หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ทำอะไร..เพ่!


หลังจากชีวิตได้ก้าวเดินไปบนถนนสายที่ ๖๐ ระหว่างทางมักจะมีคนป้อนคำถามว่า "เกษียณแล้วทำอะไร เพ่" จนวันนี้ได้เปลี่ยนเส้นทางใหม่มาเดินบนถนนสายที่ ๖๑ คนก็ยังป้อนคำถามดังว่าอยู่อ่ะ ถือว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกันกับการรำลึกถึงอะไรที่ได้ทำแล้วบอกกล่าวตอบออกไป

บอกตัวเองว่ารวบรวมไว้หน่อยก็ดีว่าปีกว่าๆที่ปลดวางหน้าที่ข้าแผ่นดินแล้วเป็นยังไง....อะไรบ้างที่ทำยาก อะไรบ้างที่ทำง่าย....จะได้เห็นตัวเองอีกครั้งว่าลิขิตชีวิตตัวเองอย่างไร

มีคนตั้งคำถามว่า เมื่อตื่นนอนขึ้นมาในวันแรกของเวลาหลังเกษียณเผลอตัวเตรียมไปทำงานหรือเปล่า....อืม วันนั้นไม่ได้แวบคิดถึงงานแม้แต่นิดเดียว...ตื่นมาก็เถลไถลทำโน่นนี่นั่นตามแต่ใจ ไม่มีวี่แววเผลอเรอ กระสับกระส่ายแม้แต่น้อยว่าคิดถึงการทำงาน....จริงๆนะ

ผ่านไปสัปดาห์หนึ่ง ใจมันวิบวับหันมองมือ เหลียวรอบตัว....ในช่วงนี้มีเรื่องท้าทายอยู่ตรงที่...ตอนยังทำงานนั้น แบบว่าทำอะไร ต่อมิอะไรด้วยตัวเองเยอะ…ได้ใช้เวลาแต่ละวันหมดลงเร็วมาก มากจนหลงเลยเถิดไปว่าเวลามีน้อย รีบทำงานซะมากมาย....พอเกษียณ โดนจับแต่งตัว สวมหัวโขนชุดใหม่....จะทำอะไรต่อมิอะไร มีคนคอยทำให้ ไม่ต้องขับรถเอง มีคนบริการพาตะลอนหาข้าวกิน....เวลาที่ว่าน้อย เลยกลายเป็นเหลือมาก....ท้าทายจริตตัวจริงๆกับการปรับตัวให้เข้ากับหัวโขนใหม่....สุดท้ายลองตั้งหลัก...นั่งเฝ้าทีวีกับเขาดูมั่งน่า ไม่ดู ไม่แช่ตัวอยู่หน้าจอนานมากแล้ว...สมองยอมรับข้อเสนอ...เอาก็เอา

แล้วเวลาก็หมดไปกับการนั่ง-นอนดูทีวีแบบว่าดูได้ดูดีตลอดวัน...เปล่านะ....ไม่ใช่การติดตามรายการข่าวสด ข่าวแห้งหรอก....ตามดูดาราละเล่นก็มิใช่....ตามฟัง ตามลุ้นความสามารถของวัยสะออนก็หาใช่ไม่....หนังเกาหลีโบราณซีรี่ส์ยาว บทบาทของหน่วยสืบฆาตกรรมในหนังตอนมั่ง สัตว์ในสารคดีมั่ง...นั่นแหละที่เป็นตัวดึงดูด.....เป็นไปได้

แล้วก็ซ้อมตัวเอง เตรียมลอกหัวโขนออกทีละชั้น เป็นหลักเป็นฐานกับการนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถของสาวน้อยนางหนึ่งทุกๆเย็น พาตัวเองกลับไปรับจ๊อบใหม่ เปิดครัวคุณหมอวัยปลายขึ้นในบ้าน แวะเที่ยวชมตลาดชาวบ้านทะลุปรุโปร่งทุกซอกทุกมุม ไม่น่าเชื่อว่าประสบการณ์ง่ายๆแบบนี้ท้าทายอัตตาได้มากจริงๆ

