งานเวที "ตลาดนัดโอกาสร้อยพลังเปลี่ยนประเทศ" ครั้งทึี่ ๑ ได้รวมพลังภาคสังคม+ภาคธุรกิจจำนวนกว่า ๑๐๐ องค์กรสนับสนุน " โครงการร้อยพลังเปลี่ยนประเทศ " เมื่อวันอังคารที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ณ สตูดิโอนาว ๒๖ สยามแสควร์ ซอย ๗ กรุงเทพมหานคร โดยตั้งเป้าหมายระดม ๔ ทรัพยากรสำคัญคือ อาสาสมัคร + เงินทุน + เครือข่าย + ความรู้ เพื่อหนุนเสริมโครงการเพื่อสังคมที่พร้อมขับเคลื่อนขยายผลกว่า ๓๐ โครงการให้มีความแข็งแกร่ง สามารถช่วยเหลือคนไทยกว่า ๔.๑๒ ล้านคน โดยได้เปิดตัว website www.thailandcollaborationforcechange.com เพื่อเป็นพื้นที่กลางเชื่อมต่อผู้สนับสนุนที่มีเป้าหมายสูงสุดในการสร้าง พลังร่วม (collective impact partnership) ให้ทุกภาคส่วนร่วมพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน
ในปัจจุบัน กลไกร้อยพลังเปลี่ยนประเทศ ได้ถูกนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาสังคม โดยมีโครการต่างๆที่พร้อมเชื่อมต่อทรัพยากร และการขยายผลจำนวนมาก โครงการเหล่านี้มีความก้าวหน้าและความสำเร็จในระดับที่สามารถนำมาสื่อสาร เพื่อเผยแพร่ขยายผลในการระดมทรัพยากร เริ่มต้นด้วยโครงการต้นแบบที่มุ่งเน้นในการคลี่คลาย ๕ ประเด็นปัญหาสำคัญ ที่สะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยมายาวนาน ได้แก่ ปัญหาเด็ก เกษตรกร คนชรา คนพิการ การทุจริตคอรัปชั่น ที่นำมาเสนอโดยผู้ขับเคลื่อนโครงการ และผู้สนับสนุนทุน ณ เวทีในวันนี้
๑. โครงการการพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชน : การเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ และกระบวนการแก้ปัญหาการตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของเยาวชนสตรี ร่วมนำเสนอโดยซิสเตอร์ยาณี ภานุรักษ์ อธิการิณี คณะภคินีศรีชุมพาบาล กทม.และคุณดวงทิพย์ เอี่ยมรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการใหญ่กลุ่มบริษัทพรีเมี่ย ที่ได้ร่วมกันมองเห็นปัญหาของเยาวสตรีในชุมชนยากจนเป็นจำนวนมาก ที่มาจากครอบครัวที่มีความแตกแยกและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สุ่มเสี่ยง เช่น ความเป็นอยู่ที่ยากไร้ปัจจัยการดำรงชีวิต การค้ามนุษย์ ยาเสพติด การล่วงละเมิดทางเพศและ ปัญหาสุขอนามัย เป็นต้น การช่วยเหลือจึงมุ่งเน้นให้เยาวชนสตรีเหล่านี้หลุดพ้นจากวงจรของปัญหา การให้ที่พึ่งพาอาศัย การบำบัดรักษาทางกายและจิตใจ ส่งเสริมการศึกษาและทักษะอาชีพ เพื่อบ่มเพาะให้เยาวชนได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเองได้และเป็นประโยชน์ต่อสังคม
๒.โครงการส่งน้องเรียน สร้างเด็กดี มุ่งช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสแบบต่อเนื่องและยั่งยืน ร่วมนำเสนอโดยอาจารย์ทิพย์สุดา สุเมธเสนีย์ กรรมการมูลนิธิยุวพัฒน์ คุณบุรินทร์ กันตะบุตร ผู้อุปการะทุนยุวพัฒน์ และคุณโมนา ศิวรังรรค์ ผู้อำนวยการมูลนิธิยุวพัฒน์ โครงการนี้ไม่เพียงแต่ให้เงินทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่มีความเสี่ยงที่จะต้องหยุดเรียน หรือต้องออกจากระบบการเรียนกลางคัน แต่ยังติดตามดูแล ให้คำแนะนำ รวมทั้งปลูก ฝังคุณธรรมที่ดีงามแก่นักเรียนทุนอย่างต่อเนื่องจนถึงชั้นมัธยมปีที่ ๖ หรือ ปวช.ที่๓
๓.โครงการสื่อดิจิทัลลดความเหลื่อมล้ำวิทย์-คณิต ร่วมนำเสนอโดยดร.ชัยณรงค์ มณเทียรวิเชียรฉาย ผู้อำนวยการกลุ่มสถาบันการศึกษาเซ็นต์จอห์น / ประธานสื่อมวลชนคาธอลิกแห่งประเทศไทย และคุณธานินทร์ ทิมทอง ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเลิร์น เอ็ดดูเคชัน จำกัด โครงการนี้เป็นการนำระบบการเรียนวิชาวิทยาศาตร์-คณิตศาสตร์ รูปแบบใหม่มาใช้ในโรงเรียน เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยครูเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเองให้แก่นักเรียน สร้างการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ ลดปัญหาขาดแคลนครู ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ เพิ่มผลสัมฤทธิ์ ลดความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพการศึกษาของประเทศ
