เคยเจอกับตัวเองไหมครับว่าชีวิตนี้จะอยู่ไปเพื่ออะไร บางที่เราเรียกว่าอยู่ในภาวะที่หาตัวเองไม่เจอ เนื่องจากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีโอกาสได้ไปสอน ไปเป็นที่ปรึกษาในองค์กรหลายๆแห่ง ทำให้มีโอกาสเจอคนเป็นจำนวนมาก และคนจำนวนมากที่ผมเจอก็ดูเป็นคนเก่ง หลายคนเรียนอะไรมามาก มีประสบการณ์สูง แต่กลับบ่นว่าสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ “ไม่ใช่” อยากก้าวไปข้างหน้า อยากทำอะไรที่ชอบ ก็ไม่รู้จะไปทางไหน จะทำยังไงดี คำพูดที่ได้ยินซ้ำๆคือ “ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ” ระยะสิบปีหลังดูเหมือนผมจะต้องตอบคำถามนี้เกือบทุกวัน มีคำถามอีกว่า “ถ้าค้นหาตัวเองพบแล้วจะเกิดอะไรขึ้น” ตามประสบการณ์ผม สิ่งที่เห็นชัดๆคือ ความมีชีวิตชีวา ความกระตือรือร้น การเติบโตในอาชีพ รายได้
มีหมอฟันที่ผมรู้จักท่านหนึ่ง เลือกเรียนทันตแพทย์ตามค่านิยม เรียนไปเรียนมารู้สึกไม่ชอบ และรู้สึกเป็นภาระหนักยิ่ง แต่เมื่อเรียนไปถึงปีห้าก็ค้นพบว่าชอบงานศัลยกรรมช่องปาก เพราะทำแล้วรู้สึกว่าเป็นอะไรที่ทำได้ดีมากๆ ก็เลยตัดสินใจเรียนต่อเป็นผู้เชี่ยวชาญ ปัจจุบันเติบโตในอาชีพจนกลายเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลฟันของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่ยังมีความสุขต่องานศัลยกรรม เท่าที่ผมติดตามคุณหมอท่านนี้มาก็ค้นพบว่าท่านมีความสุขในงานที่ทำเรียกว่าถึงขั้นที่เรียกว่าหลงใหล หรือเรียกว่ามี Passion ทีเดียว นอกจากนี้ยังรู้สึกว่าชีวิตมีทิศทาง เกิดมาเพื่ออะไร (Purpose) คุณหมอบอกว่าว่าชีวิตนี้เกิดมาเพื่อใช้ความรู้ด้านศัลยกรรมช่องปากมาทำให้ชีวิตคนไข้มีคุณภาพมากขึ้น ทุกวันนี้อยู่ไปเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถเพื่อรักษาคนไข้ (เช่นคุณหมอพยายามค้นคว้าเรื่องการผ่าตัดกรามให้โครงหน้าคนไข้ออกมาสวยงาม) คุณหมอจะชอบเอารูปคนไข้มาอวดเพื่อนๆหมอด้วยกัน ว่านี่ไงรูปคนไข้ที่คุณหมอผ่าไป เห็นไหมสวยขนาดไหน ด้วยความภาคภูมิใจที่เห็นคนไข้ดีขึ้น
ชีวิตที่ “ใช่” คือชีวิตที่ทำงานได้ผล คนก็มีความสุข มีความไฟ มีพลังในอาชีพ คนญี่ปุ่นถือว่าการตอบโจทย์ชีวิตที่”ใช่” คือชีวิตที่อยู่ด้วยความรักในสิ่งที่ทำมากๆ (Passion) และการรู้ว่าเกิดมาเพื่ออะไร หรือจุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่ (Purpose) ถือเป็นเรื่องใหญ่ บางครั้งเรียกว่า “เหตุผลของการมีชีวิตอยู่”