มีคนบอกว่า หลังเกษียณนั้น บรรดาคนที่รู้จักจะกลายเป็นคนไม่ค่อยรู้จัก คนที่ไม่ค่อยรู้จักจะกลายเป็นคนที่ไม่รู้จัก กว่าจะได้กลับเข้าไปเยี่ยมองค์กรที่เคยทำงานอีกครั้ง ก็เดินทอดน่องลึกเข้าไปในถนนสายที่ ๖๐ ท่อนหนึ่งแล้ว...ก็ได้พบคำเฉลยที่ให้คำตอบคล้ายๆ....แปลกใจกับความจริงที่ยืนยันอยู่เหมือนกัน.... คนที่รู้จักกลายเป็นคนไม่ค่อยรู้จัก นี่ใช่เลย....ที่น่าฉงนคือ คนที่ไม่ค่อยรู้จักกลับกลายเป็นคนที่รู้จักมากขึ้น....ข้อดีของความจริงนี้คือ ให้คำยืนยันว่า เวลาที่ใช้คุ้มและมีค่าที่สุดในชีวิตคือ เวลาที่ให้ตัวเอง ให้ครอบครัวนั่นแหละ ใช่เลย...ข้อเสีย..ไม่มี ก็เรื่องของคนอื่นเป็นเรื่องของคนอื่น เป็นความจริงที่ไม่มีเรื่องเสีย

ชีวิตตอนทำงานไม่ใคร่ได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศในแบ๊งค์ เรื่องกดเอทีเอ็มนะเป็นเรื่องจ้อย หลังเกษียณมีบทฝึกที่หยิบจับมารื้อฟื้นใหม่ เดินเข้าแบ๊งค์เองมั่งจะเป็นไรเชียว โอ๊ะ โอ๋ เข้าไปแล้วก็รู้สึกแปลกๆ พนักงานทักทายเสียงใสว่าคุณป้ามาทำอะไร เหลียวมองรอบตัว อ้าวววววว ผู้คนส่วนใหญ่ที่นั่งคอยบริการนะรุ่นลูกทั้งน้านนนน ไม่เจอหน้าคนเคยรู้จักแล้วซิน่า

เขาว่าคนทำงานมีงานสังคมเยอะกว่าคนเกษียณ ตรงนี้ยังไม่สามารถค้นหาความจริงจากประสบการณ์ตัวมายืนยันได้ รู้แต่ว่าเวลาเหลือเฟือ ไปแจมงานสีดำคล่องตัวขึ้นเยอะ

เดินถนนสายที่ ๖๐ จนสุดถนนแล้ว เรื่องละบ้านยังเหมือนก่อนเกษียณ มีเสียงเพรียกจากพรรคพวกแดนไกลโพ้นมาทีไร ตอบรับได้ ไปโลดทุกที่ทาง.... เวลาเยอะ ท่องเที่ยวได้เพลินขึ้น.....ไปไหนๆเจาะจงสถานที่ เพิ่มเวลาดื่มด่ำบรรยากาศรอบข้างได้มากขึ้น พบมุมแปลกๆใหม่ๆให้ตื่นตาอยู่เรื่อย..... นั่งสองแถวตะลอนๆไปแบบไม่มีเป้าหมายปลายทาง ขึ้นรถเมล์สบายใจเฉิบ เก็บประสบการณ์นั่งรถเมล์ฟรีก่อนรัฐบาลจะเลิกเป็นกำไรชีวิตหลายครั้ง เป้ใบโปรดเริ่มประท้วงขอไม่ไปด้วย ก็ไม่แน่ใจว่าคุณเป้จะติดหลังไปต่อบนถนนสายที่ ๖๑ ไหวมั๊ย

งานสังคมตามคำเชิญมีให้เลือก ก็มักจะเลือกไม่เข้าไปแจมซะงั้น...จนโดนแซวว่าชอบทำตัวเป็นคนหายสาบสูญ....หลังเกษียณก็ชอบที่จะใช้เครื่องแบบนี้เป็นประจำ....กางเกงขาสั้น กางเกงเล เสื้อยืด รองเท้าแตะ ผมสั้นทรงนักเรียน สะบัดเสร็จแล้วก็ออกจากบ้าน...เสื้อขาว กางเกงขาว ผ้านุ่งสีสวย เสื้อสวยๆ พร้อมแล้วไปวัด...เสื้อแฟชั่นหยิบจากตู้พับบริจาคไปซะครึ่งตู้แล้ว...งดตัดเสื้อผ้าใหม่ไปด้วยซะเลย....เป็นโอกาสได้ลอกหัวโขนออกที่ดีมากๆ

