โดยทั่วไปแล้วจะเห็นได้ว่าธนาคารกลางนั้นมีลักษณะที่แตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ เพราะว่าเป็นสถาบันที่มุ่งรักษาผลประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ โดยมิได้มุ่งหวังกำไรจากการดำเนินการ เหมือนกับสถาบันการเงินอื่นๆ
เพื่อการควบคุมปริมาณเงิน ให้มีจำนวนเหมาะสมตามความต้องการของธุรกิจและประชาชนทั่วไป ทั้งนี้เพราะว่าในการออกธนบัตรเพื่อนำมาใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจนั้นจะต้องมีความสอดคล้องกับสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศเสมอ
ซึ่งหน้าที่ของธนาคารกลางในฐานะเป็นนายธนาคารของรัฐบาลนี้ก็จะมีหน้าที่คล้ายๆ กับธนาคารพาณิชย์ในการให้บริการแก่ลูกค้า ด้วยเหตุที่ว่าธนาคารนั้นต้องทำหน้าที่ดังต่อไปนี้ คือ
การที่จะกล่าวว่าธนาคารกลางนั้นเป็นนายธนาคารของธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าธนาคารกลางนั้นเป็นสถาบันทางการเงินที่ต้องคอยดูแลระบบการเงินของประเทศ ซึ่งบริการที่ทางธนาคารกลางนั้นมีให้แก่ธนาคารพาณิชย์ก็จะเป็นการให้บริการในทำนองเดียวกับที่ธนาคารพาณิชย์ให้แก่ลูกค้าของธนาคาร โดยหน้าที่หลักๆ คือ 1.รับฝากเงิน 2.รับหักบัญชีระหว่างธนาคาร 3.ให้กู้ยืมเงินเป็นแหล่งสุดท้าย และ 4.เป็นศูนย์กลางการโอนเงิน
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความราบรื่นในการค้าระหว่างประเทศ มีจุดมุ่งหมายเพื่อประโยชน์ในการกระจายเงินตราต่างประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยรวม อีกทั้งยังคอยเป็นสถาบันที่ปกป้องเงินทุนไม่ให้ไหลออกจากประเทศมากนัก เพราะจะส่งผลกระทบต่อดุลการค้าโดยตรง และที่สำคัญคือการรักษาค่าเงินในประเทศของตนให้คงมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้เนื่องจากธนาคารกลางนั้นเป็นผู้รักษาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องติดตามกาเคลื่อนไหวทางการเงินของในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินตราในตระกูลที่สำคัญ เช่น ดอลล่าร์ สหรัฐอเมริกา ปอนด์สเตอร์ริงค์อังกฤษ เป็นต้น
ที่มา www2.nkc.kku.ac.th/bodee.p/Academics_Data/.../ChapterVIII.doc
ไม่มีความเห็น