๔.โครงการหลักสูตรสุจริตไทย ร่วมนำเสนอโดย ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทไอ เอ็ดดูเคชั่นโซน จำกัด และดร.มานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น(ประเทศไทย) ที่ได้สร้างหลักสูตรออนไลน์ให้ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการทุจริตต่างๆ วิถีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม การแยกแยะความถูก - ความผิด ความดี - ความชั่ว และการต่อต้านคอรัปชั่นที่เหมาะสมสำหรับนักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป
๕.โครงการคนกล้าคืนถิ่น ร่วมนำเสนอโดย ดร.สุมิท แช่มประสิทธิ์ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการออกแบบอนาคตประเทศไทย และ ดร.พีรยา หาญพงศ์พันธุ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โครงการนี้มุ่งเน้นการอบรมลูกหลานเกษตรกร ที่อยากกลับคืนถิ่นพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอน แต่ยังขาดความมั่นใจ โครงการจึงบ่มเพาะความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ที่สามารถพึ่งตนเเองได้อย่างยั่งยืน ตามบริบทที่แตกต่างกันแต่ละท้องถิ่น โดยยึดคนเป็นศูนย์กลางและบูรณาการการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุล เกิดเป็นต้นแบบความสำเร็จที่นำไปขยายผลให้ชุมชนเข้มแข็งต่อไป
๖.โครงการจ้างงานคนพิการเพื่อทำงานให้ชุมชนและองค์กรสาธารณประโยชน์ ร่วมนำเสนอโดย คุณอภิชาติ การุณกรสกุล ประธานมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม และดร.อุบล ยะไวทย์ณะวิชัย ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โครงการนี้มิใช่เพียงให้โอกาสแก่คนพิการ แต่ยังได้สร้างคุณค่าของคนพิการ ที่สามารถสร้างรายได้อันนำไปสู่การพึ่งพาตนเอง และมีความภาคภูมิใจ อีกทั้งการจ้างงานในรูปแบบที่ภาคธุรกิจเข้ามาร่วมโครงการและปฏิบัติภารกิจตามนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยความราบรื่นยั่งยืน
๗.โครงการลำสนธิไม่ทิ้งกัน ร่วมนำเสนอโดย นายแพทย์สันติ ลาภเบญจกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำสนธิ และนายแพทย์สมศักดิ์ ชุนหรัศมิ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ โครงการนี้ได้สร้างระบบบูรณาการความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาล หน่วยงานรัฐ และชุมชน เพื่อดูแลผู้ป่วยภาวะพึ่งพิง และผู้ป่วยภาวะสุดท้าย โดยเฉพาะผู้ป่วยยากไร้ ฐานะยากจน เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการดูแลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งผู้ป่วย ญาติผู้ป่วยและชุมชน
สำหรับกิจกรรมระดมทรัพยากร "งานตลาดนัดโอกาสร้อยพลังเปลี่ยนประเทศ "เช่นนี้ จะจัดขึ้นต่อเนื่องตลอดปี จนกว่าจะเกิดระบบนิเวศใหม่ของสังคมแห่งความร่วมมือ และทุกครั้งของการจัดงาน จะมีการเผยแพร่เอกสารรวมทั้งสื่อต่างๆที่รวบร่วมสถานะล่าสุดของโครงการร้อยพลังฯนี้ พร้อมทั้งระบุความต้องการและผลทางสังคม จึงอาจนับได้ว่า เป็นแหล่งรวมข้อมูลโครงการทางสังคมระดับประเทศเป็นครั้งแรกที่ประกาศต่อสาธารณชน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาร่วมสนับสนุนได้ โปรดคลิ๊กที่ :
www.thailandcollaborationforcechange.com
........................................................................................................................................
โครงการน่าสนใจมาก
เคยเจอทีมลำสนธิลพบุรีครับ
ขอบคุณมากๆครับ
แต่ละโครงการมีคุณค่า มีประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายทั้งนั้นเลยนะคะ เกิดประโยชน์ต่อบุคคลและสังคมมากๆ นะคะ
ขอบคุณพีี่ใหญามากๆค่ะ
แต่ละโครงการล้วนนำประโยชน์มาสู่สังคมทั้งนั้นเลยครับ
น่าชื่นชมและสนใจมากๆครับ
ตลาดนี้..มีพลัง เป็นความหวัง ของสังคมไทยครับคุณครู ^_^
ขออนุโมทนากับพี่ใหญ๋ในโครงการณ์ที่มีประโยชน์ทั้ง 7 โครงการณ์นี้ด้วยนะคะ อนุโมทนากับจิตอาสาและทุกองค์กรที่ร่วมมือกันจนสำเร็จค่ะ