ถ้าท่องเว็บแล้วป้อนคำว่า เตรียมตัวเกษียณ...ก็ไม่แคล้วจะพบคำชวนให้คิดเรื่องออมเงินมั่ง ลงทุนเงินออมให้งอกเงยมั่ง สำหรับคนทำงานที่เคยมีรายได้ จะให้ลอกหัวโขนเรื่องเงินนี่ยากใช้ได้เชียวแหละ......โชคดีที่เตรียมตัวเรื่องนี้มายาวนาน ช่วงเวลาที่รู้สึกอึดอัดตอนลอกหัวโขนปลดล็อกความอยากทำงานเพื่อให้มีเงินได้อีกจึงสั้น...ปรับชีวิต ทบทวนทรัพย์ที่มี ก็พอใจว่าทรัพย์ที่สะสมได้จากการทำงานนั้นมีพอเพียง ถึงวันตายทรัพย์ดังกล่าวจะยังใช้ไม่หมด ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ใช้ให้สมเหตุสมผลเข้าไว้....ส่วนแบ่งที่จะมอบให้ทายาทมั่นใจได้ว่ามีเพียงพอ ให้เขาถือครองปัจจัยสี่ได้ครบถ้วน ใช้สร้างชีวิตคล่องตัว....มีเท่าไรแบ่งส่วนเอาไว้ใช้ให้ได้ตามประสงค์เหอะน่า....ชิวๆได้

ก่อนเกษียณก็คิดๆไว้ว่าเกษียณแล้วจะทำอะไร คิดเอาไว้เยอะไปหมด เอาเข้าจริง ที่คิดไว้ก็มีหลายอย่างยังไม่หยิบทำ มีหลายอย่างที่หยิบทำแล้ววาง ความคิดเกี่ยวกับความสำเร็จของงานเปลี่ยนไป งานยังไม่สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันก็เย็นใจอยู่ได้ เรื่องที่อยากทำจริงจริ๊งหดจำนวนลงเรื่อยๆ ในบางวันไม่มีเรื่องที่อยากทำเลยก็มี การทำงานใช้ความรู้ตามความถนัดของอาชีพ คิดไว้หลายเรื่อง หาโอกาสที่จะทำตามที่คิดแล้วแป่ว เดินไปค่อนถนนแล้วจึงพบความจริงอีกข้อว่า ระบบราชการมีประตูเปิดรับประชาชนเต็มขั้นให้เข้าไปมีส่วนร่วมในฐานะจิตอาสาเพื่อประชาชนน้อยบานจริงๆ

เรื่องที่ต่างไปจากเดิมมีเรื่องเดียว เป็นเรื่องใหม่ที่ทำแล้วตัวเองสนุก ปลดหัวโขนกลายเป็นเด็กไปเลย เรื่องที่ว่าก็คือเรื่องปลูกต้นไม้ เดินมาสุดถนนแล้วยังสนุกอยู่เลย

ก็อย่างที่เล่าว่า จะขับรถก็มีคนขับให้ จะไปไหนก็มีคนคิดให้ เดินได้ค่อนถนนก็เริ่มอึดอัดที่ไปที่ชอบที่ชอบไม่สะดวกใจ แถมยังพบว่าสัญชาตญาณตอบสนองเมื่อขับรถถดถอยจนรู้สึกตกใจ..…ก่อนเกษียณ…การไปที่ชอบที่ชอบตามจริต มีหัวโขนช่วยเปิดทางโลด...ความมีที่ชอบไม่เหมือนกันของแต่ละคนในบ้านตามจริตและจิตเบื้องลึกไม่เป็นอุปสรรค…เวลาที่มีจำกัดเอื้อให้เกิดความลงตัวที่เป็นเหตุเป็นผล....หลังเกษียณ ไม่มีหัวโขนแล้ว กลับมีกรอบจำกัดทางสังคมเข้ามาขวาง ทำให้จะชอบทางไหนไปทางนั้นยากซะงั้น...จึงตัดสินใจประกาศอิสรภาพให้ตัวเอง ได้หยิบจับทำอะไรเองเฉกเช่นก่อนเกษียณ......ลอกหัวโขนที่คนกันเองหยิบมาสวมให้ออกไป.....ไม่รอให้มีเพื่อน ไม่รอเหตุผล…ไม่รอให้ใครมาเคาะเตือน...เหมาะจะไปที่ชอบที่ชอบเมื่อไรก็ไปทันที.....และแล้วสัญชาตญาณตอบสนองเมื่อขับรถที่ถดถอยก็ได้คืนกลับมา ดีใจ๊ดีใจ....555