คำถามคือแล้วจะหาอย่างไร เมื่อก่อนกว่าผมจะช่วยใครได้ ต้องคุยกันนาน ตอนนี้ ผมมีเครื่องมือง่ายๆ ที่ประกอบด้วยชุดคำถามสี่ข้อ โดยจะพยายามหาความหลงใหล (Passion) สามข้อ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นจุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่ (Purpose) คำถามนี้เรียกรวมๆกันว่า Funnel Test
- ทุกวันนี้ใช้เวลาหมดไปกับกิจกรรมอะไรแล้วทำให้เราลืมวันเวลามากที่สุด
- คุณคิดว่าท่านอะไรได้ดีกว่าคนอื่นๆประมาณว่า “ถ้าเรื่องนี้ ต้องมาหาคุณเลย”
- ใคร กลุ่มคนแบบไหน หรือลูกค้าแบบใด ที่นำความสุขใจมาให้คุณ
- เมื่อได้ Passion สามข้อแรก ลองเอามารวมกันเป็นงานที่คุณจะทำ ตรงนี้เองมันจะกลายเป็นจุดประสงค์ (Purpose)
ยังไม่จบต้องเช็คอีกทีว่า Purpose ของเราตอบโจทย์ชีวิตเราจริงๆได้หรือไม่ ซึ่งทำได้ด้วยตอบคำถามต่อไปนี้
- Purpose นี้จะนำมาซึ่งความสุขในชีวิตหรือไม่
- เราจะเลี้ยงชีพได้หรือไม่
- Purpose ของเราขัดแย้งกับ Passion เราหรือไม่
- Purpose ของเรามีส่วนช่วยโลกใบนี้หรือไม่ หรือช่วยทำให้คนอื่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหรือไม่
- เราต้องปรับเปลี่ยนอะไรให้เราสามารถใช้ชีวิตตาม Purpose เราหรือไม่
หลายๆปีมานี้มีโอกาสช่วยคนให้ค้นพบตัวเองไปหลายคน มีท่านหนึ่ง ได้ค้นพบตัวเองผ่านชุดคำถามนี้ครับ
- ทุกวันนี้ใช้เวลาหมดไปกับกิจกรรมอะไรแล้วทำให้เราลืมวันเวลามากที่สุด “ชอบช๊อปปิ้ง แต่งตัว แถมช่วยเพื่อนด้วย ชอบศึกษาเรื่องการแต่งตัวให้มันออกมาดูดี และเป็นที่ปรึกษาให้คนอื่น”
- คุณคิดว่าท่านอะไรได้ดีกว่าคนอื่นๆประมาณว่า “ถ้าเรื่องนี้ ต้องมาหาคุณเลย” คำตอบคือ “เชื่อมโยงสร้างธุรกิจ พัฒนาธุรกิจ รู้จักผู้คน ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ดิฉันรู้จักคน รู้จักเข้าหาคน ทำให้คนหันมาเป็นหุ้นส่วน่รวมลงทุนกับบริษัทได้ ดิฉันทำงานเกี่ยวกับบรหารพื้นที่ในห้างสรพพสินค้าค่ะ นี่คือสิ่งที่ดิฉันทำได้ดีเลย”
- ใคร กลุ่มคนแบบไหน หรือลูกค้าแบบใด ที่นำความสุขใจมาให้คุณ “คนที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิต”
- เอาสามข้อแรกมาร่วมกันเป็นส่ิงที่อยากทำจริงๆ สิ่งที่ใช่สิครับ “ ดิฉันเห็นคนที่กำลังลุยสร้างความก้าวหน้าในชีวิต หลายคนแต่งตัวไม่เป็น ไม่สามารถดึงเอกลักษร์ตัวเองออกมาได้ ดิฉันอยากทำงานเป็น Identity Coach ค่ะ คือคนที่จะไปเป็นที่ปรึกษาเรื่องการแต่งตัวให้ลูกค้าให้ออกมาดูดี เปล่งประกาย ดิฉันอยากใช้ชีวิต เพื่อช่วยให้คนไทยค้นพบสไตล์ของตนเอง สามารถใช้การแต่งตัวมาส่งเสริมความสำเร็จของตนเองได้
ยังไม่จบต้องเช็คอีกทีว่า Purpose ของเราตอบโจทย์ชีวิตเราจริงๆได้หรือไม่ ซึ่งทำได้ด้วยตอบคำถามต่อไปนี้
- Purpose นี้จะนำมาซึ่งความสุขในชีวิตหรือไม่ “ถ้าทำอย่างนี้ได้ดิฉันจะมีความสุขมากๆ”
