษย์แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 3 กลุ่มได้แก่
1. กลุ่มวิทยาศาสตร์ จะเชื่อว่า 1 + 1 ต้องได้ 2 ถ้าไม่ใช่ 2 แสดงว่า บวกผิด หมายความว่า สรรพสิ่งส่วนใหญ่จะมีกฏตายตัวมีคำตอบเดียว หนอ
2. กลุ่มสังคมศาสตร์ ถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับสังคมนั้น ๆ เช่น ที่ประเทศเวียตนามจะไปฉลองวันเกิด วันครบรอบแต่งงาน และวันแห่งความสุขทั้งหลายด้วยการกินเนื้อสุนัข แต่สำหรับสังคมไทยใครกินเนื้อสุนัขจะถูกสังคมประนามอย่างหนักว่าเป็นคนไม่ดี นั่นหมายความว่า ถูกหรือผิด ขึ้นอยู่กับสังคมนั้น คำตอบไม่ได้มีคำตอบเดียว หนอ
3. กับมนุษยศาสตร์ ผู้หญิงคนนี้ ภาพวาดนี้ งานศิลปะนี้ แม้คนทั้งโลกจะบอกว่า ไม่สวย แต่ถ้าเขาเห็นว่าสวย เขาก็เชื่อว่าสวย นั่นหมายความว่า ถูกหรือผิดอยู่ตัวของเขา หนอ
ตอนที่ผมเริ่มฝึกปฏิบัติธรรมใหม่ ๆ นั้น ผมเริ่มจากปริยัติพระธรรมก่อน
ด้วยความไม่รู้ จึงปรุงแต่งไปว่า ปฏิบัติธรรมที่ไหนก็ได้ทำไมต้องไปวัดด้วย ?
ปริยัติอยู่หลายปี เอาแต่ "ปัญญาเฉโก" (ปัญญาที่คิดเอาด้วยสมอง)
"ศรัทธา" หางเต่า ไร้บุญวาสนา จึงหาทางเข้าวัดไม่เจอ
ปีต่อ ๆ มา ผู้รู้ท่านเมตตาชี้แนะว่า ถ้าพระรัตนตรัยยังไม่ครบองค์สาม
จะเหมือนเดิน 3 ก้าว ถอย 2 ก้าว ย่ำอยู่กับที่ ไม่ต่อไม่ได้
ประกอบกับ "ศรัทธา" ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จึงมีบุญวาสนาอยากจะลองเข้าวัดดู
เทศกาลปีใหม่ปี 2552
จึงได้อาศัยบารมีพ่อตาท่านพาไปกราบพระอรหันต์ 3 องค์
ทั้งสามองค์ท่านเมตตาแสดงฤทธิ์ให้นักคอมพิวเตอร์เห็น
เอาล่ะสิ นักวิทยาศาสตร์ เจอสิ่งที่เหนือกว่า วิทยาศาสตร์
ถึงกับพลิกในบัดดลเลย หนอ
มาทราบตอนหลังว่า จะเปลี่ยนนักวิทยาศาสตร์ให้หันมาทางธรรมนั้น
ต้องแสดงฤทธิ์ที่เหนือกว่าวิทยาศาสตร์ให้ดู หนอ
กราบ กราบ กราบ
วิทยาศาสตร์ชาวตะวันตกจะเก่งกาจขนาดไหนนั้นเป็นการพิสูจน์หลักตามกระบวนการ..แต่วิทยาศาสตร์ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ 2559 ปี ล่วงมา ก็ยังเป็นจริง ธาตุที่นักวิทยาศาสตร์แยกก็มาจากธาตุ 4 ดังนั้นเหนือที่สุดคือ ธรรม เห็นด้วยกับท่านอาจารย์..จะเก่งวิย์ก็ยังสู้วิทย์พระพุทธเจ้าไม่ได้
ก่อน(คิด)จะเปลี่ยนคนอื่น..(อาจจะเป็นนักวิทยาศาตร์ที่ว่า)..เราเปลี่ยน..ตัวตน..(อัตตา)..ได้รึ..ยัง....เจ้าค่ะ....
สวัสดีปีใหม่ไทยครับทุกท่าน
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