การประกาศอิสรภาพให้ตัวเองเปิดโอกาสให้ได้รู้จักร่างกายตัวเองลึกซึ้งมากขึ้นเยอะเลย.....เหลียวมองรอบตัว มองเข้าไปท่ามกลางกลุ่มผู้สูงวัยกว่า ค้นหาคำทำนายถึงสิ่งที่อาจต้องเผชิญเมื่อเดินเข้าสู่ถนนสายที่เขากำลังเดินอยู่ เปิดตาสว่างก็พบคำทำนายนั้นจากผู้คนรุ่นลุงป้าน้าอา....ทำให้รู้ว่าในส่วนลึกของความคิดไม่กล้าเผชิญสถานการณ์คนสูงวัยความจำเสื่อมได้เลย.....ตอนที่ค้นพบความรู้สึกเช่นนี้ มีประสบการณ์ว่าสมองสร้างจินตนาการและนำพาขึ้นมาหลอกหลอนต่างๆนาๆให้เกิดความกลัว นำพาให้อยากรู้จักตัวเองมากกว่านี้....ก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นอีกนิดว่าที่เคยบอกตัวเองว่าพร้อมตายทุกเมื่อนั้นไม่จริง แล้วอะไรอีกละที่คิดว่ารู้จักแล้วแต่ความจริงยังไม่รู้จักเลย

ก็รู้อยู่ว่าสิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือสุขภาพ (ที่เงินซื้อไม่ได้ แต่ใช้ทำร้ายได้)…ตอนทำงานประจำเป็นเด็กแนว เดินหน้าหนุนให้ใครต่อใครช่วยกันเติมเต็มคำแนะนำการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง....ก่อนเกษียณเป็นยังไง หลังเกษียณสุขภาพในกายก็เป็นยังงั้น....ที่ดีกว่าเดิมคือกล้ามเนื้อ ก็เรื่องใหม่ที่ชอบ ที่ชอบที่ชอบที่มักเลือกพาตัวไปสิงอยู่ให้คุณ เปลี่ยนร่างกายให้บึกบึน มีน้ำมีนวล แถมผิวสีแทนเข้มนอกร่มผ้าและใบหน้าให้ด้วย.....ฟิตแอนด์เฟิร์มคือคำทักทายที่มิตรสนิทออกปากทักทายเมื่อเจอกัน พอใจกับตัวเองที่ยังทะมัดทะแมง ปีนป่าย ไต่ โหนได้สบายๆ....เดี๋ยวนี้ร่างกายเสพติดกิจกรรมเหล่านี้ไปแล้ว วันไหนไม่ขยับตัว เอาแต่นั่งสบาย วันนั้นมีอันเมื่อยน่อง ขา หลัง ไหล่ให้เป็นเรื่องทันที

เวลามีเยอะก็ตั้งใจจะปฏิบัติธรรมให้มากขึ้น เอาเข้าจริงเมื่อให้เวลาไปที่ชอบที่ชอบอยู่เรื่อยๆก็ไม่สามารถ จึงตั้งหลักใหม่ ค้นหาจริตเบื้องลึก แล้วประจักษ์ว่า เมื่อพาตัวไปสิงอยู่ในที่ชอบ จริตส่วนตนจะซุกซนเหมือนเด็ก ถ้าได้วิธีปฏิบัติที่เหมาะกับสถานการณ์มาใช้จะแจ๋วไปเลย....เด็กช่วยเติมเต็มความสดใส เป็นผู้ใหญ่ก็ให้คบเด็กเข้าไว้ ก็ได้กัลยาณมิตรใหม่วัยละอ่อนหลายคนมาเป็นเพื่อนกลุ่มใหม่ คบกันก็ชวนกันเข้าสู่เส้นทางธรรม....ได้สัมผัสวิถีธรรมหลากรูปแบบ ที่เก็บเกี่ยวมาใช้ปฏิบัติในชีวิตประจำวันนอกวัดได้.....เป็นเรื่องใหม่ๆที่นำพาความเป็นมงคลมาให้เมื่อเดินถนนสายที่ ๖๐