- เราจะเลี้ยงชีพได้หรือไม่ ได้แน่แต่ไม่ใช่วันนี้ เห็นตัวอย่างโค้ชด้านนี้ในกรุงเทพ เก็บค่าออกแบบสไตล์ รวมพาช๊อปปิ้งได้วันละสี่หมื่นบาทต่อคน ต่อวัน
- Purpose ของเราขัดแย้งกับ Passion เราหรือไม่ ไม่ขัดครับ ดูไปกันได้
- Purpose ของเรามีส่วนช่วยโลกใบนี้หรือไม่ หรือช่วยทำให้คนอื่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหรือไม่ นี่ใช่เลย
- เราต้องปรับเปลี่ยนอะไรให้เราสามารถใช้ชีวิตตาม Purpose เราหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่สามารถทำเป็นงานหลักได้ ก็ทำงานให้ห้างไก่อน ฝึกมือไปเรื่อยๆ
ปัจจุบันคนที่ตอบคำถามนี้คือโค้ชติ๊ก ที่รู้จักกันในนามของ Tig Identity Coach ตอนนี้จากงานอดิเรก โค้ชติ๊กเริ่มสร้างรายได้ จากการเป็นโค้ชที่ช่วยลูกค้าค้นหาสไตล์การแต่งตัวที่ใช่ โดยโค้ชจะถามก่อนว่าคุณทำงานอะไร มีความฝันอะไรในชีวิต และก็จะใช้ความสามารถส่วนตัว ในฐานะที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของห้างใหญ่แห่งหนึ่ง ที่ต้องสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทุกระดับ ให้คำปรึกษากับลูกค้าจนหาสไตล์ที่เหมาะสมของตัวเองได้ ผมเองก็เคยใช้บริการของโค้ชติ๊ก โค้ชได้ช่วยจัดชุดวิทยากรให้ผม โดยเน้นที่สีเหลือง สีชมพู และกางเกงสีเนวี่บลู เพราะเหมาะกับอาชีพ และ Passion ของผมที่เป็นอาจารย์ด้านจิตวิทยาบวก สีเหลือง สีชมพู กับกางเกงสีเนวี่บลู เป็นอะไรที่สะท้อนตัวตนของผมมากๆ ใส่แล้วมั่นใจในอาชีพมากขึ้นจริงๆ แถมคนมักเข้าหา ไม่เหมือนเดิมที่ผมชอบใส่อะไรดำ ทึมๆ ดูขัดกับสิ่งที่ผมสอนที่เน้นอารมณ์ดี เปิดกว้าง และมีความสุข ตอนนี้มั่นใจในอาชีพเลย เลิกแต่งอะไรทึมๆ ตอนนี้มีแต่คนทักว่าแต่งตัวดี มีสไตล์มากๆขึ้น
ผมว่าคนเราถ้าตอบคำถามว่าอะไรที่ใช่ของเราได้ อยากที่ผมบอก คนๆนั้นจะดูมีความสุข มีความรู้ และมีความก้าวหน้า มีชีวิตที่ “ใช่” จริงๆ คุณละค้นพบชีวิตที่ “ใช่” ขอบคุณหรือยัง ถ้ายัง ลองมาตอบคำถามข้างบนกันนะครับ เสียเวลานิด แต่จะคุ้มค่าจริงๆครับ ทุกวันนี้ผมยังได้ยินเรื่องดีๆ ความสุข ความสำเร็จ ความภูมิใจจากคนที่ผมได้ตั้งคำถามนี้ช่วยให้เขาค้นพบตัวเองไม่ว่าจะเป็นคุณหมอ โค้ชติ๊ก และอีกหลายๆคน ผมเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย
บทความโดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธ์ุ
Certified Positive Psychology Practitioner/Appreciative Inquiry Consultant
ผู้ก่อตั้ง AI Thailand
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ดร. ภิญโญ รัตนาพันธุ์ ใน Appreciative Inquiry
สวัสดีค่ะอาจารย์โย
ขอบพระคุณสำหรับข้อคิดดีๆนี้นะคะ