มีคนแนะว่าหลังเกษียณให้หมั่นสร้างความสดใส กระตือรือร้น กระฉับกระเฉง....เกมแบบของเล่นเด็กนั่นแหละเป็นเครื่องมือที่ใช้ได้.....เล่นเพื่อจะฝึกให้ประสาทสัมผัส สายตา สมองและกล้ามเนื้อทำงาน กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดดี....ให้เขียนบันทึกทุกวันด้วย…จะเป็นไดอารี่ บันทึกความทรงจำ หรืออะไรก็ได้…เรื่องที่เขียนให้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเมื่อวานเท่านั้น...เอาไว้อ่านย้อนหลังว่าทำอะไรไปมั่่ง

เชื่อเหอะว่าตั้งใจและทำแล้ว...ก็การปลูกต้นไม้ในที่เสื่อมโทรมให้เป็นป่านิเวศไงใช้เป็นเกมซะเลย...ที่ไม่เคยเล่นและไม่เลือกเล่นแน่ๆก็เกมหุ้น.....เขียนบันทึกนั่นนะสบายใจได้ ทำอยู่แล้วแม้จะหายตัวไปหลายเดือน...ไม่ได้หายไปไหนหรอก แค่ตั้งใจว่าจะฟังให้มากขึ้น คุยให้น้อยลงเท่านั้นเอง...แฮ่ แฮ่ แฮ่

๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๘

หมายเลขบันทึก: 598569เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2015 23:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 ธันวาคม 2015 12:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สรุป..แล้ว..ทำไร..เฟ่..(ล้อเล่น.)เจ้าค่ะ ".ขอให้มีความสุข..กับปัจจุบัน..ขณะ..ทุกๆวัน..นะเจ้าคะ..

มีคำถามเหมือนกันว่า เมื่อไหรจะหยุดทำ (จากคนที่บ้าน

ค่ะคุณยายธี ปัจจุบันขณะเป็นสิ่งมหัศจรรย์มาก ชีวิตที่ช้าลงเติมเต็มโอกาสให้ได้เข้าถึง โลกธรรม ๘ ที่เกิดดับ เติมความเข้าใจว่าการครองตนด้วย มรรค ๘ ให้เกิดมัชฌิมาปฏิปทาเฉพาะตัว อันนำสู่ความสงบและสันติในจิตตนให้มากมายเชียวค่ะ

บัง วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--ค่ะ ค่อยๆผ่อนลงๆนะคะ ยังไงตัวเราก็ต้องการเวลาสำหรับปรับตัวให้เข้ากับสภาวะที่ทำอะไรเองไม่ได้ ต้องพึ่งพาคนอื่นอยู่ดี เวลาที่ยังมีจึงสมควรที่จะได้แบ่งปันไว้สำหรับฝึกฝนการอยู่ร่วมให้ลงตัวทั้งเราและเขา เพื่อให้ความสุขจะเป็นของทุกคนค่ะ

อย่าหายไปนาน

มาเขียนเรื่องให้อ่านบ่อยๆนะครับ

กำลังปลูกผักกับนักเรียนอย่างสนุกสนานครับ

-สวัสดีครับพี่หมอเจ๊..

-ตามมาอ่านบันทึกคน 61 ครับ

-อ่าน ๆ ๆ ได้ข้อคิดหลายอย่าง..มาปรับใช้..

-หากมีเวลาว่าง ๆ ขอเชิญทอดน่องมายัง Hi Hug House@หนองรางนะครับ

-Slow life แบบ "อาบน้ำบ่อหิน กินผักพื้นบ้าน ปั่นจักรยานชมทุ่ง"555

-ด้วยความระลึกถึงครับ..

กราบสวัสดีปีใหม่มายังคุณหมอนะครับ

ด้วยความระลึกถึง ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท